เปิดกรุคัมภีร์ใบลาน หนังสือสมุดไทย งานอนุรักษ์เอกสารโบราณ 'วัดเบญจมบพิตร'

เปิดกรุคัมภีร์ใบลาน หนังสือสมุดไทย งานอนุรักษ์เอกสารโบราณ 'วัดเบญจมบพิตร'

กรมศิลปากร ถวายคัมภีร์ใบลาน ไม่ต่ำกว่า 150 ผูก หนังสือสมุดไทย 6 เล่ม พร้อมหนังสือบัญชีทะเบียน ‘เอกสารโบราณ’ วัดเบญจมบพิตร แด่เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตร จากโครงการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดเบญจมบพิตร

กรมศิลปากร โดย ‘สำนักหอสมุดแห่งชาติ’ ได้ดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่าง วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร กับกรมศิลปากร เพื่อเผยแพร่ผลงานการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดเบญจมบพิตร

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ‘การอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดเบญจมบพิตร’ เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากโครงการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดเบญจมบพิตร ปีงบประมาณ 2565 ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2565 ถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 รวมระยะเวลา 5 เดือน

เปิดกรุคัมภีร์ใบลาน หนังสือสมุดไทย งานอนุรักษ์เอกสารโบราณ 'วัดเบญจมบพิตร' วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร

ในการปฏิบัติงานอนุรักษ์ฯ ดังกล่าว ได้บูรณาการประสานความร่วมมือระหว่างกรมศิลปากร คณะสงฆ์ และประชาชน สร้างการรับรู้อย่างเป็นรูปธรรม เกิดเครือข่ายอาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม (อส.มศ.) รุ่นแรกในส่วนกลาง ซึ่งเป็นรุ่นบุกเบิกของการสร้างเครือข่ายดูแลรักษาเอกสารโบราณให้ขยายวงกว้างออกไป

การดำเนินการครั้งนี้สอดรับพันธกิจของ  ‘กรมศิลปากร’ ที่ต้องธำรงรักษา อนุรักษ์ สืบสาน มรดกทางศิลปวัฒนธรรมซึ่งเป็นภูมิปัญญาของบรรพชนจากรุ่นสู่รุ่นให้คงอยู่สืบไป 

เปิดกรุคัมภีร์ใบลาน หนังสือสมุดไทย งานอนุรักษ์เอกสารโบราณ 'วัดเบญจมบพิตร' พนมบุตร จันทรโชติ ประธานในพิธีถวายผลงานการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดเบญจมบพิตร

ทั้งนี้นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวส่งมอบ ผลงานการอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดเบญจมบพิตร เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันพุธที่ 15 มีนาคม 2566 เวลา 09.00 น. ณ วัดเบญจมบพิตร เขตดุสิต กรุงเทพฯ พร้อมมอบเกียรติบัตรแก่ภาคีเครือข่ายอาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม ผู้ปฏิบัติงานอนุรักษ์เอกสารโบราณ

“ความสำเร็จของการดำเนินงานครั้งนี้  จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่สร้างความมั่นใจในการเป็นผู้นำการอนุรักษ์ให้กับประชาชน และสร้างการรับรู้แก่ชุมชนท้องถิ่นที่อยู่ใกล้ชิดเอกสารโบราณ โดยมีวัดเป็นแหล่งเอกสารโบราณ และคณะสงฆ์เป็นผู้เก็บรักษาสมบัติล้ำค่าเหล่านี้ไว้”  อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว

เปิดกรุคัมภีร์ใบลาน หนังสือสมุดไทย งานอนุรักษ์เอกสารโบราณ 'วัดเบญจมบพิตร' พิธีถวายผลงานอนุรักษ์เอกสารโบราณวัดเบญจมบพิตร

คณะทำงานอนุรักษ์ฯ สรุปผลความสำเร็จของการดำเนินงานไว้ ดังนี้

1. กรมศิลปากร ได้ดำเนินการอนุรักษ์จัดทำทะเบียนเอกสารโบราณ ซึ่งเป็นการจัดระบบเอกสารโบราณ เพื่อให้บริการตามหลักวิชาการ ดำเนินการออกเลขทะเบียนบัญชีรายชื่อเอกสารโบราณประเภท คัมภีร์ใบลาน จำนวนมากถึง 425 มัด ออกรหัสเลขที่ได้ 719 เลขที่ รวมทั้งสิ้นจำนวน 6,275 ผูก และเอกสารโบราณประเภท หนังสือสมุดไทย จำนวน 6 เล่ม ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งเอกสารโบราณกลางกรุงที่ใหญ่มาก และได้รับการพัฒนาไปสู่แหล่งเรียนรู้อีกระดับหนึ่ง 

เปิดกรุคัมภีร์ใบลาน หนังสือสมุดไทย งานอนุรักษ์เอกสารโบราณ 'วัดเบญจมบพิตร'

เปิดกรุคัมภีร์ใบลาน หนังสือสมุดไทย งานอนุรักษ์เอกสารโบราณ 'วัดเบญจมบพิตร'

คัมภีร์ใบลาน อายุ 380 ปี สมัยอยุธยา

2. เอกสารโบราณเหล่านี้มีความสำคัญไม่แพ้ความสำคัญของ ‘วัด’ โดยเฉพาะ คัมภีร์ใบลาน มีการสืบสายธารแห่งประวัติศาสตร์ไม่ขาดสาย ถึง 3 สมัย ได้แก่ คัมภีร์ใบลานสมัยอยุธยา สมัยธนบุรี และสมัยรัตนโกสินทร์ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 150 ผูก และพบคัมภีร์ที่เก่าแก่แต่ละสมัย ดังนี้ 

  • สมัยอยุธยา ได้แก่ วบจ.๒๒-๒๕  (วัดเบญจมบพิตร เลขที่ ๒๒-๒๕) เรื่อง วิมติวิโนทนี วินยฎีกา สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พ.ศ.2186 อายุ 380 ปี 
  • สมัยธนบุรี ได้แก่ วบจ.๓๓๘ (วัดเบญจมบพิตร เลขที่ ๓๓๘) เรื่อง สารสังคหะ 
  • สมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พ.ศ.2320 อายุ 246 ปี 
  • สมัยรัตนโกสินทร์ ได้แก่ วบจ.๒๗๑ (วัดเบญจมบพิตร เลขที่ ๒๗๑) เรื่อง ธรรมบทอัฏฐกถา 
  • สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (ร.1) พ.ศ.2328 อายุ 238 ปี

เปิดกรุคัมภีร์ใบลาน หนังสือสมุดไทย งานอนุรักษ์เอกสารโบราณ 'วัดเบญจมบพิตร' คัมภีร์ใบลานสมัยรัตนโกสินทร์

3. พบ คัมภีร์ใบลานสมัยรัตนโกสินทร์ ที่สืบต่อกันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 6 ทำให้เห็นว่า วัดเบญจมบพิตร เป็นแหล่งเอกสารโบราณที่สามารถศึกษาเปรียบเทียบยุคสมัยของตัวอักษรแต่ละรัชกาลได้ในแหล่ง เอกสารเดียวกัน 

พร้อมกันนี้ ยังศึกษาประวัติศาสตร์การสร้างคัมภีร์ถวายในพระพุทธศาสนาในช่วงเปลี่ยนผ่านจาก ใบลานสู่กระดาษแบบฝรั่ง

เปิดกรุคัมภีร์ใบลาน หนังสือสมุดไทย งานอนุรักษ์เอกสารโบราณ 'วัดเบญจมบพิตร' คัมภีร์ใบลาน สร้างโดยกรมพระยาดำรงราชานุภาพ

4. สมัยรัชกาลที่ 5 มีการปริวรรตพระไตรปิฎกจากอักษรขอมเป็นอักษรไทยจัดพิมพ์เป็นพระไตรปิฎก ฉบับพิมพ์อักษรไทยเป็นครั้งแรกของโลก หลังจากนั้นจึงไม่มีการผลิตซ้ำทำเพิ่มคัมภีร์ใบลาน 

แต่ในความเป็นจริง คัมภีร์ใบลานยังคงความศักดิ์สิทธิ์และศรัทธาสืบมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 6 กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้สร้างคัมภีร์ใบลานถวายไว้ในพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก และเจาะจงสร้างถวายเป็นการเฉพาะสำหรับ ‘วัดเบญจมบพิตร’ อีกด้วย ตัวอย่างเช่น คัมภีร์ใบลาน เลขที่ ๕๒๔ เรื่อง เวสสันตรชาตกกถา พ.ศ.2461 อายุ 105 ปี

เปิดกรุคัมภีร์ใบลาน หนังสือสมุดไทย งานอนุรักษ์เอกสารโบราณ 'วัดเบญจมบพิตร' คัมภีร์ใบลานแห่งกรุงรัตนโกสินทร์

5. ข้อสันนิษฐาน คัมภีร์ใบลาน เลขที่ วบจ.๑๖๑ เรื่อง มังคลัตถทีปนี ใช้นามผู้สร้างว่า ‘เจ้าทับ’ พ.ศ.2386 อายุ 180 ปี ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และสอดคล้องกับพระนามเดิมของ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

จึงสันนิษฐานว่า ร.3 สร้างเป็นการส่วนพระองค์จึงให้ชื่อว่า ‘เจ้าทับ’ ตาม พระนามเดิมของพระองค์ ไม่ประทับตราพระราชลัญจกร

เปิดกรุคัมภีร์ใบลาน หนังสือสมุดไทย งานอนุรักษ์เอกสารโบราณ 'วัดเบญจมบพิตร' เปิดกรุคัมภีร์ใบลาน หนังสือสมุดไทย งานอนุรักษ์เอกสารโบราณ 'วัดเบญจมบพิตร' เปิดกรุคัมภีร์ใบลาน หนังสือสมุดไทย งานอนุรักษ์เอกสารโบราณ 'วัดเบญจมบพิตร' เปิดกรุคัมภีร์ใบลาน หนังสือสมุดไทย งานอนุรักษ์เอกสารโบราณ 'วัดเบญจมบพิตร' เปิดกรุคัมภีร์ใบลาน หนังสือสมุดไทย งานอนุรักษ์เอกสารโบราณ 'วัดเบญจมบพิตร'

ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่ทำให้มรดกภูมิปัญญาและแหล่งศึกษาเรียนรู้นี้มีประโยชน์และทรงคุณค่าต่อไป คือการเผยแพร่ต่อสาธารณชน ให้ผู้สนใจและใฝ่รู้ทั้งหลายได้หันมามองสิ่งอันเป็นมรดกศิลปวัฒนธรรมเหล่านี้อย่างจริงจัง ย่อมสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศไทย ดังคำกล่าวที่ว่า วัฒนธรรมสร้างชาติ นั่นเอง