ใครๆ ก็ตกหลุมรัก'ต้าหลี่'

ใครๆ ก็ตกหลุมรัก'ต้าหลี่'

ในโลกใบนี้ ใครๆ ก็อยากเที่ยวเมืองโบราณ ต้าหลี่เป็นเมืองโบราณในมณฑลยูนนาน เมืองที่น่าเดินเล่นอีกแห่งของโลก...

ถ้าเป็นสินค้าแพ็คคู่ ต้าหลี่และลี่เจียง เป็นฝาแฝดอีกคู่ ที่ต้องเดินทางจากเมืองนี้แวะไปเมืองนั้น ถ้ามาต้าหลี่ ต้องไม่พลาดลี่เจียง ทั้้งสองแห่งมีสีสันคล้ายๆ กัน ต้าหลี่ดูเงียบงาม ส่วนลี่เจียงคึกครื้น มีสีสันแต่ไม่ฉูดฉาดแบบเมืองๆ

ดังนั้น คราวนี้ขอฉายเรื่องต้าหลี่ก่อน เพราะเป็นครั้งแรกในการเดินทาง ส่วนลี่เจียงเป็นครั้งที่สอง

ว่ากันว่า เรามักจะพบรักและปลาบปลื้มกับการเดินทางครั้งแรก เมื่อเจอสถานที่ "ใช่" ในความรู้สึกของตัวเอง ได้ตกหลุมรักต้าหลี่อย่างง่ายดาย...

เพราะนิยมชมชอบเมืองโบราณ สิ่งของโบราณและอะไรๆ ที่โบราณ เป็นทุนเดิม อย่างไรก็ตาม วันเวลาของเรื่องราวแห่งยุคสมัย ย่อมมีประวัติศาสตร์ชวนคิดมากมายจากคนยุคนั้น และชวนให้ตั้งคำถามว่า สิ่งก่อสร้างในยุคโบราณ เขาสร้างได้ยังไง เหมือนครั้งที่ได้เห็นสถาปัตยกรรมในนครวัด นครธม ชเวดากอง ฯลฯ

1.

เมื่อเท้า...สัมผัสพื้นหน้าโรงแรมในต้าหลี่ สถานที่แห่งนี้ บ่งบอกให้รู้เลยว่า เมืองโบราณได้ถูกอนุรักษ์รักษามาจนถึงยุคนี้ เพื่อเก็บไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม เพราะพวกเขาเห็นความสำคัญของอาคารทรงเตี้ยๆ ฝาผนังบางส่วนมีภาพวาดลายเส้น และลวดลายศิลปะของสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างที่บ่งบอกเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ใช่เลย...ฉันกำลังยืนอยู่ที่ต้าหลี่ เมืองโบราณที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของมณฑลยูนนาน ซึ่งตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นมณฑลใหญ่บนที่ราบสูง และเป็นมณฑลที่มีชนกลุ่มน้อยถึง 25 เผ่า ในขณะที่จีนทั้งประเทศมีชนกลุ่มน้อยประมาณ 56 เผ่า และที่นี่พวกเขาเปิดโอกาสให้ชนกลุ่มน้อยปกครองตนเอง

ว่ากันว่า ต้าหลี่เป็นเมืองโบราณเก่าแก่ที่อนุรักษ์เก็บรายละเอียดไว้สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน ก่อนหน้านี้เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรน่านเจ้าในช่วงชนชาติไป๋ครอบครองดินแดนในศตวรรษที่ 8-9 และต่อมาได้สถาปนาเป็นอาณาจักรต้าหลี่ในปี พ.ศ. 1480 - 1796 แม้ปัจจุบันต้าหลี่จะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนเดิม แต่มีศักยภาพในการเป็นเขตปกครองตนเองเขตหนึ่งของชนกลุ่มน้อย (Autonomous Prefecture) ซึ่งจีนมีอยู่ 8 เขต อาทิ ชนชาติไตในสิบสองปันนา ชนชาติทิเบตในตี๋ชิง ฯลฯ

ชนชาติไป๋และไตในต้าหลี่ก็เป็นเช่นนั้น พวกเขามีวัฒนธรรมประเพณีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตน ทางจีนจึงอยากเก็บรักษาไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อให้คนทั่วโลกแวะเวียนมาดู เนื่องจากสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศของเมืองต้าหลี่เย็นสบายเกือบทั้งปี เพราะตั้งอยู่บนที่ราบสูงระหว่างเทือกเขาชางซานทางด้านตะวันตก และทะเลสาบเอ๋อไห๋ทางด้านตะวันออก ซึ่งเป็นถิ่่นฐานดั้งเดิมของชาวไป๋และชาวไต

ดังนั้นการเดินทางมาต้าหลี่ ถ้าลงเครื่องที่คุนหมิง ก็ใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนตร์ประมาณสี่ชั่วโมง เนื่องจากต้าหลี่ห่างจากคุนหมิง 400 กิโลเมตร ในตัวเมืองได้แยกระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่ออกจากกันห่างประมาณ 14 กิโลเมตร เพื่อให้เกิดการพัฒนาให้ถูกทิศถูกทาง

เนื่องจากเมืองโบราณต้าหลี่ เคยเป็นมรดกของอาณาจักรน่านเจ้าที่เคยรุ่งเรือง และเคยเป็นเส้นทางติดต่อค้าขายกับพม่าและอินเดีย จึงเป็นเส้นทางแพรไหมสายตอนใต้ และเส้นทางโบราณขี่ม้าค้าใบชา ที่ควรอนุรักษ์เอาไว้

2.

เมื่อแวะดูผังเมืองด้านหน้ากำแพงด้านหนึ่ง จะเห็นว่ากำแพงที่ล้อมรอบเมืองโบราณต้าหลี่ทั้้งสี่ทิศ เป็นไปตามผังเมืองดั้งเดิม

ว่ากันว่า กำแพงที่ล้อมรอบเมืองโบราณต้าหลี่มีความสูง 5 เมตร ความหนาประมาณ 8 เมตร มีประตูเมืองทั้ง 4 ทิศ ภายในเมืองโบราณมีถนนสายหลักพาดผ่าน สองข้างถนนล้วนประดับด้วยสิ่งปลูกสร้างแบบจีนโบราณ ปัจจุบันบ้านเก่าแก่สองข้างถนนภายในเมืองโบราณต้าหลี่กลายเป็นร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก โดยมีถนนเส้นหลักที่เดินเล่นในตอนกลางคืน ซึ่งจะเป็นถนนที่จำหน่ายสินค้าพื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์

ก่อนจะสำรวจตัวเมืองเก่า ฉันมีโอกาสไปนั่งกระเช้าลอยฟ้าชมวิวขึ้นเขาชางซานที่มีประมาณ 19 ยอดเขา เทือกเขาเหล่านี้เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำทะเลสาบเอ๋อไห่ มีความสูงกว่า 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล อากาศหนาวเย็นตลอดปี แต่ไม่หนาวเหมือนภูเขาหิมะมังกรหยกในลี่เจียง

กระเช้าลอยฟ้าเป็นบริการที่ทำให้พวกเราได้ชมวิวสวยๆ บนเทือกเขาชางซาน กระเช้าพาพวกเราไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อชมธรรมชาติบนยอดเขา และสามารถมองเห็นทิวทัศน์ด้านล่างเมืองต้าหลี่ ซึ่งแต่ละฤดูกาลมีความงดงามต่างกัน

และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การเดินเล่นในหมู่บ้านซวงหลาง หรือหมู่บ้านตกปลา เนื่องจากเป็นหมู่บ้านชาวประมงดั้งเดิม ที่ชนพื้นเมืองมีอาชีพจับสัตว์น้ำจากทะเลสาบเอ๋อไห่ ทะเลสาบน้ำจืดที่มีความยาวประมาณ 20 กม. ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม มีหมู่บ้านตั้งเรียงรายจำนวนมาก บางส่วนยื่นลงไปในทะเลสาบเอ๋อไห่ ซึ่งเป็นทะเลสาบที่หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตชาวเมืองต้าหลี่

นี่คือไฮไลท์การท่องเที่ยวก็ว่าได้ เพราะดูแปลกตาและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แม้หมู่บ้านจะถูกดัดแปลงตามยุคสมัย เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีสภาพดั้งเดิมหลงเหลืออยู่บ้าง ในทะเลสาบเอ๋อไห่มีเรือประมงโบราณสองสามลำลอยอยู่ริมน้ำ เพื่อเป็นสัญลักษณ์หมู่บ้านตกปลา

ว่ากันว่า ที่นี่เป็นรู้จักของนักท่องเที่ยวจีน เพราะนักแสดงดังของจีนคนหนึ่ง เป็นชาวเมืองไป๋และเคยอยู่หมู่บ้านแห่งนี้

หากอยากรู้ว่า ชาวเมืองไป๋อยู่อย่างไร ก็ต้องไปที่หมู่บ้านซีโจว เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตพวกเขา นั่นทำให้นึกถึงตอนที่นั่งอยู่ในบ้านของชาวลี่เจียง ไม่ต่างกันนัก บริเวณลานหน้าบ้านเปิดกว้าง ไม่มีหลังคา โปร่ง โล่ง ผนังด้านหนึ่งเปิดรับแสงเข้าบ้าน อีกด้านติดภาพวาดศิลปะ ดูเหมือนบ้านจะใหญ่โต แต่เป็นการปลูกเรือนติดกัน มีหลายห้องเพื่อสะดวกในการทำกิจวัตรประจำวัน

คุณค่าแบบนี้แหละที่ชาวต่างชาติชื่นชอบ จึงมีเกสเฮ้าส์สไตล์บ้านชนชาติไป๋ให้พักค้างคืน ประมาณว่า นั่งดูอาทิตย์ตกดิน มีท้องนาเป็นกับแกล้ม ท่ามกลางบรรยากาศเงียบๆ แค่นี้ก็สุขแล้ว

ชมวิวทิวทัศน์ก็แล้ว อีกสถานที่ของการเดินทางในต้าหลี่ ในวันถัดมาคือ การเที่ยวชมโรงถ่ายหนัง 8 เทพอสูรมังกรฟ้า จากบทประพันธ์อันลือลั่นของ กิมย้ง ในช่วงที่เดินทางไปถึง กำลังโชว์ฉากใหญ่ตอนหนึ่งของท้องพระโรง ดูแล้วอลังการงานสร้าง แม้จีนจะไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นโรงถ่ายหนังหรือละครมากเหมือนเกาหลี แต่ก็ถือว่ามีสีสันน่าเที่ยว

นอกจากบรรยากาศกองถ่ายทำหนังโบราณ อีกสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ก็คือ สระผีเสื้อ ตั้งอยู่ห่างจากเมืองต้าหลี่ประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นสวนสาธารณะที่มีต้นไม้ใบหญ้าร่มรื่น แม้จะเป็นสระน้ำธรรมดาๆ แต่น้ำใสสะอาดมาก ในอดีตสระน้ำแห่งนี้ เป็นสถานที่สำหรับหนุ่มสาวชาวไป๋มาอธิษฐานขอให้สมหวังในความรัก

ก่อนจะจากลาต้าหลี่ การเดินตามตรอกซอกซอย ก็ทำให้เราได้เห็นวิถีชีวิตคนเมืองเล็กๆ ที่มีพื้นที่ประมาณ 22,500 ตารางกิโลเมตร ซึ่งในอดีตมีถนนสำคัญ 9 สาย และซอยหลัก 18 ซอย ผังเมืองมีลักษณะคล้ายตารางหมากรุก เนื่องจากต้าหลี่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง ประมาณปี ค.ศ.1382 จึงมีโบราณสถานหลายแหล่ง อาทิ ที่ว่าการของขุนนางชั้นสูง และวัดวาอารามต่างๆ

และน่ายินดีที่รัฐบาลจีนยังคงเก็บรักษาเมืองโบราณแห่งนี้เอาไว้ เพราะเห็นความสำคัญของวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติจีน คนทั้งโลกจึงได้เห็นขนบทำเนียมประเพณีของชนกลุ่มน้อยที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

หากย้อนไปมองประวัติศาสตร์ชนชาติไป๋ ในช่วงหนึ่งพวกเขาเคยเป็นรัฐเอกราชไม่ขึ้นกับชนชาติใด และเคยเป็นชนชาติที่นับถือศาสนาอิสลาม ปกครองแบบรัฐอิสลาม จนสมัยราชวงศ์ชิง ก็มีต่อสู้เปลี่ยนแปลงการปกครอง จนมาขึ้นกับศูนย์กลางอำนาจจีน

ดังนั้นสิ่งที่พลาดไม่ได้ คือ เดินรอบตัวเมืองเก่าที่มีอายุกว่า 1,000 ปี

ว่ากันว่า คนมาเที่ยวต้าหลี่ จะต้องลิ้่มลองอาหารพื้นเมืองในภัตตาคารบ้าง พวกเราก็ได้ชิมอาหารเมนูแปลกๆ ที่ต่างจากเมืองไทย อาทิ ดอกไม้ เปลือกไม้ทอด,มะละกอผัดหมู แป้งทอดจิ๋มเต้าหู้ยี้ ขนมแป้งพื้นเมือง ฯลฯ แม้จะไม่ถูกปากคนไทยรุ่นนี้นัก แต่ไกด์ทัวร์จีนขนาดแท้บอกว่า ถ้าคนจีนได้กินอาหารแบบนี้ จะชอบมาก ถือเป็นอาหารชั้นเลิศ

.............................

การเดินทาง

สายการบินแอร์เอเชียมีเที่ยวบินบินตรงจากไทยสู่จีน 13 เส้นทาง ใน 9 ปลายทาง ได้แก่ เส้นทางจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่มาเก๊า 4 เที่ยวบินต่อวัน ฮ่องกง 3 เที่ยวบินต่อวัน ฉงชิ่งและอู่ฮั่น 2 เที่ยวบินต่อวัน กวางโจว เซินเจิน ซีอาน คุนหมิง 1 เที่ยวบินต่อวัน และเส้นทางใหม่ กรุงเทพฯ-ฉางชา 1 เที่ยวบินต่อวัน เส้นทางบินตรงจากเชียงใหม่สู่มาเก๊า 1 เที่ยวบินต่อวัน สู่ฮ่องกง 1 เที่ยวบินต่อวัน สู่หางโจว 1 เที่ยวบินต่อวัน และ จากภูเก็ตสู่ฮ่องกง 1 เที่ยวบินต่อวัน

ส่วนการเดินทางไปต้าหลี่ โดยสายการบินแอร์เอเชีย มีเที่ยวบินจากดอนเมือง - คุนหมิง เวลา 08.10 - 11.40 น. และคุนหมิง- ดอนเมือง เวลา 12.-30 - 14.00 น. สำรองที่นั่งได้ที่ www.airasia.com และติดตามข้อมูลได้ทาง www.facebook.com/AirAsiaThailand และ twitter.com/AirAsiaThailand