'ยาวน้อย' ค่อยๆ รัก

เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม... ไม่ได้ชวนไปแตะขอบฟ้า แค่อยากบอกว่าฟ้าสวยทะเลใสรออยู่ที่นี่
กาแฟแก้วนั้นคงจะเย็นชืดไปแล้ว...
ทีแรกฉันว่าจะละเลียดความขมของมันเพื่อเรียกพลังสดชื่นในยามเช้า แต่ทันทีที่แสงสีทองของดวงตะวันฉาดฉายพ้นความสูงชันของเกาะน้อยใหญ่ในทะเลกว้าง ฉากใหญ่ของธรรมชาติที่ถูกเรียกว่า 'ป่าเกาะ' ก็สะกดให้มิอาจละสายตา
นาทีนั้นราวกับว่า จิตรกรระดับโลกกำลังปาดฝีแปรงลงบนผ้าใบผืนใหญ่ ผืนทรายถูกระบายเป็นระลอกริ้ว ผืนน้ำนิ่งสงบเจือแสงทองระเรื่อ ไกลออกไปคือเกาะรูปทรงโค้งมนที่จัดวางไว้ในระยะพองาม สีส้มทองค่อยๆ ไล่โทนเข้มขึ้นๆ ...อย่างที่ใครๆ กล่าวไว้ ธรรมชาติคือศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ และผลงานชิ้นนี้มีดวงตะวันเป็นผู้กำกับโทนสีที่งดงามทุกชั่วยาม
ฉันตื่น...โดยปราศจากคาเฟอีน เป็นความเบิกบานที่ไม่ได้ลิ้มรสมานานแล้ว
...........
การเดินทางสำหรับบางคนอาจหมายถึงการค้นหาความสวยงามแปลกตา แต่สำหรับฉันความแตกต่างที่สัมผัสได้ด้วยใจไม่ว่าจะถือเป็นความงามหรือไม่ มันทำให้การเดินทางภายในเริ่มต้นขึ้นอย่างมีชีวิตชีวา
เกาะยาวน้อย คือหมุดหมายที่หมายมั่นปั้นมือมานานแล้ว ความงามของป่าเกาะที่รีสอร์ทสุดหรูขายวิวนี้กันเป็นหลักหมื่นหลักแสนนั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่เชิญชวนมากกว่าอย่างอื่น คือวิถีชาวบ้านและธรรมชาติที่ยังไม่ถูกปรุงแต่งมากจนเกินไปนัก
ไปก่อนที่จะสาย...จึงเป็นแรงผลักอย่างดีให้ทริปนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี ก่อนที่ทะเลอันดามันจะเข้าสู่ฤดูมรสุมอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม
ย้อนอดีตกันสักนิด เกาะยาว เกาะอลัง (เกาะรัง) และแหลมปากพระ สมัยอยุธยาตอนปลายอยู่ภายใต้การปกครองของเมืองถลางหรือภูเก็ตปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2446 ทางราชการยกฐานะเป็นกิ่งอำเภอเกาะยาวแยกออกมาจากอำเภอเมืองพังงาและขึ้นต่อเมืองพังงา ต่อมาในปี พ.ศ. 2531 ได้ยกฐานะจากกิ่งอำเภอเป็นอำเภอเกาะยาว มีความเชื่อว่าบรรพบุรุษของชาวเกาะยาวได้อพยพลี้ภัยสงครามมาจากจังหวัดตรังและจังหวัดสตูล ผู้คนที่มาจากตรังตั้งถิ่นฐานอยู่บนเกาะยาวน้อย ขณะที่ผู้คนที่มาจากสตูลตั้งถิ่นฐานอยู่บนเกาะยาวใหญ่ ชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ที่นี่จึงไม่มีผับบาร์สถานเริงรมย์เปิดกันอย่างอึกทึก นักท่องเที่ยวที่ปรารถนาจะหาความสำราญแบบไร้ขีดจำกัดแนะนำให้เบนเข็มไปทางอื่น
ถ้ากางแผนที่ดู เกาะยาว (Koh Yao) จะอยู่ทางใต้ของอ่าวพังงา มีเกาะสำคัญตั้งอยู่คู่กันคือเกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ ถามว่าทำไมถึงตั้งชื่อเช่นนั้น คำตอบก็ตรงไปตรงมาคือทั้งสองเกาะมีรูปทรงรีๆ ยาวๆ เกาะยาวใหญ่มีพื้นที่มากกว่าเกาะยาวน้อยประมาณสองเท่า ส่วนเราเลือกไปเกาะยาวน้อยเพราะได้ยินมาว่ายังเป็นธรรมชาติอยู่มาก
และแม้จะอยู่ในเขตจังหวัดพังงา แต่ระยะทางนั่งเรือข้ามไปยังเกาะที่ใกล้ที่สุดคือเดินทางจากจังหวัดกระบี่ ลงเรือที่อ่าวท่าเลน เป็นเรือแบบบ้านๆ มีหลังคาพอกันแดดกันฝน ไม่ถึงกับสะดวกสบายแต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไร ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงที่หมาย
เราเลือกที่พักที่ ท่าเขา เบย์วิว ซึ่งดูแลโดยคนท้องถิ่น อาจไม่หรูหราแต่แค่เปิดหน้าต่างห้องพักก็เห็นวิวป่าเกาะที่ร่ำลือกัน แถมอาหารยังอร่อยถูกปากบริการเป็นกันเอง แค่นี้ก็ถือเป็นคำกล่าวต้อนรับที่อบอุ่นที่สุดแล้ว
หลังจากนั่งๆ นอนๆ พอให้ความร้อนเบาบางลงไปบ้าง ค่อนบ่ายเราเลือกใช้บริการรถสองแถวชมรอบๆ เกาะ ออกสตาร์ทที่ หาดท่าเขา ใกล้บ้านพัก ชายหาดนี้ส่วนใหญ่เป็นหินและกรวด มองออกไปจะเห็นเกาะเล็กๆ เรียกว่า เกาะนก คนขับรถซึ่งรับหน้าที่เป็นไกด์ไปในตัวบอกว่าถ้าน้ำลดสามารถเดินข้ามไปได้ แต่เขาว่าถ้าอยากเดินย่ำทรายละเอียดๆ ให้อดใจไว้ก่อน
ด้วยความเป็นนักท่องเที่ยวหัวอ่อนเราจึงใช้เวลาตรงนี้ไม่นานนัก จากนั้นก็เดินเรียงแถวกันขึ้นรถ มโนว่าข้างหน้าต้องมีดีกว่านี้แน่นอน
ขับกินลมชมวิว ถนนบนเกาะมีการซ่อมสร้างเป็นระยะ ข้างทางมีแนวต้นไม้สลับกับบ้านเรือนและรีสอร์ท การก่อสร้างอาคารสองข้างทางบอกให้รู้ว่าอีกไม่นานที่นี่คงจะสูญเสียความสงบเรียบง่ายแบบที่เคยเป็น ฉันนึกถึงเกาะอีกหลายๆ แห่งที่พอมีชื่อเสียงขึ้นมา นักท่องเที่ยวก็แห่กันไป ที่พักร้านค้าสารพัดผุดขึ้นราวกับจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่บนเกาะ ก็ได้แต่หวังว่าความห่างไกลและความเข้มแข็งของชุมชนมุสลิมจะทำให้ที่นี่เติบโตอย่างมีทิศทาง
ไม่นาน...รถสองแถวกลางเก่ากลางใหม่ก็ค่อยๆ ลดความเร็วลง ฉันหยุดคิดเรื่อยเปื่อยก่อนจะปรับโฟกัสไปที่ชายหาดสีเหลืองนวล ที่เรียกว่า หาดป่าทราย จุดนี้เป็นที่ตั้งของรีสอร์ทสวยๆ หลายแห่ง ราคาก็แพงได้ใจ ตั้งแต่หลายพันจนถึงหลักหมื่น หาดทรายทอดยาวไม่มีเตียงผ้าใบให้รกตา แต่มีชิงช้าให้นั่งชิลล์ๆ เป็นหาดที่เหมาะกับการเล่นน้ำ แต่ยังก่อน..ภารกิจในการสำรวจเกาะของเรายังไม่เสร็จสิ้น
ว่าแล้วก็ไปต่อ คราวนี้ที่หมายคือ ตลาด บ่ายๆ อย่างนี้ยังไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่นัก มีร้านกาแฟและร้านขายของที่ระลึกเปิดอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่เป้าหมาย เพราะที่เรากำลังมองหาคือ โรตีชาวเกาะ ที่ว่ากันว่ามีรสชาติและหน้าตาแตกต่างกันถึง 80 แบบ ไปถึงร้านก็เห็นจริงจากเมนู เยอะจนจำไม่ได้ เลือกมาชิมจำนวนหนึ่งซึ่งก็เล่นเอาอิ่มไปเหมือนกัน อันที่จริงอยากจะนั่งผึ่งพุงต่อสักนิด แต่ด้วยเวลามีจำกัดจึงต้องเคลื่อนย้ายตัวเองขึ้นไปบนรถคันเดิมอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าคนขับตั้งใจจะให้ย่อยหรืออยากจะให้ชมวิถีชาวเกาะในอีกรูปแบบหนึ่ง เส้นทางหลังจากนี้จึงลัดเลาะไปตามทุ่งนาและพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งเป็นอาชีพหลักอีกอย่างหนึ่งของคนที่นี่ ตามประวัติบอกว่าเกาะยาวน้อยเป็นเกาะเพียงเกาะเดียวในพื้นที่อ่าวพังงาที่มีการทำนาข้าวมาเป็นเวลานานกว่า 200 ปี และยังทำมาจนถึงทุกวันนี้
แล่นผ่านผืนนากว้างไปสักพักรถก็มาหยุดตรงหน้าฝูงควายที่พากันลงไปอยู่ในแอ่งน้ำขนาดเล็ก โผล่ให้เห็นแต่หัว เขา และแววตาซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าอารมณ์ไหน แต่ก็ได้ใจคนกรุงเทพ เพราะทุกคนรีบลงจากรถไปรุมล้อมถ่ายรูปควาย ฉันแอบเห็นเขายิ้มเล็กน้อย คงนึกสงสัยว่าคนกรุงไม่เคยเห็นควายหรือไง?
อำลาท้องทุ่งและน้องควาย จุดหมายถัดไปเรียกว่าปรับโหมดกันแทบไม่ทัน เพราะว่าที่แห่งนั้นคือ บ่อน้ำศักดิ์สสิทธิ์ ลักษณะก็เป็นตาน้ำ แต่ที่แปลกคือเป็นน้ำจืดที่อยู่ท่ามกลางป่าชายเลนริมหาดบ้านอันเป้า เวลาน้ำลงน้ำในบ่อนี้จะจืดสนิท แต่ถ้าเป็นช่วงน้ำขึ้น น้ำทะเลจะเข้าท่วม ทำห้บ่อกลายเป็นน้ำเค็ม สงสัยช่วงที่เราไปน้ำคงเพิ่งลงไปใหม่ๆ รสชาติหลังชิมจึงออกกร่อยๆ
เรากลับขึ้นมาด้านบนซึ่งเป็นที่ตั้งของ หมู่บ้านอันเป้า หมู่บ้านที่ว่ากันว่ายังคงความเป็นธรรมชาติมากที่สุดบนเกาะยาวน้อย ใครชอบเดินแนะนำให้เดินทอดน่องไปจนถึงปลายสุดของเกาะซึ่งจะทะลุไปถึงอ่าวโพธิ์ทะเล อันเป็นที่ตั้งของต้นโพธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และยังมีต้นวาสนาที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในบริเวณเดียวกันด้วย
แต่สำหรับคนที่มีเวลาไม่มาก แนะนำให้ไปชมกระชังเลี้ยงกุ้งมังกรตรงอ่าวบ้านแหลมไทร เพราะไม่ใช่แค่กุ้งมังกร ปลาเก๋า, ปลากระพง, ปลาสวยงามที่มีไว้ให้ชมและให้อาหารกันพอสนุกสนาน ใกล้ๆ กัน ยังมีร้านอาหารบรรยากาศดีที่มีอาหารทะเลสดๆ ให้ชิมด้วย และแน่นอน...เราเลือกที่นั่นส่งท้ายวันแรกบนเกาะแห่งนี้
ณ เวลาที่เราไปถึง ดวงตะวันหย่อนตัวมาจนใกล้ผืนน้ำแล้ว โทนสีอุ่นๆ ของผืนน้ำจรดผืนฟ้าช่วยลดโทนของสีสันในช่วงค่อนวันที่ผ่านมา ลดอัตราการเต้นของหัวใจให้ผ่อนคลายลงหลังจากที่ได้ไปเยือนสถานที่ต่างๆ รอบเกาะ ...ไม่นานทุกคนก็เงียบงันในมุมของตัวเอง รอคอยแสงสุดท้ายที่ค่อยๆ ลับหายเพื่อเก็บทุกอย่างไว้ในความทรงจำ
...............
แค่วันแรกบนเกาะยาวน้อย ฉันก็อดหลงเสน่ห์แบบบ้านๆ ของสาวน้อยคนนี้ไม่ได้ เธอคือความงามแบบ ไม่เสแสร้ง คือความจริงที่ยังไม่ถูกปรุงแต่งมากนัก แต่สำหรับใครที่อยากเติมสีสันให้กับการเดินทางมากกว่านี้ จากเกาะยาวน้อยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยังเกาะต่างๆ ในทะเลกระบี่ได้แบบไม่ยุ่งยาก แค่นัดหมายกับเรือท่องเที่ยวที่ติดต่อได้ตามรีสอร์ทที่พักหรือที่ท่าเรือ ตกลงจุดหมายและราคากันตามความพอใจ มีทั้งเกาะนอก เกาะเหลาล่าดิง เกาะผักเบี้ย และอื่นๆ แต่ที่เป็นไฮไลท์ก็คือ 'เกาะห้อง' ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนักหากเทียบกับการเดินทางจากบนฝั่งทางภูเก็ต
ทริปนี้เราไปถึงเกาะห้องกันก่อนเที่ยง นักท่องเที่ยวยังมากันไม่มาก ความสงบงามจึงเป็นยิ่งกว่าของขวัญ ทันทีที่ผ่านประตูธรรมชาติ แสงแดดอ่อนๆ นำทางสู่ผืนน้ำสีเขียวมรกตซึ่งโอบล้อมด้วยโตรกผาสูงชัน น้ำใสจนมองเห็นผืนทรายเบื้องล่าง มันคือสระน้ำธรรมชาติที่ใครๆ ก็พร้อมกระโจนลงไปแหวกว่าย
ฉันปล่อยให้ชูชีพพาตัวลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ดื่มด่ำกับความงามที่อยู่รายรอบ เก็บทุกนาทีด้วยความเบิกบาน ก่อนจะย้อนมองตัวเองที่เป็นเพียงจุดเล็กๆ ท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่นั้น...
พลันนึกถึงคำกล่าวของนักคิดคนสำคัญ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล (ผ่านพบไม่ผูกพัน)
"คนเรา หากไม่ออกไปเผชิญคลื่นลมในทะเลกว้าง หรือสัมผัสความเฉียบชันของโตรกผา
บางทีก็พานคิดว่า ดาวเดือนบนเวิ้งฟ้าจะต้องโคจรรอบชีวิตตื้นของตัวเอง"
................
การเดินทาง
กระบี่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 814 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่จังหวัดกระบี่ได้หลายวิธี ถ้าใช้รถยนต์ส่วนตัวไปได้ 2 เส้นทาง คือใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ไปจนถึงกระบี่ ระยะทางประมาณ 946 กิโลเมตร
หรือใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) จนถึงจังหวัดชุมพร แล้วต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร สู่อำเภอไชยา อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 4035 ถึงอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ แล้ววกเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4 เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองกระบี่ ระยะทางประมาณ 814 กิโลเมตร
รถประจำทาง มีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-กระบี่ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11-12 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 www.transport.co.th ลิกไนท์ทัวร์ โทร. 0 2894 6151-3
สะดวกรวดเร็วที่สุดคือเครื่องบิน การบินไทยบริการเที่ยวบินประจำระหว่างกรุงเทพฯ-กระบี่ ทุกวัน โทร. 0 2356 1111 หรือ www.thaiairways.com นอกจากนี้ยังมีสายการบินไทยแอร์เอเชียและนกแอร์ให้บริการทุกวันเช่นเดียวกัน
สำหรับการเดินทางไปเกาะยาวน้อย หากไปจากจากจังหวัดกระบี่ ให้ขึ้นเรือที่ ท่าเรือท่าเลน ในอำเภออ่าวลึก มีเรือออกไปยังท่าเรือบ้านท่าเขาบนเกาะยาวน้อยทุกชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง ค่าเดินทาง 120 บาท
แต่ถ้าไปจากจังหวัดพังงา ให้ใช้ท่าด่านเรือศุลกากร ในตำบลเกาะปันหยี ถึงท่าเรือสุขาภิบาลบนเกาะยาวน้อย ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที จากจังหวัดภูเก็ต ใช้ท่าเรือบางโรง ในตำบลท่าป่าคลอก อำเภอถลาง (จากอนุสาวรีย์วีรสตรีไป 10 กิโลเมตร) ขึ้นที่ท่าเรือมาเนาะบนเกาะยาวน้อย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง







