พระราชินีฉลองพระองค์ผ้าไทย ทรงสืบสานพระราชกรณียกิจด้านวัฒนธรรม

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าทอของไทย ขณะเสด็จฯ เยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ทรงเผยแพร่วัฒนธรรมไทยและสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างงดงาม
สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงสืบสานพระราชปณิธาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในด้านการอนุรักษ์ผ้าไทย ทั้งยังเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกรทั่วหล้า
เมื่อไม่นานมานี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25-28 เมษายน 2568 นับเป็นการเสด็จพระราชดำเนิน เยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ หรือ State Visit ครั้งแรกในรัชสมัย
การนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไทยตัดเย็บแบบร่วมสมัย นับตั้งแต่วันแรกที่เสด็จพระราชดำเนินถึงประเทศภูฏาน ทรงสง่างามผสานความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลก เป็นที่ประทับใจแก่เหล่าพสกนิกร ด้วยชุดผ้าทั้งแบบพระราชนิยมและแบบไทยร่วมสมัย
ทั้งนี้ ฉลองพระองค์แรกทรงสวมใส่ในแบบไทยสากล ตัดเย็บด้วยผ้าไหมแพรวา ฝีมือของสมาชิกศิลปาชีพผ้าไหมแพรวา บ้านโพน จังหวัดกาฬสินธุ์ รังสรรค์เทคนิคจกและขิด เกิดเป็นลวดลายใบนุ่นก้านก่อง ลายนาคคอคต สลับลายในหัวนาคหัวสร้อย สะท้อนอัตลักษณ์พื้นถิ่นที่ได้รับฉายาว่าเป็นราชินีแห่งผ้าไหมด้วยความประณีต บรรจง
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังป้อมทาชิโช กรุงทิมพู ณ ที่นั้น สมเด็จพระราชาธิบดี และสมเด็จพระราชินี แห่งภูฏาน ทรงจัดพิธีรับเสด็จอย่างเป็นทางการ ทรงพระดำเนินตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ
โอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ด้วยชุดไทยอมรินทร์ ผ้าไหมพื้นเรียบปักลูกปัด พระภูษาผ้าไหมยกดอกกลีบบงกช
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังลานเทนเดรลทัง ทอดพระเนตรการแสดงขบวนพาเหรดและสวนสนาม รวมทั้งการแสดงทางวัฒนธรรม และ ณ อัฒจันทร์แห่งนั้น มีประชาชนชาวภูฏานร่วมถวายการรับเสด็จและชื่นชมพระบารมี
ในช่วงค่ำของวันที่ 25 เมษายน 2568 สมเด็จพระราชาธิบดี และสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน จะถวายพระกระยาหารค่ำอย่างเป็นทางการ ณ พระราชวังเดเชนโชลิง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีทรงฉลองพระองค์ ด้วยชุดไทยอมรินทร์ หนึ่งในชุดไทยพระราชนิยมแปดแบบ ตั้งตามชื่อพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง ใช้ในงานพระราชพิธี และงานพิธีกลางคืน
ในชุดเดียวกันนี้ ปักประดับลวดลายพรรณพฤกษาบนฉลองพระองค์ รับกับพระสังวาลและการประดับนพพระอังสารูปหงส์ เชิงพระภูษาปักประดับเพิ่มความโดดเด่นและงดงาม
ส่วนวันที่ 26 เมษายน 2568 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีทรงประกอบพระราชกรณียกิจ เสด็จพระราชดำเนินยังสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปดอร์เดนมา เพื่อร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล ต่อจากนั้น สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งภูฏาน พระองค์ที่ 4 เสด็จพระราชดำเนินมาเฝ้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ ห้อง 508 โรงแรมเพมาโกะ ทิมพู ประเทศภูฏาน
การนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ผ้าปักจากชาวไทยภูเขาเผ่ามูเซอ (ลาหู่) และทรงถือกระเป๋าที่ทำจากผ้าลายเดียวกัน สะท้อนความอ่อนช้อยของวัฒนธรรมของชนเผ่าอย่างมีเอกลักษณ์
ช่วงบ่ายในวันเดียวกัน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการความร่วมมือระหว่างมูลนิธิโครงการหลวงของไทย กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภูฏาน และทอดพระเนตรนิทรรศการโครงการเดชุง (De-suung) และโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (One Gewog One Product : OGOP) ยังโครงการหลวงเดเชนโชลิง ประเทศภูฏาน
โอกาสนี้ ทรงฉลองพระองค์ผ้าจกทอสีชมพู ตัดเย็บในแบบร่วมสมัย นับเป็นอีกชุดหนึ่งที่เชิดชูหัตถศิลป์อันเป็นการต่อยอดงานทอผ้าชั้นสูงให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับสากล
ในตอนค่ำ ทรงร่วมในงานถวายพระกระยาหารค่ำ เป็นการส่วนพระองค์ ณ พระราชวังลิงคานา (Lingkana Palace) ทรงฉลองพระองค์ผ้าไหมจกลายราชบุรี ฝีมือการทออันประณีตของสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ส่วนชุดฉลองพระองค์ที่ตัดเย็บด้วยผ้าจก ฝีมือการทอผ้าโดยสมาชิกศิลปาชีพจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยเทคนิคดั้งเดิม นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผ้าไทยได้เผยความงดงามงานหัตถศิลป์ทรงคุณค่า
การนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงสวมใส่ในวันที่ 27 เมษายน 2568 เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชวังลิงคานา เพื่อทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมของภูฏาน ณ ที่แห่งนั้น ทรงร่วมยิงธนูอันเป็นกีฬาพื้นบ้าน ในพระราชอิริยาบถทรงพระเกษมสำราญ
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังตลาดกลางประจำกรุงทิมพู ทรงรับฟังการบรรยายสรุปและทอดพระเนตรนิทรรศการของโครงการอาสาสมัครเดซุง
ส่วนวันสุดท้ายของหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศภูฏานอย่างเป็นทางการ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังป้อมดุงการ์ ณ เมืองพาโร ทรงสักการะพระศากยมุนีและทอดพระเนตรกิจกรรมของราชวิทยาลัย และนิทรรศการเกี่ยวกับโครงการพัฒนาเมืองเกเลฟูให้เป็นเมืองแห่งสติปัญญาในเขตปกครองพิเศษ
ทรงเลือกฉลองพระองค์ในชุดสีน้ำเงินประดับเครปบน พระอังษา อันสง่างามแฝงไว้ด้วยความคล่องตัว แล้วเสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินพระที่นั่งกลับ ถึงท่าอากาศยานทหาร เสร็จสิ้นพระราชกรณียกิจแห่งการกระชับความสัมพันธ์ราชวงศ์ไทยและภูฏานอย่างแน่นแฟ้นและอบอุ่น







