ทิศทางใหม่บนปรัชญาเดิมของ จระเข้

ทิศทางใหม่บนปรัชญาเดิมของ จระเข้

เจ้าของตำนานเสื้อโปโลเทนนิสแห่งฝรั่งเศสขยับตัวปรับใหม่แนวคิด 'โกลบัล ดีไซน์' รับไลฟ์สไตล์โลกที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย

แต่ละยุคสมัยมีรูปแบบงานออกแบบที่โดดเด่นตามความนิยมของผู้คนในช่วงเวลานั้นๆ เมื่อเวลาผ่านไปงานออกแบบบางผลงานจึงกลายเป็นเพียงสัญลักษณ์แห่งยุคสมัยหรือเลือนหายไปตามกาลเวลา ขณะเดียวกันงานออกแบบจำนวนไม่น้อยที่ยังคงเดินหน้าไปตามกระแสของเวลาโดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ไว้ได้เป็นอย่างดี ฟิลิปเป้ โอลิเวียร่า แบ๊บติสตา (Philippe Oliveira Baptista) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ และ เบอต้า เดอ พลาโบล - บราบิเออร์ (Berta de Pablos - Barbier) รองประธานฝ่ายดูแลแบรนด์และการสื่อสาร นำพาประวัติศาสตร์กว่า 80 ปีของ ลาคอสท์ (LACOSTE) ก้าวเดินไปกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป

ฟิลิปเป้ เป็นชาวโปรตุเกส จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยคิงสตัน ในสาขาแฟชั่นดีไซน์ และได้ร่วมงานกับแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำหลายแบรนด์ ตั้งแต่ปีค.ศ.1997 นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของรางวัลด้านการออกแบบแฟชั่น และเคยร่วมแสดงผลงานในปารีสแฟชั่นวีคอีกด้วย

"ลาคอสท์มีประวัติศาสตร์ยาวนาน น่านับถือและน่าหยิบเอามาใช้ แต่ก็มีเรื่องราวของสิ่งใหม่ๆ ที่น่าสนใจเหมือนกัน เราต้องการหาจุดสมดุลในการนำทั้งสองสิ่งมาใช้ ลาคอสท์ริเริ่มอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ใช่แค่แฟชั่น แต่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น เสื้อโปโล ไม้แรกเกต เครื่องเสิร์ฟลูกเทนนิส ดังนั้นผมต้องการเพิ่มสิ่งเหล่านี้ลงไปในดีไซน์.. ผมมองหาช่วงเวลาสำคัญๆ และประวัติศาสตร์ในบางช่วงของแบรนด์ เพื่อนำองค์ประกอบต่างๆ เหล่านั้นมาผสมผสานเข้าด้วยกันกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตในปัจจุบัน เป็นการหาจุดสมดุลระหว่างการแสดงความเคารพต่อมรดกตกทอดของเดิมและการก้าวไปข้างหน้า" ฟิลิปเป้ กล่าว

ลาคอสท์ ก่อตั้งโดย มร.เรอเน ลาคอสท์ (Rene' Lacoste) ชาวฝรั่งเศส นักเทนนิสผู้ได้รับชัยชนะในการแข่งขันเดวิสคัพ (Davis Cup) และได้รับชัยชนะถึง 3 ครั้ง จากการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ประเทศฝรั่งเศส ชนะการแข่งขันวิมเบอดัล (Wimbledon) ที่ประเทศอังกฤษ 2 ครั้ง และได้รับชัยชนะอีก 2 ครั้ง จากการแข่งขันยูเอส โอเพน (US Open) จนนักข่าวชาวอเมริกันตั้งฉายาให้ว่า 'จระเข้' เพื่อนของเขาจึงได้วาดรูปจระเข้ลงบนเสื้อที่เขาจะสวมลงสนามแข่งทุกครั้ง ต่อมาในปีค.ศ.1933 มร.เรอเน จึงก่อตั้งบริษัท 'ลา เชอมิส ลาคอสท์' เพื่อผลิตและส่งออกเสื้อผ้าใส่เล่นเทนนิสที่มีลายปักเป็นสัญลักษณ์จระเข้ ซึ่งเสื้อเทนนิสของลาคอสท์ได้เปลี่ยนแปลงการแต่งกายของนักกีฬาเทนนิสในยุคนั้น จากที่เคยสวมเสื้อแขนยาวมาเป็นเสื้อสีขาวแขนสั้นและปกเสื้อเป็นรอยหยัก

"มีหลายปัจจัยที่ทำให้ลาคอสท์ยังคงมีชื่อเสียงจนทุกวันนี้ ประการแรกคือสไตล์ที่ร่วมสมัย เสื้อผ้าของเราเป็นแฟชั่นที่ทันสมัยตลอดมา ประการที่สองคือการสื่อสารด้านภาพ วิธีที่เราสร้างแบรนด์ เรามีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา และอย่างที่บอกไปคือเรามีเอกลักษณ์คือความร่วมสมัย และประการที่สามซึ่งสำคัญมากคือเรามีคุณค่าในตัวเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณค่านั้นชัดเจน มันจะอยู่คงทน เหนือกาลเวลา เพราะเราไม่ได้ตามแต่เทรนด์แฟชั่น หรือตามอารมณ์ เรามีวิธีคิดและมีคุณค่าที่แท้จริง นี่คือเหตุผลที่เรารักษาคุณค่าให้อยู่ถาวร" เบอต้า บอก

ในปีนี้ลาคอสท์ได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ Life is a Beautiful Sportเป็นอีกหนึ่งก้าวที่เดินไปพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงของโลก

"เป็นประโยคที่ใช้ควบคู่ไปกับแคมเปญนี้ ซึ่งจะใช้ต่อเนื่องไปอีกหลายปี กล่าวถึงความยุ่งยากของชีวิตที่เปรียบเทียบกับการกีฬาซึ่งแม้จะเหนื่อยยากแต่ก็สามารถมองในแง่บวกให้เป็นความสวยงามได้.. ความพยายามในเกมกีฬาก็คล้ายๆ กับความพยายามเพื่อความสำเร็จในชีวิตของเรา เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นความคู่ขนานกันระหว่างกีฬาและชีวิต.. เราพูดถึงการเคลื่อนไหวในเสื้อผ้าที่ใส่สบาย สง่างาม.. แสดงถึงไอเดียที่ปรับให้เข้ากับคนเมืองมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่เสื้อผ้าที่แค่สวมใส่สำหรับเล่นกีฬาหรือในวันหยุดแต่สามารถสวมใส่ได้ทุกวันตลอดสัปดาห์" ฟิลิปเป้ บอก

"เป็นทิศทาง (Positioning) ใหม่ ซึ่งเราต้องการสื่อสารไปอีกหลายปีข้างหน้า ในอดีตเรามีแคมเปญมากมาย นี่คือแคมเปญใหม่ที่เราจะใช้ต่อเนื่องไปอีกหลายปี ไม่เกี่ยวกับโอลิมปิคที่กำลังจะเกิดขึ้นแต่เป็นเรื่องบังเอิญที่ดีที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน เหตุผลจริงๆ คือเราเริ่มมองไปที่อดีตของแบรนด์ สิ่งที่อยู่กับแบรนด์มานาน เมื่อสไตล์เปลี่ยนแบรนด์ก็สามารถเปลี่ยนธีม แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนคือวิธีที่ลาคอสท์มองชีวิตรวมถึงปรัชญาของแบรนด์" เบอต้า กล่าวเสริม

"เรอเน ลาคอสท์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์เป็นแชมป์เทนนิส เป็นคนมองโลกในแง่ดี มีความมั่นใจในตัวเอง ดังนั้นเราจึงต้องการแสดงออกในจุดนี้ เป็นที่มาของ Life is a beautiful sport เราต้องการสื่อว่าเรามองชีวิตอย่างไร เมื่อเราให้คุณค่าของจิตวิญญาณของการกีฬา วิธีที่เราเล่นเป็นทีม วิธีที่เราเล่นแบบมีน้ำใจนักกีฬา และการเคลื่อนไหวเมื่อเล่นกีฬา ซึ่งมีความเป็นลาคอสท์เป็นอย่างมาก ดังนั้นเรื่องหลักๆ ที่เราพูดถึงคือ การเคลื่อนไหว ความมั่นใจ สง่างาม และการมองโลกในแง่ดี"

เรื่องราวของกีฬาอยู่คู่กับลาคอสท์มาเสมอและปรับเข้าสู่โลกของแฟชั่นในปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน

"เราพูดว่าแบรนด์เกิดจากการกีฬา เรามีคอลเลคชั่นที่วางขายทั่วโลก เราพูดเสมอว่าการออกแบบเสื้อผ้าได้รับแรงบันดาลใจจากกีฬา มีจิตวิญญาณแห่งการกีฬา ซึ่งเราจะเห็นได้จากรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเย็บตะเข็บหรือกราฟฟิกต่างๆ ทั้งหมดนี้เราได้นำกีฬามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับแฟชั่น ไม่ใช่เสื้อผ้าสำหรับเล่นกีฬาเท่านั้นแต่เป็นเสื้อผ้าสำหรับทุกๆ วัน.. คนสมัยนี้ดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น แอคทีฟมากขึ้น สนใจเล่นกีฬามากขึ้น แต่ในความหมายของเราไม่ได้หมายถึงการเล่นกีฬาเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงการใช้ชีวิตให้สนุกสนานอีกด้วย ประหนึ่งว่าชีวิตเป็นสนามเด็กเล่นที่น่าตื่นเต้น วิธีที่คุณเลือกที่จะใช้ชีวิต เล่นสนุกไปกับชีวิต ก็เหมือนการเล่นกีฬา เป็นด้านดีของชีวิต" เบอต้า บอก

"คอลเลคชั่นฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาวที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬากอล์ฟ ซึ่งภรรยาของผู้ก่อตั้งแบรนด์เป็นแชมป์กอล์ฟระดับชาติและยังมีสนามกอล์ฟในฝรั่งเศสตอนใต้ ดังนั้นผมจึงไปที่นั่นและไปดูภาพเก่าๆ หลังจากนั้นจึงมาทำการบ้านว่าจะนำมาประยุกต์ใช้กับเสื้อผ้าในปัจจุบันได้อย่างไร.. ยุคสมัยนี้มีการผสมผสานการกีฬาเข้าร่วมไปกับการออกแบบเสื้อผ้า ในวงการแฟชั่นระดับสูงได้รับอิทธิพลจากการกีฬาและมีการนำสไตล์แบบสปอร์ตเข้าไปใช้อย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา.. ผมคิดว่าเป็นเพราะวิถีชีวิตของคนเราเปลี่ยนไป ดูแลตัวเองมากขึ้น เล่นกีฬามากขึ้น ดังนั้นจึงมีความเกี่ยวข้องอย่างมาก" ฟิลิปเป้ กล่าว

"การออกแบบเสื้อผ้าจะสอดคล้องไปด้วยกันโดยธรรมชาติ.. คอลเลคชั่นฤดูร้อนเราเน้นเรื่องราวของกีฬาเทนนิสแบบดั้งเดิมที่หยิบมาเล่นในแง่มุมใหม่ๆ เราใช้สีพาสเทล ดูขรึมและอ่อนโยน มีความคลาสสิคมากยิ่งขึ้น เนื่องจากได้รับแรงบันดาลใจจากกีฬาเทนนิส เราเลือกใช้สีเขียวลาคอสท์ สีแดง สีน้ำเงินเนวี่ และสีขาว ส่วนคอลเลคชั่นฤดูหนาวเรานำกีฬากอล์ฟมาใช้ ทั้งหมดนี้เราออกแบบเสื้อผ้าซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากกีฬา แต่จะทำให้ควบคู่ไปกับไลฟ์สไตล์ด้วย"

ลาคอสท์วางจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก การออกแบบจึงต้องคำนึงถึงความต้องการที่แตกต่างกัน

"เรามีสตูดิโอที่ออกแบบเสื้อผ้าสำหรับเอเชียโดยเฉพาะ เช่นเดียวกับสำหรับอเมริกา เราเริ่มจากไอเดียหลักเดียวกันแต่มีการปรับเพื่อให้เหมาะกับท้องถิ่นนั้นๆ ..สีสันของเอเชียสดใสกว่า มีการใช้ลายทางมากกว่า เนื้อผ้าก็แตกต่างเพราะอากาศอบอุ่นกว่า" ฟิลิปเป้ บอก

"ตอนนี้สไตล์ทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไปมาก สังเกตว่าตอนนี้คนใส่เสื้อที่ดูไม่เป็นทางการมากยิ่งขึ้น เราจึงปรับให้ดูสบายๆ ขึ้น อย่างเสื้อผ้าผู้ชายก็ไม่มีเนคไท เช่นเดียวกับเสื้อผ้าผู้หญิง ทุกอย่างดูสบายๆ มากขึ้น ลาคอสท์เป็นแบรนด์ที่เน้นเรื่องเสื้อผ้าสวมใส่สบายที่ดูสง่างาม ซึ่งนับว่าเป็นผลดีต่อแบรนด์เพราะเทรนด์การแต่งตัวทุกวันนี้เน้นเสื้อผ้าสวมใส่สบายที่ยังดูดี และสามารถใส่ทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้สะดวก.. ลาคอสท์ทำได้ดีในเอเชีย เป็นที่ชื่นชอบในเอเชียดังนั้นจึงเติบโตมาก มีคนใส่ลาคอสท์มากขึ้นเรื่อยๆ ตามท้องถนน อาจเป็นเพราะเราออกแบบให้เหมาะกับสไตล์ที่คนเอเชียชื่นชอบ อีกอย่างคือเรามีเสื้อผ้าที่มีคุณภาพดี ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าทุกวันนี้เป็นแฟชั่นที่มาเร็วไปเร็ว เนื้อผ้าจะไม่ค่อยมีคุณภาพ อาจซื้อมาใส่ไม่กี่ครั้งก็ต้องโยนทิ้ง แต่ลาคอสท์มีคุณภาพสูงมากและเรามีสไตล์สง่างามแต่ใส่ง่าย ไม่ตามเทรนด์เกินไป ไม่เหนือจริงเกินไป ซึ่งเป็นสิ่งที่จะอยู่ได้นานกว่า คิดว่าสิ่งเหล่านี้เหมาะกับลักษณะของคนเอเชีย" เบอต้า เสริม

ความต้องการที่หลากหลายยังหมายถึงช่วงอายุของผู้สวมใส่อีกด้วย

"เรามีลูกค้าอายุน้อยลงจำนวนมากขึ้น แต่เราจะพยายามไม่ให้มีช่องว่างระหว่างอายุ เราต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อที่เมื่อลูกค้ามีอายุมากขึ้นก็ยังซื้อแบรนด์เราอยู่ ในขณะที่ลูกค้ากลุ่มที่อายุน้อยก็ซื้อสินค้าของเราด้วย เรายังเน้นเสื้อผ้าผู้หญิงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เรายังคำนึงถึงการที่ลูกค้าจะสวมใส่เสื้อผ้าของเราในหลากหลายโอกาสมากยิ่งขึ้น เมื่อก่อนเราจะเน้นเสื้อผ้าสำหรับวันหยุด แต่ตอนนี้เราเริ่มออกแบบเสื้อผ้าสำหรับใส่ในชีวิตประจำวัน เพื่อใส่ทำงานหรือใส่เดินในเมือง" เบอต้า บอก

"ผมมีทีมงานเกือบ 30 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวฝรั่งเศสและชาติอื่นๆ แบ่งเป็นทีมเสื้อผ้าชาย หญิง ไลฟ์ (Lacoste L!VE) เด็ก สปอร์ต.. เสื้อผ้าเด็กเป็นส่วนที่เติบโตเร็วมาก น่ารักมาก และมีความหมายมาก เราร่วมมือกับศิลปินและกราฟฟิกดีไซเนอร์หลายคนเล่นกับตัวจระเข้ซึ่งออกมาน่ารักมาก ผมมีความสุขเวลาทำงานเกี่ยวกับเด็กๆ ..ผมไม่เกี่ยวกับส่วนรองเท้า สำหรับส่วนกระเป๋าเราพยายามสร้างความไปด้วยกันได้กับเสื้อผ้า เช่นกระเป๋าชายหาด เราใช้โทนสีเดียวกันกับเสื้อผ้าของช่วงฤดูร้อน สำหรับไลฟ์เรามุ่งไปที่ลูกค้าอีกกลุ่ม เราพูดถึงลาคอสท์ในบริบทต่างออกไปเพื่อคนอีกกลุ่ม เรามีสตูดิโอที่ออกแบบไลฟ์โดยเฉพาะ เราต้องแยกการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบดีไซน์ กราฟฟิก การร่วมมือกับศิลปินและกราฟฟิกดีไซเนอร์ จะช่วยขับเคลื่อนให้แบรนด์ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง" ฟิลิปเป้ บอก

การทำงานร่วมกับศิลปินแขนงอื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้งานออกแบบมีการพัฒนา

"เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เราได้แลกเปลี่ยนความคิดกับคนจากหลากหลายวงการ ไม่ใช่แค่เรื่องการร่วมมืออย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเปิดโลกทัศน์การมองสิ่งต่างๆ ในหลากหลายแง่มุมมากยิ่งขึ้น"

ผลงานที่ก้าวไปพร้อมกับยุคสมัยอาจหมายถึงการไม่ตกเทรนด์ แต่สำหรับนักออกแบบการสร้างสรรค์ผลงานให้ทันกับยุคสมัยไม่ใช่การตามเทรนด์ ดังที่ ฟิลิปเป้ บอกว่า

"เราเป็นพวกครีเอทีฟชอบการริเริ่ม ต้องการเป็นผู้นำเทรนด์มากกว่าตามหลังคนอื่น"

หมายเหตุ : ชมภาพมากกว่านี้ได้ที่ https://www.facebook.com/sundaybkk