นศ.ร้อง'ปวีณา'ถูกตร.ทำร้ายพยายามข่มขืน

นศ.ร้อง'ปวีณา'ถูกตร.ทำร้ายพยายามข่มขืน

นศ. เข้าร้องเรียนต่อ มูลนิธิปวีณาฯ ถูกตำรวจยศ ร.ต.ท.ทำร้ายพยายามข่มขืนถ่ายภาพแบล็คเมล์

น.ส.เจน (นามสมมิต) อายุ 22 ปี นักศึกษามหาลัย เอกชน แห่งหนึ่ง เข้าร้องเรียนต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ที่ สำนักงานมูลนิธิ เลขที่ 84/14 ถนนรังสิต-นครนายก(คลอง 7) ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี ปทุมธานี กรณี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ยศ ร.ต.ท. ชื่อ แก๊ส (นามสมมิติ) ทำร้ายร่างกาย พยายามข่มขืน และทำให้อับอาย

โดยน.ส.เจน เล่าว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อตี 4 ของวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยหมวดแก๊ส (นามสมมุติ) ได้ไปรับที่ทำงานย่านถนนเกษตร-นวมินทร์ ไปที่บ้านของหมวดแก๊ส ซึ่งอยู่ในเคหะร่มเกล้า เมื่อไปถึงตนนอนพักผ่อนในที่สุดก็เผลอหลับไป โดยวางโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ มารู้สึกตัวตื่นอีกทีตอนที่หมวดแก๊ส ใช้มือกระชากผม จากนั้นก็ได้ฉีกเสื้อผ้าและใช้กรรไกรตัดเสื้อผ้าขาด จนร่อนจ้อน ซึ่งตัวหมวดแก๊สก็อยู่ในสภาพร่างกายเปลือยเปล่าเช่นกัน จากนั้นก็ใช้ปากดูด กัดตามคอและเนินอก จนมีรอยเป็นจ้ำ ๆ พร้อมกับบอกว่าต้องการให้ตนได้รับความอับอาย โทษฐานที่คุยไลน์กับเพื่อนรุ่นน้อง ซึ่งคนที่ตนคุยด้วยเป็นน้องนักศึกษาชั้นปี 1 มหาลัยเดียวกัน และยังเป็นคนบ้านเดียวกันอีกด้วย หลังจากที่ใช้ปากดดูดคอตนเป็นจ้ำแล้ว ก็ใช้มือทั้งสองจับขาของตนแยกออกจากกัน หมายจะข่มขืน แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ใช้เท้าเหยียบบริเวณหน้าซ้ายของตน และใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปไว้ พร้อมกับพูดข่มขู่ ว่าหาก มึง ไปบอกใคร จะเผยแพร่ภาพ ให้ตนอับอาย และไม่สามารถทำงานไม่ได้

จากนั้น หมวดแก๊สใช้มือจิกผมลากตนออกจากบ้านในสภาพเปลือยเปล่าและไล่ให้กลับที่พักของตนเอง ซึ่งห่างจากบ้านหมวดแก๊สประมาณ 3-4 กิโล ระหว่างนั้นตนคว้าเสื้อเชิดมาได้ตัวหนึ่ง พอจะปกปิดร่างกายได้บ้างแต่ก็เป็นเพียงแค่ท่อนบน ส่วนท่อนล่างไม่มีอะไรปกปิดสักชิ้นเดียว ร้องเท้าก็ไม่ได้ใส่ได้วิ่งออกมาโดยไม่คิดชีวิต เมื่อวิ่งออกจากบ้านดังกล่าวสักพักหนึ่ง มีแท็กซี่พลเมืองดีจอดรับและบอกไม่ต้องกลัวเดี๋ยวจะไปส่งให้ถึงที่พักในมหาลัยให้ ตนจึงกระโดดขึ้นแท็กซี่ทันที โดยแท็กซี่คันดังกล่าวพาตนมาถึงที่พักในมหาลัย ด้วยความปลอดภัยและ ไม่เก็บค่าโดยสารแม้แต่บาทเดียว

น.ส.เจน (นามสมมุติ) เล่าต่อว่าเมื่อเพื่อนๆ เห็นสภาพของตนจึงพาส่ง รพ. ลาดกระบัง เพื่อรักษาบาดเจ็บ เมื่ออาการทุเลาตนตัดสินใจจะไปแจ้งความ แต่ก็เกิดกลัวเพราะหมวดแก๊สเป็นตำรวจในท้องที่ดังกล่าว ต่อมาตนตัดสินใจที่จะเข้า ร้องทุกข์นางปวีณาฯ น.ส.เจน (นามสมมุติ) ยังเล่าต่ออีกว่า ตนรู้จักกับหมวดแก๊สได้ประมาน 1 ปี หลังจากที่ตนเข้าไปแจ้งความเรื่องถูกชิงทรัพย์ และได้คบหาเป็นแฟนกัน

หลังจาก นางปวีณา ได้พบ น.ส.เจน (นามสมมุติ) รู้สึกสงสารมาก และตามตัว น.ส.เจน (นามสมมุติ) ยังมีร่องรอยที่เหลืออยู่ หลังจากที่ถูกทำร้ายมา 2 วัน นางปวีณา กล่าวอีกว่า ตำรวจเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ไม่ควรกระทำความผิดเช่นนี้ ควรที่ต้องได้รับผิด 2 เท่า เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ซึ่งในปัจจุบัน ความรุนแรง ในเด็กและสตรี ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 อันดับที่ 1 คือ การข่มขืน ฉะนั้นต้องให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการเอาผิดทางวินัย และดำเนินคดีทางกระบวนการยุติธรรมวันนี้จะมอบหมายให้ เจ้าหน้าที่ มูลนิธิปวีณาฯ พา น.ส.เจน (นามสมมุติ) เข้าแจ้งความ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป