สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า กับบทบาท การคุมกติกาการค้าที่เป็นธรรม

สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า กับบทบาท การคุมกติกาการค้าที่เป็นธรรม

สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า กับบทบาท การคุมกติกาการค้าที่เป็นธรรม

สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สขค.) หรือ Office of Tradeคณะกรรมการการแข่งขัน (OTCC)เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้าพ.ศ. 2560 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่5 ตุลาคม 2560 และบัญญัติให้จัดตั้ง สขค.ขึ้นเป็นหน่วยงานของรัฐที่ ไม่เป็นส่วนราชการ ไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ และมีฐานะเป็นนิติบุคคล ในลักษณะหน่วยธุรการขององค์การของรัฐที่เป็นอิสระ (Independent

Administrative Organization) ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานธุรการของ คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 7 คน ประกอบด้วย ศาสตราจารย์สกนธ์ วรัญญูวัฒนา ประธานกรรมการการ

แข่งขันทางการค้า พร้อมด้วย นายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์ รองประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้า และกรรมการการแข่งขันทางการค้า อีก 5 ท่านได้แก่ นายสมชาติ สร้อยทอง นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์

นายสมเกียรติ ตันกิตติวัฒน์ ดร.ปัทมา เธียรวิศิษฎ์สกุล และ ดร.รักษเกชา แฉ่ฉาย โดยคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้ามีหน้าที่ในการควบคุมกำกับดูแลด้านการแข่งขันทางการค้า ซึ่งเป็นนโยบายที่สำคัญ

และต้องการความเป็นกลางอย่างเคร่งครัดปราศจากแทรกแซงจากอำนาจทางการเมือง

โดยมี นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เป็นผู้รับผิดชอบการปฏิบัติงานของสำนักงานฯ และเป็นแกนนำสำคัญ ของสำนักงานฯในการขับเคลื่อนการ ปฏิบัติงานของสำนักงานฯ ให้สำเร็จและบรรลุตามพันธกิจได้อย่างสมบูรณ์

         สขค. มีหน้าที่หลักในการสร้างกติกาในการกำกับดูแล และส่งเสริมให้กระบวนการด้านการแข่งขันทางการค้า เป็นไปอย่างเสรีและเป็นธรรม เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ ธุรกิจการค้าของประเทศ โดยมีภารกิจหลักสำคัญ 2 ด้านคือ 1. การบังคับใช้กฎหมาย (Law Enforcement) 2. การเสริมสร้าง สภาพแวดล้อมการแข่งขันทางการค้า(Advocacy) และยังมุ่งในประเด็นอื่น ๆ ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มขีดความสามารถให้กับ SMEs ผ่านระบบการเสริมสภาพคล่อง และเพิ่มบทบาทให้ สามารถแข่งกับธุรกิจรายใหญ่ได้ การจับตาพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรม

รวมทั้งช่องว่างของกฎหมาย – กฎระเบียบในบางส่วนที่เป็นตัวแปรไปสู่การจำกัด- กีดกัน หรือผูกขาดทางการค้า ซึ่งเป็นอุปสรรคด่านใหญ่ของประเทศไทยในขณะนี้และยังรวมไปถึงการพัฒนาเครื่องมือ ที่จำเป็นในการติดตามสถานการณ์ การค้าโลก รวมถึงธุรกิจที่จะเกิดขึ้นใหม่ๆที่ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันทางการค้า หรือผู้บริโภค

         หลังจากเกิดวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19 ท าให้พฤติกรรมของ ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมากและยังทำให้โครงสร้างการแข่งขันในตลาดขาดความสมดุล เนื่องด้วยธุรกิจบางกลุ่มเติมโตอย่างก้าวกระโดด ได้แก่ ธุรกิจ บริการแพลตฟอร์มต่างๆ และ ขณะที่ธุรกิจบางกลุ่มต้องล้มเลิกกิจการไป เช่น ธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม โดยที่ผ่านมา กขค.ได้มีการทบทวนข้อกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายให้มีความครอบคลุมและทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และล่าสุดได้มีการจัดทำแนวทางการพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่เป็นธรรมเกี่ยวกับระยะเวลาการให้สินเชื่อการค้า (Credit Term)

สำหรับเอสเอ็มอีเพื่อสร้างบรรทัดฐานในการปฏิบัติทางการค้าที่ชัดเจน ถูกต้องเป็นธรรมและเป็นกลไกป้องกันความเหลี่อมล้ำจากอำนาจต่อรองจนนำไปสู่ การปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม รวมทั้งจะมีผลให้เอสเอ็มอีมีสภาพคล่องทางการเงินอีกทางหนึ่งด้วย

         หากผู้ประกอบธุรกิจพบพฤติกรรม การกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า หรือได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียนโดยตรงด้วยตนเองได้ที่สำนักงานคณะ กรรมการการแข่งขันทางการค้า โทรศัพท์ 02-199-5444 เว็บไซต์ otcc.or.thอีเมล [email protected] หรือส่งข้อมูล ทางไปรษณีย์ ระบุผู้รับ ‘เรียน เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ส่งมาที่ อาคารจอดรถ 5 ชั้น (BC)ชั้น 5 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ80 พรรษา เลขที่ 120 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10200

         “กฎหมายการแข่งขันทางการค้า” ถือเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจการค้าของประเทศอย่างมากโดยเฉพาะด้านของการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นในตลาด รวมทั้งผู้บริโภคที่จะได้ประโยชน์จากการแข่งขัน เนื่องจากสามารถ

เลือกซื้อสินค้าได้หลากหลาย มีคุณภาพและราคาที่เป็นธรรม.