สุข (สไตล์) สวิตเซอร์แลนด์

สวิตเซอร์แลนด์เพิ่งจะได้ครองแชมป์ประเทศที่คนมีความสุขที่สุดในโลกตามรายงานของ “World Happiness Report 2015”
ซึ่งประเมินความสุขของคนใน 158 ประเทศทั่วโลก
รายงานชิ้นนี้จัดทำโดยเครือข่ายทางออกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งองค์การสหประชาชาติโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้แต่ละประเทศหันมาคิดค้นนโยบายที่จะช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ประเทศที่ประชาชนมีความสุขมากที่สุดใน 10 อันดับแรกรองลงมาจากสวิตเซอร์แลนด์ก็คือ ไอซ์แลนด์ เดนมาร์ก นอร์เวย์ แคนาดา ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ สวีเดน นิวซีแลนด์ และออสเตรเลียตามลำดับ ซึ่งเป็นคนที่ล้วนแต่อาศัยอยู่ในประเทศพัฒนาแล้วทั้งสิ้น
ถ้าอ่านเหตุผลต่อไปนี้แล้วจะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมดินแดนแห่งนาฬิกาและช็อคโกแลตแสนอร่อยถึงได้ครองแชมป์เมืองที่คนมีความสุขมากที่สุดในโลก
รวย: สวิตเซอร์แลนด์มีรายได้รวมต่อหัวประชากรต่อปีมากที่สุดเป็นอันดับ 8 หรือ 9 ของโลกหรือ 1.85 ล้านบาท
อายุยืน: ประชากรมีอายุขัยเฉลี่ย 82.8 ปี ติดอันดับ 10 ของประเทศที่คนมีอายุขัยเฉลี่ยมากที่สุดของโลก
ช็อคโกแลต: มีผลวิจัยพบว่าช็อคโกแลตเป็นตัวที่ทำให้สมองหลั่งสารโดพามีนซึ่งทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาทที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกพอใจหรือมีความสุข และแน่นอนไม่มีใครสามารถผลิตช็อคโกแลตคุณภาพเยี่ยมได้เท่าประเทศนี้อีกแล้ว
ไม่อ้วน: มีอัตราภาวะคนเป็นโรคอ้วนต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในยุโรปคือร้อยละ 9
เป็นกลาง: ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสงครามตั้งแต่ปี 1847 และไม่เคยต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลกับกองทัพ
รู้หลายภาษา: ชาวสวิสฯส่วนมากรู้ภาษาเยอรมัน ฝรั่งเศสและอังกฤษและอาจมีอิตาลีด้วย
ชั่วโมงทำงาน: ทำงานเฉลี่ย 35.2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ต่ำกว่าหลายประเทศในยุโรป เช่น อังกฤษ 36.4 ชั่วโมงและสเปน 38 ชั่วโมง
ทิวทัศน์: สวยงาม มีที่เล่นสกีและอากาศบริสุทธิ์
ระบบบริการสุขภาพ: ขึ้นชื่อมากโดยเฉพาะเรื่องระยะเวลาในการรอนัดพบแพทย์ที่รอนานน้อยที่สุดในโลก
คนฉลาด: ผลิตเจ้าของรางวัลโนเบล 25 คนจากประชากรที่มีทั้งหมดราว 8 ล้านคน แม้อัลเบิรต์ ไอน์สไตน์จะเกิดในเยอรมนีแต่เขาก็เรียนที่ซูริกและคิดทฤษฎีสัมพัทธภาพตอนอยู่ที่เมืองเบิร์น
ประชาธิปไตยจ๋า: พลเมืองสามารถเสนอขอแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ ขอทำประชามติในกฎหมายใหม่ และทั้ง 26 มณฑลของสมาพันธรัฐมีอำนาจบริหารภายในของแต่ละมณฑล
ทะเลสาบ: หลายๆ เมืองมักจะตั้งอยู่ริมทะเลสาบ และแน่นอนว่าการทำงานใกล้น้ำสามารถช่วยลดความเครียดลงได้
เส้นทางรถไฟสวย: การเดินทางด้วยรถไฟในดินแดนที่มีทัศนียภาพสวยงามอย่าง สวิตเซอร์แลนด์นั้นน่าสำราญใจมากกว่าเป็นเพียงการนั่งรถไฟธรรมดา โดยเฉพาะในเส้นทางประวัติศาสตร์และเก่าแก่อย่างกลาเซียร์ เอ็กซเพรสและเบอร์นินา เอ็กซเพรส
ชีส: ชีสที่มีชื่อเสียงมากคือ Emmental Cheese รวมถึงฟองดูว์ อาหารที่ชาวสวิสฯ นิยมกินกันในฤดูหนาว โดยการนำเอาเศษชีสมาตั้งไฟและหลอมละลายรวมกับไวน์ขาว และใช้ส้อมหรือเหล็กแหลมเสียบขนมปังแล้วจุ่มชีสร้อนๆ กิน
เมืองน่าอยู่: ซูริกติดอันดับเมืองน่าอยู่เป็นอันดับ 2 ของผลสำรวจเรื่องคุณภาพชีวิตปี 2015 ในขณะที่เจนีวาอยู่อันดับ 8 และเบิร์นอยู่อันดับ 13
ตรงเวลาเสมอ: สวิสฯครองโลกแห่งนาฬิกา
และต่อไปนี้คือเหตุผลที่คนสวิสฯอาจจะไม่มีความสุขอย่างที่คิด
กฎระเบียบมากเกินไป: เช่น การตั้งชื่อให้เด็กเกิดใหม่ พ่อแม่ต้องเลือกจากลิสต์รายชื่อที่ผ่านการอนุมัติแล้วเท่านั้น นอกจากนี้การกดชักโครกหลัง 22.00 นาฬิกายังเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
ช่องว่างความมั่งคั่ง: มันอาจจะเป็นประเทศที่คนร่ำรวย แต่ก็มีช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนสูงมาก โดยประชากรร้อยละ 20 ที่มีรายได้สูงสุดของประเทศมีรายได้มากกว่าประชากรร้อยละ 20 ที่มีรายได้ต่ำสุดถึง 5 เท่า
การเกณฑ์ทหาร: แม้ไม่ต้องสู้รบกับใคร สวิตเซอร์แลนด์ก็มีการบังคับให้ชายฉกรรจ์ทุกคนต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร
น่าเบื่อ: เสียงบ่นเดียวกันจากหลายๆ คนและเป็นเสียงบ่นที่ฟังขึ้นด้วยก็คือ ไม่มีทางที่สวิตเซอร์แลนด์จะเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในเรื่องแหล่งท่องเที่ยวกลางคืน วัฒนธรรมแบบโบฮีเมียนหรือนักแสดงตลก
.............................
ที่มา เว็บไซต์เดลี่ เทเลกราฟ







