MY PRIDE THAILAND: อัตลักษณ์ไทยหลากสีสัน สู่ Soft Power โลก
MY PRIDE THAILAND: ปลุกพลังอัตลักษณ์ไทยหลากสีสัน 50 คาแรคเตอร์ มุ่งขับเคลื่อน Soft Power สร้างแบรนด์ประเทศสู่เวทีโลก พร้อมรับ World Pride 2030 ดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์
KEY
POINTS
- "MY PRIDE THAILAND" เป็นชื่อแคมเปญสำคัญ ซึ่ง CEA, CISPI, ส.อ.ท. และ PBBO ร่วมกันขับเคลื่อน
- หัวใจสำคัญของแคมเปญนี้คือการออกแบบโลโก้และคาแรคเตอร์อัตลักษณ์ไทยมากกว่า 50 แบบ ด้วยสีสันสดใสหลากเฉดสี สะท้อนแนวคิด "We are all inclusive" และเสน่ห์ของความเป็นไทย (Thainess)
- มุ่งขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะประเทศที่เปิดกว้างบนเวทีโลก
- พร้อมรับการเสนอตัวของไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Pride 2030 คาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้กว่า 5 แสนถึง 1 ล้านคน
ทำความรู้จักเครื่องมือชิ้นใหม่ในการส่งเสริม ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ และ ‘เศรษฐกิจสร้างสรรค์’ เครื่องมือชิ้นนี้มีชื่อว่า MY PRIDE THAILAND หรือ ‘อัตลักษณ์ไทย’ 50 คาแรคเตอร์ร่วมสมัย สะท้อน ‘ความเป็นไทย’ และ ‘ความหลากหลาย’ ในทุกมิติ
พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนนำ อัตลักษณ์ไทย 50 คาแรคเตอร์ ดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ, ส่งเสริมการท่องเที่ยว, สร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในเวทีโลก ไปจนถึงสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030 ของประเทศไทย
เนื่องจากมีคำว่า Pride อยู่ชื่อ MY PRIDE THAILAND หลายคนอาจคิดว่าเป็นชุดอัตลักษณ์ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อสนับสนุนกิจกรรม Pride Month ของชาว LGBTQ+ ในเรื่องสิทธิและความเท่าเทียม
จุดเริ่มต้นเกิดจากแนวคิดดังกล่าวจริง แต่เมื่อคณะทำงานได้ลงมือคิด แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสร้างสรรค์อย่างจริงจังแล้ว เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ทำให้ MY PRIDE THAILAND ได้ขยายขอบเขตความหมายกว้างกว่านั้น กลายเป็น ความภาคภูมิใจของประเทศไทย หรือความภาคภูมิใจในความเป็นไทยซึ่งเต็มไปด้วยความหลากหลาย
ที่มาและองค์ประกอบ MY PRIDE THAILAND
ชุดอัตลักษณ์ MY PRIDE THAILAND เกิดจากความร่วมมือระหว่าง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA, สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และซอฟต์พาวเวอร์ (CISPI), สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) หรือ สสปน.
โดยมีทีมงาน Pink Blue Black & Orange (PBBO) นำโดย สยาม อัตตะริยะ เป็นผู้นำในการออกแบบชุดอัตลักษณ์ร่วม MY PRIDE ที่ประกอบด้วยโลโก้และ คาแรคเตอร์สุดครีเอทีฟมากกว่า 50 แบบ
สยาม อัตตะริยะ เป็นกราฟิกดีไซเนอร์ อันดับที่ 69 ของโลกในปี 2019 และ 2020 จัดอันดับโดย A’ Design Award and Competition หนึ่งในงานประกวดรางวัลออกแบบที่ใหญ่ที่สุดในโลก
งานออกแบบชุดอัตลักษณ์ MY PRIDE THAILAND ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม แต่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ลึกซึ้ง
เริ่มจาก โลโก้ “MY PRIDE” แต่ละตัวอักษรมีความหมายที่สะท้อนพลังแห่งความหลากหลายและความภาคภูมิใจในตัวตน ได้แก่
- M = Movement การเคลื่อนไหวที่พร้อมก้าวไปข้างหน้า
- Y = Yearlong ความภาคภูมิใจที่ยั่งยืน ยาวนาน โดยไม่จำกัดเพียงช่วง Pride Month
- P = Power พลังที่เกิดจากการโอบรับความหลากหลายทางเพศและการยอมรับ
- R = Respect การเคารพในความแตกต่างและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
- I = Identity ตัวตนอันหลากหลายที่ควรได้รับการยอมรับและมีพื้นที่ในการแสดงออก
- D = Diversity การยอมรับในความแตกต่าง ที่ทำให้ผู้คนในโลกนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอัตลักษณ์เฉพาะตัว
- E = Equality ความเท่าเทียม ที่เป็นหัวใจสำคัญของการอยู่ร่วมกันและปราศจากการเลือกปฏิบัติ
สำหรับการออกแบบ Key Visual ชุดอัตลักษณ์ไทย 50 คาแรคเตอร์ ได้รับการออกแบบด้วยแนวคิด We are all human และ We are all inclusive เพื่อสะท้อนว่าทุกคนล้วนมีคุณค่า เท่าเทียม อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขด้วยความรัก ความเข้าใจ การเคารพในความแตกต่าง และภาคภูมิใจในความเป็นไทย
โดยมีการใช้ สีสันหลากหลายยิ่งกว่าสีรุ้ง และมี กิมมิกไทยๆ สุดน่ารัก เช่น ภูเขาทอง รถเข็นขายก๋วยเตี๋ยว พญานาค ยักษ์วัดโพธิ์ ผ้าสามสี รวมถึงคาแรคเตอร์ที่ผสานคำยอดฮิตเป็นมุกขายขำเบา ๆ เช่น I love my job, งานจงผ่าน ฯลฯ
การนำไปใช้งานและการมีส่วนร่วม
นาง พิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล รองประธาน ส.อ.ท. และประธาน CISPI กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่ม LGBTQ+ ถือเป็นกำลังสำคัญที่สะท้อนถึงพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในระดับองค์กรและระดับอุตสาหกรรม
เดือนมิถุนายน ปี 2567 หน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันสนับสนุนการจัดกิจกรรม Pride Month เพื่อแสดงจุดยืนในการสนับสนุนสิทธิและความเท่าเทียมของประเทศไทย รวมถึงส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางของกลุ่ม LGBTQ+ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 860,000 คน สร้างรายได้กว่า 4,500 ล้านบาท
ดังนั้น CISPI เล็งเห็นความสำคัญของการอยู่ร่วมกันของกลุ่มคนที่มีความหลากหลาย เพื่อเติมเต็มคุณค่าทางเศรษฐกิจ จึงร่วมกับ CEA ริเริ่ม แคมเปญ Paint the City with “MY PRIDE” โดยใช้ผลงานออกแบบชุดอัตลักษณ์ของแคมเปญ “MY PRIDE” สื่อสารและสร้างการรับรู้เรื่องคุณค่าความเป็นไทย เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองช่วงเทศกาล Pride Month และในช่วงเวลาอื่น ๆ
ด้วยการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนนำ ชุดอัตลักษณ์ MY PRIDE THAILAND ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างยืดหยุ่นในผลิตภัณฑ์และบริการของไทย (Made in Thailand) สื่อสร้างสรรค์ หรือการจัดกิจกรรมต่างๆ อันจะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
บัตร Rabbit ของรถไฟฟ้าบีทีเอส
ปัจจุบันมีพันธมิตรกว่า 10 แบรนด์ที่นำ ‘ชุดอัตลักษณ์’ ไปต่อยอดเชิงพาณิชย์แล้ว เช่น บัตร Rabbit โดย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน), S&P โดย บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด, บริษัท โชคชัยพิบูล จำกัด, Kohkae โดย บริษัท โรงงานแม่รวย จำกัด
Moreloop โดย บริษัท มอร์ลูป จำกัด, ยืดเปล่า โดย บริษัท เริ่มใหม่ จำกัด, Greyhound โดย บริษัท เกรฮาวด์ จำกัด
ICHITAN โดย บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด, บริษัท แปซิฟิคแปรรูปสัตว์น้ำ จำกัด, บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป และบริษัท สยาม เอ็ม. ซี. จำกัด
แคมเปญ Paint the City with “MY PRIDE” ไม่ได้จำกัดเฉพาะช่วง Pride Month เท่านั้น แต่เป็นความภาคภูมิใจที่ยั่งยืน ยาวนานตลอดทั้งปี
ขณะที่นางสาวปาริฉัตร เศวตเศรนี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการจัดงานเมกะอีเวนต์และเทศกาลนานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB กล่าวเสริมว่า
รัฐบาลส่งเสริมนโยบายการดึงงานระดับโลกเข้าสู่ประเทศไทย ทีเส็บในฐานะหน่วยงานหลักที่ส่งเสริมการจัดงานไมซ์และอีเวนต์ของประเทศไทย พร้อมร่วมเป็นพันธมิตรขับเคลื่อนแคมเปญ Paint the City with “MY PRIDE” และอัตลักษณ์ MY PRIDE THAILAND ผ่านการสนับสนุนการดึงงานระดับโลกเข้าสู่ประเทศไทย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเสนอตัวประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดงาน World Pride 2030 ซึ่งเป็นงานมหกรรมไพรด์ระดับนานาชาติ เพื่อสนับสนุนสิทธิและความหลากหลายทางเพศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
"โดย สสปน. จะนำอัตลักษณ์ MY PRIDE THAILAND สนับสนุนงานอย่างเป็นรูปธรรม เชื่อมโยงเครือข่ายแคมเปญร่วมสร้างเครือข่ายไทยทีมทุกภาคส่วนผ่านกลยุทธ์ 3P (Public Private Pride Partnership) โดยรวบรวมพันธมิตรภาครัฐ เอกชน ประชาชน และองค์กรไพรด์ทั่วประเทศ ร่วมสนับสนุนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงาน World Pride 2030
ซึ่งหากไทยประมูลสิทธิการจัดงานได้สำเร็จ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานทั้งคนไทยและต่างชาติกว่า 5 แสนถึง 1 ล้านคน สร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศกว่า 24,680 ล้านบาท
นอกจากนี้ ทีเส็บจะเดินหน้าส่งเสริมการขับเคลื่อนแคมเปญนี้ ผ่านการสนับสนุนการจัดงานขององค์กรไพรด์ทั่วประเทศอีกด้วย" นางสาวปาริฉัตร กล่าว
- องค์กรหรือภาคเอกชนที่สนใจสามารถติดต่อเข้าร่วมโครงการขอนำอัตลักษณ์ไปใช้ได้ที่อีเมล [email protected]