‘เหลาริมทาง’ ร้าน ‘อาเล็กราชวงศ์’ อีหมี่ อร่อยล้ำมานาน 79 ปี

หอยนางรมแป้งกรอบ แป้งบางกรอบหอยนางรมตัวใหญ่ๆอวบๆกลมสดหอมหวาน

วันนี้หมูหวานอยากแนะนำร้าน “เหลาริมทาง” ฝีมือระดับตำนาน “อาเล็กราชวงศ์” เก๋ามานาน 79 ปี เริ่มกิจการจากรุ่นก๋งในปีพศ. 2485 วันนี้ดูแลโดยรุ่นที่ 3  คุณกมล ตรีสิทธิเชษฐ์  วัย 57 ปี เขาเล่าว่าร้านนี้เริ่มจากก๋ง เลี่ยวตุง แซ่แต้ เป็นคนซัวเถา ประเทศจีน แรกๆมาเป็นลูกจ้างร้านอาหาร ก่อนออกมาทำเส้นบะหมี่เอง หาบขาย ส่วนใหญ่ปักหลักแถวหน้าร้านสีฟ้า สมัยนั้นขายเฉพาะน้ำกับกาแฟ ลูกค้าจอดรถเดินเข้าไปนั่งในร้านสีฟ้า สั่งน้ำ แล้วสั่งอาหารจากหาบเร่เข้าไปรับประทาน ถือว่าเป็นคู่ค้าที่มากน้ำใจไมตรีของคนสมัยก่อน ฉันได้ขายน้ำ เธอได้ขายอาหาร ตอนหลังพ่อค้าหาบเร่ขายอาหารเก็บเงินตั้งตัวได้ ไปเปิดร้านของตัวเอง รวมทั้ง อาก๋งเลี่ยวตุง ร้านสีฟ้าต้องทำอาหารขายเองนับแต่นั้น

 

ปีพศ. 2490 เจ้าของห้างทองตั้งโต๊ะกัง ทำตึกแถวขายย่านสุขุมวิท ชวน “คุณเลี่ยวตุง” ไปเซ้งตึกให้ราคาพิเศษ จึงย้ายจากราชวงศ์มาปักหลักขายอยู่แถวถนนสุขุมวิท ขายได้ประมาณ 30 ปี (พศ.2526)  ก็ปิดร้าน เพราะถนนสุขุมวิทก่อสร้างแนวรถไฟฟ้า ช่วงนั้นรุ่นที่ 2 (คุณดนัย ตรีสิทธิเชษฐ์ พ่อของคุณกมล)ทำธุรกิจขายรถมือสองด้วย จึงหยุดทำร้านอาหารไป 10 ปี  พศ. 2536 เพื่อนของรุ่นที่ 2 ชวนเข้าหุ้นเปิดร้านอาหารอีกครั้ง จึงมี “อาเล็กราชวงศ์” ที่อาคารบุญผ่อง แถวซอยราชครู ถนนพหลโยธิน ทำได้ 2 ปีก็แยกกัน รุ่นที่ 2 จึงไปเปิดกิจการอีกหลายสาขา

ทายาทรุ่นที่ 3 ของร้าน "อาเล็กราชวงศ์"

ทายาทรุ่นที่ 3 ของร้าน “อาเล็กราชวงศ์” เล่าว่าตัวเขาเองเพิ่งมาช่วยคุณแม่ดูแลร้านเมื่อปี 2545 เพราะหลังจากเรียนจบด้านช่างกล ที่วิทยาลัยเทคโนโลยี อุตสาหกรรมกรุงเทพ ได้ทำงานเป็นช่างซ่อมบำรุงสายการบิน KLM ดอนเมือง เนื่องจากเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษ เพราะร่ำเรียนจากสถาบัน AUA ทำงานสายการบินประมาณ  11 ปี เปลี่ยนแนวไปทำงานบริษัทค้าอาวุธ 2 ปี พอคุณพ่อจากไป “คุณกมล” ต้องมาช่วยงานที่ร้านจนคุณแม่จากไปในปี 2548 จึงได้ดูแลร้านเต็มตัว

ภาพจำในวัยเด็กก็คือ สมัยที่ร้าน “อาเล็กราชวงศ์” ย้ายจากท่าน้ำราชวงศ์มาอยู่แถวถนนสุขุมวิท  ลูกค้าขับรถมาจอดหน้าร้านเต็มไปหมด เขาไปช่วยเสิร์ฟอาหาร ขณะนั้นร้านห้องแถว 1 คูหา มี 10 โต๊ะ นั่งได้แค่ 40 คน บางวันมีแขกผู้ใหญ่เหมาไปครึ่งร้าน ลูกค้าที่เหลือต้องนั่งรับประทานในรถยนตร์ส่วนตัว

"ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าหมูสับ" เส้นใหญ่หอมกลิ่นกระทะ มีหมูสับราดหน้าหอมกลิ่นน้ำพริกเผา 

“อีกอย่างไฮไซสมัยก่อนเวลาคบกันไม่อยากเปิดเผยตัว เขาก็นั่งในรถให้เราเอาอาหารไปเสิร์ฟ รถจอดยาวตั้งแต่ปากซอยอโศกจนถึงปากซอยประสานมิตร ร้านเราอยู่ตรงกลางซอยพอดี เสาไฟฟ้าต้นที่ 3 อยู่หน้าร้าน ภาพจำคือผมไปช่วยเสิร์ฟ ได้ Tip ก็เอาไปซื้อของเล่น โมเดลพลาสติก เครื่องบินประกอบฯลฯ คืนหนึ่งได้ 30-40 บาท ”

บรรยากาศภายในร้าน "อาเล็กราชวงศ์"

“เหลาริมทาง” ร้าน อาเล็กราชวงศ์ มาเปิดอยู่ในซอยโชคชัยร่วมมิตร (วิภาวดี 16) บ้านของตัวเอง เมื่อปี 2538 จนวันนี้ “รุ่นที่3” ยังคงรักษาสูตรอาหารเด็ด ที่เป็นมรดกจากรุ่นก๋ง ให้เหมือนเดิมมากที่สุด

คุณกมล ตรีสิทธิเชษฐ์  ทายาทรุ่นที่ 2 วัย 57 ปี

“อาหารที่เป็นเส้น อย่างเช่น บะหมี่ เรายังทำเองอยู่ ไอศกรีมที่ขายในร้านเราก็ยังทำเอง เรารับประกันรสชาติดั้งเดิมได้เลย สมัยผมยังเป็นวัยรุ่น ป๋ายังสอนผมนวดแป้งทำบะหมี่ นวดแป้งต้องขึ้นไม้ขย่ม สมัยก่อนนวดทีแป้ง 10 กิโลมีไม้คานขึ้นไปนั่งขย่ม นวดบนโต๊ะไม้ใหญ่ๆ ขายดีๆนวดแป้งวันเว้นวัน สูตรเราใช้แป้งกับไข่ และเกลือไม่ใส่น้ำ”

"อีหมี่" อาหารมงคลที่อร่อยมาก มีบะหมี่ด้านกรอบและด้านนุ่มๆ ราดซอสเปรี้ยวเคี้ยวรวมกันแล้วอร่อยสุดยอดไปเลย 

“บะหมี่” ถือว่าเป็นจุดเด่นของร้าน ที่สามารถนำมาทำได้หลากหลายเมนูในร้าน เช่น  อีหมี่ หรือ อีฟู่หมี่ เป็นอาหารมงคลของแต้จิ๋ว คนในมลฑลกวางตุ้งมักทำให้ญาติผู้ใหญ่รับประทาน ในช่วงวันเกิด เพื่ออวยพรให้อายุยืนยาว เหมือนเส้นบะหมี่

"บะหมี่หมูสับไข่ลวก" หอมกรุ่นกลิ่นผงกะหรี่ ราดพริกตำเปรี้ยวๆเผ็ดๆเข้ากันได้ดี

“วิธีทำก็คือเอาบะหมี่สดที่เราทำเองมาทอด แล้วเอาอีกกระทะหนึ่งใส่น้ำซุป แล้วเลี้ยงไฟ ฝั่งที่อยู่ก้นกระทะจะกรอบๆ หอมๆ ฝั่งด้านบนจะนุ่ม มีกลิ่นของกุยช่ายขาวที่เราโรยหน้าไว้ พร้อมกับรสชาติที่เราใส่ลงไปในน้ำซุปอวนๆอยู่ เวลาเคี้ยวฟันฝั่งหนึ่งก็จะสัมผัสความกรอบ อีกฝั่งก็จะสัมผัสความนุ่ม วิธีรับประทานก็คือราดด้วยซอสเปรี้ยว โรยน้ำตาลทรายนิดหน่อย อยากให้เผ็ดหน่อยก็เติมพริกดองเอาเฉพาะพริกน้ำส้มไม่ต้อง ที่นี่เราจะเป็นอีหมี่กับคะน้าน้ำมันหอย กินแนมกันห้ามราดลงไปไม่งั้นความกรอบจะหายไป”

"บะหมี่อัศวิน" สั่งได้ทั้งแบบแห้งและแบบน้ำ 

บะหมี่อัศวิน คุณกมลเล่าว่า “เป็นเรื่องเกี่ยวพันกับตำรวจตั้งแต่ นายตำรวจชั้นอัศวิน สมัย พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจพ.ศ. 2494 สมัยนั้นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรคนไหนทำคดีเก่งๆ อธิบดีฯจะทำแหวนเพชรให้ใส่ อัศวินทั้งหลายสมัยนั้นชอบไปเล็งสาวๆแถวย่านราชวงศ์  สมัยนั้นโรงมหรสพอยู่แถวศาลาเฉลิมกรุง วังบูรพา พาหุรัต เป็นแหล่งซื้อของด้วย ย่านราชวงศ์เป็นทางผ่าน ยังไงก็ต้องแวะกินข้าวแถวนั้น พวกอัศวินเวลาจะกินก๋วยเตี๋ยว กินข้าว จะต้องพิเศษไม่เหมือนใคร เบสของ บะหมี่อัศวิน มาจากก๋วยเตี๋ยวหมูธรรมดา

สมัยก่อนใส่แค่ลูกชิ้น ไส้ ตับ หมูสับ เป็นหลัก อัศวินก็จะบอกว่าชอบกินเซี้ยงจี๊ เติมให้หน่อย ใส่หัวใจด้วย มีเนื้อปูหรือเปล่า ลูกชิ้นปลา เกี๊ยวกุ้ง จะกินแบบปกติธรรมดาไม่ได้ต้องกินแบบอัศวิน 60-70 ปีก่อน บะหมี่อัศวินชามละ 2 บาท แพงจนลูกค้าเอาไปแจ้งความ ตำรวจชั้นอัศวินที่เคยกินนั่นแหละ เขาก็มาจับ ต้องไปขึ้นศาล ก๋งเป็นต่างด้าวโดนคำสั่งเนรเทศ ระหว่างติดคุกรอเนรเทศ ก็ได้นายตำรวจชั้นอัศวินนั่นแหละ มาช่วยชะตาชีวิตพลิกผันมาก เพราะพันตำรวจเอก สวงค์ วุฑฒินันท์ (คุณพ่อของคุณหญิง ศศิมา ศรีวิกรม์)มาช่วยทำให้ก๋งได้อยู่ในประเทศไทยต่อจนสิ้นอายุขัยในปี พศ. 2514”

อีกเมนูที่มีเรื่องเล่าก็คือ ข้าวราดหน้าไก่ไข่ดาว ร้านนี้ยังคงรักษาคุณภาพแบบดั้งเดิมสมัย “อาเล็กราชวงศ์” ประวิติของอาหารชนิดนี้มีมาตั้งแต่สมัยชาวจีนอพยพมาขึ้นที่ท่าน้ำราชวงศ์สมัยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 จะมีสมาคมจีนทำอาหารไว้ต้อนรับ หนึ่งในนั้นมี “ข้าวราดหน้าไก่”

"ข้าวราดหน้าไก่ไข่ดาว" รสเบาๆไลท์ๆ กลมกล่อมเข้ากันได้ดีกับกุนเชียงคุณภาพเยี่ยม 

“ข้าวราดหน้าไก่อยู่กับคนไทยมาไม่ต่ำกว่า 100 ปี ร้านแรกในย่านราชวงศ์ที่ขายข้าวราดหน้าไก่ ก็คือร้านเลี่ยวเลี่ยงเซ้ง  ปัจจุบันอยู่ใกล้สถานีรถไฟหัวลำโพง  อาเล็กราชวงศ์ก็รับเอาเมนูนี้มาขายในร้านเหมือนกัน เหมือนร้านขายอาหารตามสั่งลูกค้าอยากกินอะไรก็ทำให้กิน คนขายก็ไม่โกรธกันหรอกว่าขายของเหมือนๆกัน มาวัดกันที่ฝีมือ คนจีนสมัยนั้นคิดว่าทุกคนเป็นคู่ค้าไม่ใช่คู่แข่ง เจอกันก็พูดว่า เซ็งลี้ฮ้อๆ (ขอให้ค้าขายดีๆนะ)  ข้าวหน้าไก่เราใส่เห็ดฟาง เห็ดหอม ไม่ใส่หน่อไม้เพราะลูกค้าแพ้หน่อไม้ ผมเองก็ไม่กินหน่อไม้ แล้วชูรสด้วยกุนเชียง ซึ่งยังซื้อจากร้านเดิมที่เยาวราชที่ก๋งกับอาม่าใช้มาจนถึงทุกวันนี้ ”

"หอยนางรมแป้งกรอบ" แป้งกรอบมากอร่อยสุดๆ หอยนางรมสดเนื้อเด้งเคี้ยวอร่อย 

หมูหวานปลาบปลื้ม หอยนางรมแป้งกรอบ เพราะแป้งเขาบางกรอบมากๆ หอยนางรมตัวใหญ่อวบกลมสดหอมหวาน หรือใครจะสั่ง “หอยนางรมทอดกรอบ” ก็คือเมนูเดียวกัน ทางร้านร่อนแป้งจนบางเบา บรรจงทอดจนมีสีเหลืองกรอบคล้ายๆกับขนมเบื้องญวน กุ๊กผัดหอยนางรมต่างหากด้วยไฟแรงๆผัดเร็วๆ แล้วราดลงบนแผ่นแป้งกรอบก่อนเสิร์ฟขณะร้อนๆผู้คิดค้นเมนูนี้ก็คือ “อาเล็กราชวงศ์” หรือ “เลี่ยวตุง แซ่แต้” อาก๋งของเขานั่นเอง

"หอยแมลงภู่ทอดกรอบ" เนื้อแป้งกรอบหนักแน่นเคี้ยวสู้ฟัน 

หอยแมลงภู่ทอดกรอบ ใช้แป้งคนละชนิดกับ หอยนางรม ทางร้านทอดแป้งมาจนกรอบทั้งแผ่น เวลาเสิร์ฟจะตัดแป้งออกมาเหมือนแป้งพิซซ่า รับประทานกับซอสพริก หรือพริกตำ ก็เข้ากัน เมื่อ 50-60 ปีก่อนยังไม่มีซอสพริก คนสมัยนั้นรับประทานคู่กับพริกตำ

"บะหมี่หมูสับไข่ลวก" ใครชอบเนื้อสั่ง "บะหมี่เนื้อสับไข่ลวก" ก็ได้นะคะ 

วันนี้ได้ลองเมนูเด็ดเช่น ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าหมูสับ ,บะหมี่หมูสับไข่ลวก และ บะหมี่คั่วไก่ หอมกรุ่นกลิ่นกระทะ แล้วตบท้ายด้วยไอศกรีมสูตรดั้งเดิมตั้งแต่สมัยก๋ง (รุ่นที่ 1) ก็คือ ไอศกรีมทุเรียน,ไอศกรีมกาแฟ,ไอศกรีมลิ้นจี่ และไอศกรีมช็อกโกแลต ทุกถ้วยมีเจลลี่ทำจากเจลาติน เยลิต้า จากเยอรมัน ใช้มาตั้งแต่สมัยก๋ง

"บะหมี่คั่วไก่" ขอบอกเลยว่าหอมกรุ่นกลิ่นกระทะ รสชาติดีไม่ต้องปรุง 

เคล็ดลับความอร่อย 79 ปีไม่มีเปลี่ยนแปลงก็คือ ทายาทรุ่นที่ 3 ที่เป็นเจ้าของร้านต้องทำอาหารเป็น จำรสชาติอาหารของคนรุ่นก่อนๆได้ พ่อครัวในร้านนี้อยู่มานาน 30-40 ปี และยังคงใช้วัตถุดิบดีซื้อจากแหล่งเดิมทำให้รสชาติยังคงอร่อยเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง

ร้านนี้มีดีที่ "บะหมี่" เพราะทำเองมา 3 รุ่น 

"ไอศกรีม" มีรสลิ้นจี่,กาแฟ,ทุเรียน ทำเองแบบ"โฮมเมด"ไร้สารเคมี ผลิตมาตั้งแต่รุ่นก๋ง ยังคงอร่อยเหมือนเดิม 

ร้าน “อาเล็กราชวงศ์”  เหลาริมทาง 

ประเภทอาหาร: อาหารจีน แบบเหลาริมทาง

เมนูเด็ด : อีหมี่, หอยนางรมแป้งกรอบ,หอยแมลงภู่ทอดกรอบ,บะหมี่อัศวิน,บะหมี่คั่วไก่, บะหมี่หมูสับ/เนื้อสับ

ราคา : 60/80/150/200/300 บาท

ที่อยู่ : 3-5 ซอยโชคชัยร่วมมิตร ซอยวิภาวดี 16 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น.

ติดต่อ : โทร. 02-2277 9826 , 02 277 0388 และ 08 -1617-0825

หน้าร้าน "อาเล็กราชวงศ์" ในซอย วิภาวดี 16 (ซอยโชคชัยร่วมมิตร) เข้าซอยไป 1 กิโลเมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ

.............

ติดตามคอลัมน์ "50 ปีอร่อยเหมือนเดิม" ได้ทุกวันศุกร์ ทางไลฟ์สไตล์ @Taste

ร้านที่คุณอาจสนใจ

ปั้นลี่ ‘บ้าน’ ขนมปังไส้หมูแดง 70 ปีแห่งถนนเจริญกรุง