หนาวนี้ที่งาน "สีสันแห่งดอยตุง"

ไม่มีใครนิยามหรอก แต่ก็เหมือนจะรู้กันโดยทั่วไปว่า ฤดูหนาวกับภาคเหนือนั้นเป็นของคู่กัน
แทบทุกจังหวัดในภาคเหนือเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวที่พากันมุ่งหน้ามาสัมผัสอากาศเย็นๆ กันอย่างเนืองแน่น อย่างที่จังหวัดเชียงรายก็มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจไม่น้อย ซึ่งจุดหมายปลายทางที่ไม่เคยทำให้นักท่องเที่ยวผิดหวังแห่งหนึ่งก็คือ "ดอยตุง"
ดอยตุง หรือ โครงการพัฒนาดอยตุง(พื้นที่ทรงงาน)อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่เกือบ 1 แสนไร่ ในเขตอำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จย่า ที่ทรงได้รับแรงบันดาลใจจากพระราชกรณียกิจของในหลวง ในการแก้ไขปัญหาการปลูกฝิ่นในประเทสไทยอย่างต่อเนื่องยาวนาน เมื่อสมเด็จย่าทรงสัมผัสกับความทุกข์ยากของชาวบ้าน และเทรงเล็งเห็นว่าต้นเหตุแห่งปัญหาคือความยากจน และขาดโอกาสในชีวิต จึงทรงตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าจะหยุดวงจรแห่งความทุกข์ยากนั้นให้ได้ จึงเกิดการพัฒนาอย่างบูรณาการที่มีคนเป็นแก่นกลาง พัฒนาควบคู่ไปกับด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ผ่านการดำเนินงานของโครงการพัฒนาดอยตุงฯ
นอกจากเรื่องการพัฒนาผู้คนแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม โดยเฉพาะใครที่ชื่นชอบดอกไม้ พรรณไม้ต่างๆ สามารถหาชมได้อย่างจุใจที่ดอยตุง
และเร็วๆ นี้ ดอยตุงก็พร้อมปลุกความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวเชียงรายอีกครั้ง ด้วยชูแคมเปญ สีสันแห่งดอยตุง โดยจะจัดขึ้น 2 ช่วง คือ ระหว่างวันที่ 5-7 ธันวาคม 2557 และวันที่ 27 ธันวาคม 2557 - 4 มกราคม 2558 ณ โครงการพัฒนาดอยตุงฯ เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ภายใต้แนวคิด “Colors of Tribes, Colors of Lives, Colors of Celebrations” สร้างสีสันให้กับการท่องเที่ยวในโครงการพัฒนาดอยตุงฯ โดยนำเสนอผ่านกิจกรรมที่น่าสนใจที่สื่อถึงสีสันแห่งวิถีชีวิตของชนเผ่าต่างๆ
ในปีนี้บริเวณสวนแม่ฟ้าหลวงชูการจัดสวนในรูปแบบใหม่เป็นสวนแนวตั้ง พร้อมนำ “ตุง” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาวล้านนาที่นำพาความโชคดี มาดัดแปลงเป็น “ตุงดอกไม้” ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีแทนสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองทั้งได้จัดกาดบนถนนคนเดินโดยชนเผ่าต่างๆ จะแต่งกายในชุดประจำเผ่า และนำสินค้าพื้นบ้านและงานฝีมือมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวได้เลือกสรร พร้อมรับชมการแสดง ขบวนพาเหรด และการละเล่นของแต่ละชนเผ่าที่จะสลับสับเปลี่ยนมาสร้างสีสันและมอบความสุขให้แก่นักท่องเที่ยว อีกทั้งดอยตุงยังได้เนรมิตสวนแม่ฟ้าหลวงให้เป็นสวนสวยยามค่ำคืน ท่ามกลางแสงไฟและแสงเทียน นับเป็นโอกาสพิเศษที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่จากดอยตุง
นอกจากกิจกรรมภายในงาน นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมจุดท่องเที่ยวต่างๆ ภายในโครงการพัฒนาดอยตุงฯ ได้ ไม่ว่าจะเป็น สวนแม่ฟ้าหลวง สวนดอกไม้เมืองหนาวในหุบเขา ที่มีการปลูกดอกไม้หมุนเวียนสลับให้ออกดอกไม่ซ้ำกันตลอด 3 ฤดู ล้อมรอบประติมากรรมชื่อ "ความต่อเนื่อง" เป็นรูปเด็กยืนต่อตัวที่กลางสวน อาคารพระตำหนักดอยตุง ซึ่งพระตำหนักแห่งนี้ถือเป็นบ้านหลังแรกของสมเด็จย่า สร้างขึ้นโดยใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เน้นที่ความเรียบง่ายและการใช้ประโยชน์ ภายหลังการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จย่าพระตำหนักยังได้รับการอนุรักษไว้เป็นอย่างดีแลเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าเที่ยวชม
สถาปัตยกรรมของพระตำหนักเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบล้านนากับบ้านพื้นเมืองของสวิส สร้างบนเนินเขา มองเห็นทิวทัศน์ได้ไกลสุดสายตา พระตำหนักมี 2 ชั้น และชั้นลอยชั้นบนแยกเป็น 4 ส่วน แต่เชื่อมต่อกันเป็นอาคารหลังเดียว ที่โดดเด่นสะดุดตา คือ กาแล และไม้แกะสลักเป็นเชิงชายลายเมฆไหลที่อ่อนช้อย ภายในตำหนักใช้ไม้สนและไม้ลังที่ใส่สินค้า เป็นเนื้อไม้สีอ่อนที่สวยงาม จุดน่าสนใจอีกจุดคือเพดานดาวภายในท้องพระโรง แกะสลักขึ้นจากไม้สนภูเขาเป็นกลุ่มดาวต่างๆ ล้อมรอบระบบสุริยะ ส่วนบริเวณผนังเชิงบันไดแกะสลักเป็นพยัญชนะไทย พร้อมภาพประกอบ
ส่วนหอแห่งแรงบันดาลใจ, หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ และอุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง ก็อยู่ในจังหวัดเชียงราย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
สำหรับท่านที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โครงการพัฒนาดอยตุงฯ จังหวัดเชียงราย โทรศัพท์ 0 5376 7015-7 หรือ www.doitung.org และ DoiTung Club
เพราะฤดูหนาวกับภาคเหนือนั้นเป็นของคู่กัน ใครวางแผนจะเดินทางไปเชียงราย ไม่ควรพลาดงาน "สีสันแห่งดอยตุง" ด้วยประการทั้งปวง







