สวนสวย สไตล์อังกฤษ

สวนสวย สไตล์อังกฤษ

ไอหนาวเริ่มโชย คงทำให้หลายคนคิดอยากแพ็คกระเป๋าจัดเต็มเตรียมออกเดินทางกันบ้างแล้ว

แต่สำหรับใครที่ยังไม่พร้อมหนีงานไปเที่ยวไกลๆ ลางานนานๆ ได้ วันเดย์ทริป คงเป็นทางเลือกที่เมินใส่ไม่ลง


อย่างจังหวัดใกล้บ้านอย่าง “สระบุรี” ที่มักเป็นได้แค่ทางผ่าน หรือจุดแวะพักขากลับจากเดินทางไกล โดยมีกะหรี่ปั๊บเจ้าเด็ดติดมือกลับไปเป็นที่ระลึกเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว สระบุรีก็เป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่น่าสนไม่หยอก


ถ้าชอบความสดชื่นของสายน้ำต้องไปอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ส่วนใครอยากเซลฟี่กับทุ่งดอกไม้สุดลูกหูลูกตาต้องไปทุ่งทานตะวัน แต่ถ้าอยากทำบุญไหว้พระให้เป็นสิริมงคล หลายคนคงต้องนึกถึงวัดพระพุทธบาท และวัดป่าสว่างบุญ ส่วนสายแข็งผู้ชื่นชอบธรรมชาติก็ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติเชิงนิเวศเจ็ดคต – โป่งก้อน เป็นปลายทางที่ห้ามพลาด


แต่สำหรับสายชิล เราขอแนะนำทริปสบายๆ กับการเรียนรู้วิถีเกษตรอินทรีย์และเที่ยวสวนสไตล์อังกฤษแบบชิคๆ กับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง สวนมิ่งมงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา บนถนนมิตรภาพ เส้นทางขาเข้ามุ่งหน้า กรุงเทพฯ บริเวณ กิโลเมตรที่ 125 ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่งสามารถเป็นจุดแวะพักระหว่างทางขากลับได้เช่นกัน


สวนมิ่งมงคลฯ เป็นสวนสาธารณะชุมชนขนาด 22 ไร่ ที่ปูนอินทรีพัฒนาขึ้นด้วยงบลงทุนราว 80 ล้านบาทให้เป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และวิถีชุมชนแบบยั่งยืน โดยใช้ที่ดินที่มีอยู่เดิมมาพัฒนาตั้งแต่ไม่มีอะไรเลยมาสู่การเป็นสวนต้นแบบที่สะท้อนถึงการอยู่ร่วมกันของต้นไม้และธรรมชาติอย่างพึ่งพาอาศัยกัน ขณะที่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่เดิมก็เก็บรักษาไว้ทั้งหมด และได้สถาปนิกที่ขึ้นชื่อเรื่องรักต้นไม้อย่าง A49 มาออกแบบสวนให้โดยคงความเป็นธรรมชาติดั้งเดิมไว้ ต้นไม้ใหญ่ที่เคยมีก็ยังคงอยู่


เส้นทางเดินสั้นๆ ระหว่างการชมสวน นอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศแนว “สวนสไตล์ชนบทอังกฤษ” หรือ English Cottage Garden ซึ่งเน้นการปล่อยให้ต้นไม้เติบโตแบบธรรมชาติ แต่งแต้มแต่น้อย และมีแปลงไม้ดอกพันธุ์ผสมที่ปล่อยให้ขึ้นรวมกันอย่างเป็นธรรมชาติ แซมสลับด้วยทั้งไม้พุ่ม ไม้เลื้อย กอต้นหญ้า ตลอดจนพืชคลุมดินต่าง ๆ เพื่อให้เกิดเป็นระบบนิเวศของการพึ่งพากันอย่างแท้จริง


ทั้งหมดเป็นไม้ไทยทั่วไปที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นมากกว่า 400 ต้น แต่ละต้นก็ยังมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรเช่นต้นงิ้ว ต้นแคนา สาละลังกา กระพี้จั่น ต้นพยอม ต้นตะคร้อ ทองกวาว จิกน้ำ เป็นต้น และมีสวนครัวสมุนไพรไทย ๆ ซึ่งก็เป็น เอกลักษณ์นึงของสวนสไตล์ชนบทอังกฤษ ที่ผสมผสานทั้งไม้ประดับ เพื่อความสดชื่น และ สวนครัวเพื่อประโยชน์ใช้สอย


ระหว่างทางยังได้เห็นแปลงเกษตรออร์แกนิกขนาดย่อมๆ มีทั้งแปลงนา ที่ทางสวนฯ ได้ชวนเด็กๆ จากโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียงมาช่วยกันดำนา ซึ่งเด็กๆ ก็มักจะแวะเวียนกันมาดูน้ำพักน้ำแรงกันอยู่เสมอ เพราะตอนเย็นที่นี่จะแปรสภาพเป็นสถานที่ออกกำลังกายของคนในชุมชน มาวิ่งบ้าง เดินบ้าง


“ขายปูนว่า ยากแล้ว แต่มาทำสวนสาธารณะนี่ ยากกว่าอีกค่ะ” เสียงเล่าพร้อมรอยยิ้มของ จันทนา สุขุมานนท์ ที่ปรึกษา บริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ผู้ริเริ่มโครงการสวนมิ่งมงคลฯ


ก่อนจะอธิบายถึง แนวคิดของสวนในวิถีเกษตรอนุรักษ์ว่า ที่นี่มีแปลงนา สาธิตและนิทรรศการข้าว เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้เรียนรู้ถึงคุณค่าความสำคัญของข้าวที่เป็น ทั้งพืชเศรษฐกิจ และเป็น อาหารหลักของคนไทย ปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์ข้าวไทย


“เราได้อัญเชิญพระราชดํารัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับเรื่องข้าวมาจัด แสดงเป็นนิทรรศการถาวร ทั้งเรื่องพันธุ์ข้าว วิธีการปลูก รวมถึงได้มีกิจกรรม การทดลอง ปลูก การเก็บเกี่ยว และฝัดข้าวจากแปลงนาสาธิตในบริเวณสวนมิ่งมงคลฯ อีกด้วย ซึ่งวิธี ในการทำนานี้ ยังคงอนุรักษ์วิถีทำนาแบบดั้งเดิม เพื่อสืบทอดวัฒนธรรมการปลูกข้าว แบบพื้นบ้านไว้ให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จัก ซึ่งนับวันการทำนาแบบนี้ เริ่มน้อยลงทุกที”


สำหรับอาคารอเนกประสงค์ ซึ่งเป็นส่วนจัดแสดงนิทรรศการข้าวนั้น ได้ถูกออกแบบให้เป็นอาคารประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นวัสดุทดแทนไม้ และยังมีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นแหล่งจ่ายพลังงานให้กับอาคารนี้ด้วย


นอกจากจะได้เดินเล่น เยี่ยมชมสวนสวย ถ่ายรูปงามๆ กันแล้ว อย่าลืมแวะเข้าห้องน้ำที่นี่ด้วยล่ะ.. เพราะไอเดียการตกแต่งห้องน้ำในสวนของที่นี่นั้น ทั้งร่มรื่น แสนสบาย จนอยากจะอยู่นานๆ เลยทีเดียว


ก่อนจะกลับ แน่นอนว่า ต้องไม่ลืมแวะชมสินค้าทั้งจากร้านภัทรพัฒน์ ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิชัยพัฒนา และโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสินค้าจากในชุมชนซึ่งได้มีการคัดสินค้าเด่นๆ ของชุมชนให้นำมาวางขายโดยไม่เสียค่าพื้นที่ร้าน โดยนอกจากนี้ยังมีการชวนเด็กๆ จากโรงเรียนชุมชนนิคม ทับกวางสงเคราะห์ มาฝึกอาชีพเพื่อให้ทำผลิตภัณฑ์มาวางขายที่นี่ด้วย อย่างที่ทำสำเร็จไปแล้ว คือ การนำสูตรไอศกรีมนมสดมาสอนเด็กๆ ให้ทำมาขายที่ร้านกาแฟในสวน


ต้องถือว่า เป็นการสะท้อนแนวคิด “การพึ่งพา” ที่ไม่ใช่แต่กับธรรมชาติ หากยังรวมถึงคนเราที่ต่างก็ควรรู้จัก “ให้” เช่นกัน