เมื่อศิลปินดนตรีคลาสสิก ล้น เวทีศูนย์วัฒนธรรม

เมื่อศิลปินดนตรีคลาสสิก ล้น เวทีศูนย์วัฒนธรรม

ดุสิต จรูญพงษ์ศักดิ์ เขียนถึงซิมโฟนี หมายเลข 8 ของมาห์เลอร์

หลักเกณฑ์การเรียกชื่อเพลงคลาสสิกอย่างง่ายๆ ทั่วๆ ไป อาจเริ่มด้วยการเรียกประเภทของบทเพลง,หมายเลขบทเพลง, บันไดเสียงหลักของบทเพลง, ลำดับที่ในการแต่งของผู้ประพันธ์เพลง และ “ชื่อเล่น” หรือ นิคเนม ของบทเพลง

ชื่อเล่นของเพลงคลาสสิก มีเฉพาะบางเพลงเท่านั้น ผู้ประพันธ์เพลงมักไม่ได้เป็นคนตั้งเอง ส่วนใหญ่คนอื่นเป็นคนตั้งให้ อาจด้วยเหตุผลหลายอย่าง

อาทิ Pastoral Symphony หรือ ซิมโฟนีแห่งท้องทุ่ง เป็นนิคเนมของ ซิมโฟนี หมายเลข 6 ของเบโธเฟน แต่งขึ้นมาเพื่อบรรยายความประทับใจบรรยากาศชนบท ผู้แต่งได้ไปสัมผัสมา

Farewell Symphony เป็นชื่อเล่นของ ซิมโฟนี หมายเลข 45 ของไฮเดิน เพราะในท่อนสุดท้ายที่เป็นท่อนช้า นักดนตรีในวงจะค่อยๆ ทยอยเดินออกจากวงไปจนหมดเมื่อจบเพลง เพื่อต้องการบอกความเป็นนัยแก่เจ้าชายนิโคลาส ที่เป็นผู้อุปถัมภ์ ว่าจ้างให้มาเล่นดนตรีประจำเป็นเวลายาวนานในวัง หลายคนคิดถึงและอยากกลับบ้านไปพบครอบครัว แต่ไม่กล้าบอก

สำหรับ Symphony of a Thousand เป็นนิคเนมของ ซิมโฟนี หมายเลข 8 ในบันไดเสียงอีเฟลต เมเจอร์ของมาห์เลอร์ ผู้จัดการแสดงบทเพลงนี้ครั้งแรก เป็นผู้ตั้งชื่อเล่นนี้ เพื่อผลทางด้านการประชาสัมพันธ์ ดึงดูดผู้ชมผู้ฟัง เพราะการแสดงครั้งแรก นักดนตรี, นักร้องเดี่ยว 8 คน, นักร้องประสานเสียงทั้งชายและหญิง 2 วง, นักร้องประสานเสียงเด็ก และตัวมาห์เลอร์ซึ่งเป็นวาทยกรเอง มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,003 คน เป็นบทเพลงที่นานๆ จะมีคอนเสิร์ตแสดงสดบทเพลงนี้ รวมถึงสื่อผลิตซ้ำทางดนตรีบทเพลงนี้ก็ค่อยข้างมีน้อยชุด เพราะค่าใช้จ่ายในการจัดแสดงสูง, ต้องใช้ไพพ์ ออร์แกนขนาดใหญ่, การฝึกซ้อมและการแสดงก็ต้องวางแผนมาเป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย โกลาหล ในระหว่างซ้อมและแสดง

เกริ่นนำข้างต้น เพื่อจะบอกว่า จะมีการบรรเลงบทเพลงนี้ในเมืองไทยเป็นครั้งแรก วัน พุธที่ 24 กรกฎาคม (วันนี้) โดยวงออร์เคสตราหลายวงมาเล่นร่วมกัน ได้แก่ สยาม ฟิลฮาร์โมนิค, สยาม ซินโฟนิเอตต้า, สยาม คอมมิวนิตี้ และ มาเลเซีย ซิมโฟนี ออร์เคสตรา พร้อมนักร้องเดี่ยว นักร้องประสานเสียงทั้งคนไทยและศิลปินจากต่างประเทศ อำนวยเพลงโดย สมเถา สุจริตกุล แสดงที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เวลาสองทุ่มตรง

ว่าถึงการบรรเลงเพลงคลาสสิกเพลงนั้นเพลงนี้เป็น “ครั้งแรก” ในเมืองไทยนั้น คอเพลงคลาสสิกบางท่านฟังแล้วยิ้มๆ พร้อมกับกล่าวว่า คงมีเพลงคลาสสิกอีกมากมายหลายเพลงที่อยู่ในกลุ่มบรรเลงครั้งแรกในบ้านเรา

คอนเสิร์ตลักษณะนี้ โดยเฉพาะบทเพลงของมาห์เลอร์ ถ้าไม่ใช่ สมเถา สุจริตกุล คงไม่เกิดขึ้นแน่ เพราะนอกจากความเป็น “ผู้หลงใหล” บทเพลงของมาห์เลอร์ตัวยงคนหนึ่งของสมเถาเองแล้ว การที่หลายครั้งของการแสดงคอนเสิร์ต (ผู้เขียนพิจารณาจากผลงานการแสดงที่ผ่านมา) สมเถาอาจจัดเป็นคนที่ “เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ต้องสมเถา” เมื่อผสมผสานกับความสามารถทางศิลปะหลายแขนง และการชอบคิด”นอกกรอบ ตามภาษาคนที่ใช้ชีวิตในต่างประเทศยาวนาน ทำให้เกิดการแสดง “ซิมโฟนีแห่งหนึ่งพัน” ขึ้นมาได้ในบ้านเราทำให้วงการดนตรีคลาสสิกบ้านเรา มีอะไร “ใหม่ๆ” และ “แปลกๆ” ออกมาบ้าง จะชอบมาก ชอบน้อย คงขึ้นกับ รสนิยม และ ประสบการณ์ เฉพาะตัวในการเสพงานศิลปะของผู้ชมผู้ฟังแต่ละคน ที่อาจไม่เหมือนกันเลย

0 0 0 0 0

สำหรับผู้เขียนแล้ว วิธีเรียก “น้ำย่อย” ออกมากระตุ้นให้กระหายอยากไปชมการแสดงสด บรรเลงซิมโฟนี หมายเลข 8 ของมาห์เลอร์ คือ การหาสื่อผลิตทางดนตรีด้านภาพและเสียง ได้แก่ ดีวีดี หรือ บลูเรย์ มาชมและฟังหลายๆ ชุด หลายๆ เที่ยว

เพราะประสบการณ์การฟังบทเพลงนี้ผ่านสื่อผลิตซ้ำทางดนตรี ผู้เขียนพบว่าส่วนใหญ่ มักมีปัญหาการบันทึกเสียง ปกติแค่บันทึกเสียงการบรรเลงของวงออร์เคสตรา ประกอบด้วยเครื่องดนตรีมากชิ้นให้ออกมาดี ก็ทำได้ยากอยู่แล้ว

แต่สำหรับซิมโฟนี หมายเลข 8 ของมาห์เลอร์ ยังต้องบันทึกเสียงร้อง ทั้งร้องเดี่ยว ร้องประสานเสียง ประกอบด้วยนักร้องหลายร้อยชีวิต ยิ่งเป็นปัญหา “หนักอก” มากขึ้นไปอีก

หลายครั้งที่ผู้เขียนฟังเพลงนี้ คิดว่าควรไปชมและฟังการแสดงสดจะดีกว่า เพราะจะได้สัมผัสมิติทางเสียงที่เป็นธรรมชาติ ทั้งเครื่องดนตรีและเสียงร้อง จับรายละเอียดอันซับซ้อนของเพลงได้มากกว่าการฟัง “ของแห้ง” ที่บ้าน

ของแห้ง 3 ชุด ที่ผู้เขียนใช้เวลาเกือบทั้งอาทิตย์ฟังและชม เป็นแผ่นดีวีดี 1 ชุด ออกเผยแพร่หลายปีแล้ว และ แผ่นบลูเรย์ออกใหม่ 2 ชุด อย่างน้อยจะได้มี Benchmark การบรรเลง ซิมโฟนี หมายเลข 8 ของมาห์เลอร์ไว้ในความทรงจำบ้าง

ชุดแรก ดีวีดีการอำนวยเพลงนี้ โดย เคล๊าซ์ เทนสเตดต์ หนึ่งในผู้สันทัดเพลงของมาห์เลอร์ อำนวยเพลงวง ลอนดอน ฟิลฮาร์โมนิค ออร์เคสตรา บันทึกการแสดงสดปี ค.ศ. 1991 การบันทึกเสียงจัดทำได้ดี เต็มเสียงทั้งดนตรีและเสียงร้อง โดยเฉพาะเสียงร้องเดี่ยวโดดเด่นชัดเจนมาก รวมถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้อำนวยเพลงที่มีต่อบทเพลง สะท้อนผ่านสีหน้าและท่าทางการอำนวยเพลง

ชุดที่สอง บลูเรย์ อำนวยเพลง ซิมโฟนี หมายเลข 8 ของมาห์เลอร์ โดย กุสตาโว ดูเดอะเมล วาทกรหนุ่มชาวเวเนซุเอล่า บรรเลงโดยวง ลอส แอนเจอลิส ฟิลฮาร์โมนิค และ วงไซมอน โบลิวาร์ ซิมโฟนี ออร์เคสตรา แสดงที่นครคาราคาส ประเทศเวเนซุเอล่า เมื่อปี 2012

ด้วยสถานที่แสดงที่เล็ก เมื่อเทียบกับผู้แสดงประมาณ 1,200 คน ทำให้เป็นสื่อดนตรีที่ดูแล้วรู้สึกอึดอัด ไม่ผ่านคลาย เพราะนักร้อง นักดนตรี “อัด” เต็มเวทีการแสดง การอำนวยเพลงของดูเดอะเมล ดูจะยัง “เก๋า” และได้ผลทางเสียงดนตรีสู้ เทนสเต็ดต์ ในดีวีดีชุดแรกไม่ได้

ชุดที่ 3 แผ่นบลูเรย์ การอำนวยเพลงของ มาริส แจนซันส์ ร่วมกับวง รอยัล คอนเสิร์ต เกบาวด์ ออร์เคสตรา หนึ่งในแผ่นบลูเรย์ บ๊อก เซท รวม 11 แผ่น บรรเลงซิมโฟนีครบทุกเพลงและอื่นๆ อีกสองเพลง ผลงานของมาห์เลอร์ โดยวาทยกรรวม 9 คน

ชัดเจนทั้งภาพและเสียง โดยเฉพาะความสมดุลระหว่างเสียงร้องและเสียงวงออร์เคสตรา ที่ไม่จัดจ้านเกินไป เหมาะสำหรับผู้ฟังที่ชอบสุ้มเสียงแบบนี้ การอำนวยเพลงของแจนซันส์น่ามอง น่าชม เช่นเดียวกับเทนสเต็ดต์ มุมกล้องที่จับไปที่ผู้อำนวยเพลง นักร้อง วงนักร้องประสานเสียง ให้อารมณ์ความรู้สึกในการชมและฟังที่สบายตา ผ่อนคลายมากกว่าทุกชุด

ย้ำส่งท้ายได้อย่างเดียวว่า “ซิมโฟนีแห่งหนึ่งพัน” ของมาห์เลอร์” ดีที่สุด ต้องไปฟัง “การแสดงสด” ครับ