เปิดประวัติ 30 ปีในผ้าเหลือง “พระมหาสมปอง” สู่ “นายสมปอง นครไธสง”

เปิดประวัติ 30 ปีในผ้าเหลือง “พระมหาสมปอง” สู่ “นายสมปอง นครไธสง”

"พระมหาสมปอง" ลาสิกขาเพื่อเข้าสู่ชีวิตฆราวาสอย่างเต็มตัว เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2564 หลังครอบครองผ้าเหลืองมาเป็นเวลานานกว่า 30 ปี

พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พระนักเทศน์คนดังแห่งวัดสร้อยทอง ได้ลาสิกขาเพื่อเข้าสู่ชีวิตฆราวาสอย่างเต็มตัว เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2564 หลังครอบครองผ้าเหลืองมาเป็นเวลานานกว่า 30 ปี

กฎเกณฑ์ทางศาสนาถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างมาก แม้ว่าจะมีข้อถกเถียงการกระทำของ พระมหาสมปอง หลากหลายความคิดเห็น แต่ต้องยอมรับว่าเด็กๆ หลายคนได้เรียนรู้ และศึกษาพุทธศาสนามากขึ้น จากรายการธรรมะเดลิเวอรี่ จนทำให้ พระมหาสมปอง แจ้งเกิดเป็นพระนักเทศน์ชื่อดัง

 

  • ประวัติ และการศึกษา

พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2521 ที่ จ.ชัยภูมิ บวชเป็นเณรที่วัดตาลเรียง ตั้งแต่อายุ 12 ปี จนปัจจุบันจำพรรษาอยู่ที่วัดสร้อยทอง (พระอารามหลวง) กรุงเทพมหานคร ก่อนลาสิกขาในวันที่  29 ธ.ค.2564

การศึกษา

1. เปรียญธรรม 7 ประโยค

 2. ปริญญาตรี พุทธศาสตร์บัณฑิต(พธ.บ.) เอกปรัชญา (เกียรตินิยมอันดับ 1)  มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

 3. ปริญญาโท สังคมสงเคราะห์ศาสตร์มหาบัณฑิต (สส.ม.) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 4. ปริญญาโท พุทธศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (พธ.ม.) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

 5. ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการบริหารการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์  มหาวิทยาลัยปทุมธานี

  • พระเจ้าของแนวคิด ธรรมะไม่จำเป็น ต้องอยู่ที่วัด

พระมหาสมปอง เป็นเจ้าของต้นตำรับธรรมะเดลิเวอรี่ ด้วยแนวคิดที่ว่า ธรรมะไม่จำเป็น ต้องอยู่ที่วัด ธรรมะไปได้ทุกที่ ถ้าที่นั่นต้องการธรรมะ

พระมหาสมปอง ได้อธิบายว่า การเทศน์แบบเดลิเวอรี่ไม่ใช่สิ่งใหม่ มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล

การเผยแผ่ธรรมะของพระมหาสมปองนั้น มีรูปแบบการนำเสนอเนื้อหาที่ให้ทั้งสาระทางธรรมและเนื้อหาความบันเทิงสนุกสนาน โดยมีสโลแกน 5 ส. คือ สงบ สนุก สติ สำนึก สาระ

  • ความสำเร็จในฐานะพระนักเทศน์

พระมหาสมปอง เป็นนักเผยแผ่ธรรมะ ที่ได้รับฉายา นักเทศน์คิวทอง มีงานติดต่อรับกิจนิมนต์ไม่ต่ำกว่า 200 งานต่อเดือน และเป็นผู้ก่อตั้งทีมงาน “ธรรมะเดลิเวอรี่”  ในช่วงแรกสื่อโทรทัศน์มีส่วนสำคัญต่องานการเผยแผ่ธรรมะมาก ผลจากการออกรายการ “มันแปลกดีนะ” เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2549 ทำให้ธรรมะเดลิเวอรี่และพระมหาสมปองกลายเป็นที่รู้จักในระดับประเทศ และหลังจากนั้นได้มีการติดต่อไปออกรายการทีวีรายการอื่นอย่างต่อเนื่อง จนสร้างชื่อเสียงให้ในที่สุด ทำให้มีงานติดต่อนิมนต์เชิญไปบรรยายธรรมมากขึ้นกว่าเดิม

จาก 20 งานต่อเดือน มาเป็น 100 - 200 งานต่อเดือน จนพระมหาสมปองไม่สามารถไปบรรยายได้ทั่วถึง พระมหาสมปองจึงได้ริเริ่มจัดตั้งทีมงาน ธรรมะเดลิเวอรี่ ขึ้นมาเพื่อรองรับงานรับเชิญที่มีจำนวนมาก พร้อมกับทำสื่อเผยแผ่ธรรมะในรูปวีซีดีจำหน่าย เพื่อนำรายได้บริจาคให้วัดพระบาทน้ำพุ  รวมทั้งออกหนังสือธรรมะสำหรับเดลิเวอรี่ ไปยังกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ได้แก่ วัยรุ่น คู่รัก วัยทำงาน ครอบครัว และวัยเกษียณ และได้ร่วมกับทีมงานพัฒนาทำเว็บไซต์ ธรรมะเดลิเวอรี่ เพื่อให้ผู้ฟังธรรมะสามารถเข้าถึงได้ 24 ชั่วโมงทุกสถานที่ทั่วประเทศ

  • ปัจจุบัน หลังลาสิกขาเป็น นายสมปอง นครไธสง

การลาสิกขาของอดีต "พระมหาสมปอง" ก็ได้มีการวางแผนทำธุรกิจหลายอย่างโดย เตรียมมุ่งไปทำธุรกิจครบวงจรภายใต้ชื่อแบรนด์ "แม่ปอง" โดยจะทำธุรกิจคอสเมติกหรือแม่ปอง คอสเมติก , แม่ปองของกิน (ปลาร้า น้ำพริก กาแฟ) , แม่ปองของใช้ (ยาสีฟัน) , การเขียนหนังสือ หรือทำรายการชวนวัยรุ่นเข้าวัด อาจชักชวนน้องจัดร่วมกัน (อดีตพระมหาไพรวัลย์) , ค่ายเพลง แม่ปองฮักมิวสิคที่เชียงใหม่ รับออดิชั่นรับคนทุกเพศวัยมาร้องเพลง , และรับรีวิวสินค้ารวมถึงสินค้าบางอย่างจะฝาก "พิมรี่พาย" ขาย โดยทุกยอดการขายจะคืนสู่สังคม 10%

---------------------------------------

อ้างอิง : มูลนิธิสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (มสวท.)