บันเทิงไทย พร้อมรับ 'วัฒนธรรมการวิจารณ์' หรือยัง

บันเทิงไทย พร้อมรับ 'วัฒนธรรมการวิจารณ์' หรือยัง

บันเทิงไทย พร้อมรับ "วัฒนธรรมการวิจารณ์" หรือยัง

จากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีประเด็นร้อนแรงระหว่างผู้กำกับภาพยนตร์ กับคนทำงานวิจารณ์หนัง ในกรณีที่ผู้กำกับหนังชื่อดัง ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค ที่ล่าสุดกำกับภาพยนตร์เรื่อง “บุปผา อาริกาโตะ”  

โดยคุณต้อม ยุทธเลิศ ได้โพสต์ถึงความสำเร็จของภาพยนตร์ไทยเรื่อง “หลวงพี่แจ๊ส 4G” แล้วมีการอ้างอิงถึง แอดมินเพจหนังชื่อดังอย่าง อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก ด้วยความรุนแรงจนไปไกลระดับเหยียดเพศ และถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมากในโลกโซเชียล และแม้ว่าตอนนี้โพสต์ดังกล่าวถูกลบไปแล้ว แต่การวิวาทะครั้งนี้ ทำให้เราต้องมาตั้งคำถามว่า ตกลงวงการบันเทิงไทยพร้อมรับกับวัฒนธรรมการวิจารณ์หรือยัง เพราะที่ผ่าน

มา ประเด็นนี้มีความคิดเห็นต่างกันออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน ฝั่งแรก ทางฝั่งคนทำหนังทำละคร ต่างกลัวคำวิจารณ์ในเชิงลบมาก ๆ ในแง่ที่ว่า คำวิจารณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้คนมาชมงานของตนน้อยลง ส่วนฝั่งนักวิจารณ์หนังมองว่า การเขียนรีวิวหรือเขียนวิจารณ์หนังและละคร ถือเป็นเสรีภาพส่วนบุคคลที่สามารถทำได้  ส่วนอังเคิล อดิเรก วัฏลีลา ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ซึ่งเพิ่งไปเป็นดารารับเชิญใน “บุปผา อาริกาโตะ” ได้ให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า ทุกคนมีสิทธิวิจารณ์ แต่ควรจะมีคำแนะนำว่าจะปรับปรุงงานนี้อย่างไร ไม่ใช่แต่ด่าหนังอย่างเดียว  พอมาถึงทางฝั่งคนจิราณ์หนัง อย่างเพจอวยไส้แตกแหกไส้ฉีก เพจดังที่มีคนกดไลค์มากกว่า 4 แสนไลค์ และมักจะสร้างปราฏการณ์วิวาทะกับผู้สร้างหนังสร้างละครอยู่บ่อยครั้ง ได้เล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่ทำเพจนี้ เจอทั้งข่มขู่ว่าจะฟ้องศาล และมีคนทำหนังเสนอเงินให้เพื่อให้เขียนถึงหนังให้ดี แต่ตนก็ไม่เคยรับเงินเพื่อมาเขียนอวยหนังใคร และเมื่อถามถึงว่า บันเทิงไทยพร้อมรับกับวัฒนธรรมการวิจารณ์หรือยัง แอดมินเพจบอกว่า คนทำหนังเอาเข้าจริง ๆ ยังไม่พร้อมรับกับการวิจารณ์ ด้วยความที่ธุรกิจบันเทิงมีการลงทุนที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะเรื่องของการทำการตลาด จึงดูเหมือนจะอ่อนไหวจากความเห็นเชิงลบของคนทำงานวิจารณ์ที่มีอิทธิพลต่อคนดูหนังจำนวนมาก ดังนั้นการทำงานของผู้กำกับกับนักวิจารณ์หนัง จึงเหมือนน้ำกับน้ำมัน ที่หลายครั้งไม่ค่อยจะไปด้วยกันเท่าไหร่