เฟิร์นริมธาร สวรรค์เมืองสามหมอก

เฟิร์นริมธาร สวรรค์เมืองสามหมอก

จังหวัดแม่ฮ่องสอน อาจดูไกลโดยระยะทาง แต่เมืองกลางหุบเขาแห่งนี้ก็คุ้มค่าอย่างยิ่งที่จะรอนแรมผ่าน 1,864 โค้งจากเชียงใหม่มาจนถึงปลายทาง

หรือหากใครชอบวิธีตรงไปตรงมากว่านั้นก็มีเที่ยวบินจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอนทุกวัน

ในทางภูมิศาสตร์ แม่ฮ่องสอน เป็นพื้นที่ปลายสุดด้านตะวันตกของประเทศไทย มีสภาพพื้นที่เต็มไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน ทำให้ 'แม่ฮ่อนสอน' ยังคงงดงามทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม ส่วนสภาพอากาศเป็นที่รู้กันว่าเมืองเล็กๆ แห่งนี้ถูกปกคลุมด้วยหมอกเกือบตลอดทั้งปี จนได้ชื่อว่า 'เมืองสามหมอก' ใครที่เคยไปเยือน หากไม่หลงรักธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ก็มักจะหลงใหลวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ผสมกลมกลืนความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่มไว้ด้วยกัน

สำหรับนักเดินทางที่เคยไปเยือนแม่ฮ่องสอน เป็นที่รู้กันว่าถ้าต้องการที่พักที่มีความเป็นธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ต้องออกจากตัวเมืองไปสักเล็กน้อย มุ่งตรงไปที่ เฟิร์น ริมธาร รีสอร์ท ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

รีสอร์ทแห่งนี้ ตั้งอยู่บนถนนแม่ฮ่องสอน-ขุนยวม ติดริมลำห้วยแม่สะกึด ซึ่งมีต้นน้ำมาจากอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ ถ้านับระยะทางจากหนองจองคำก็ห่างไปเพียง 7 กิโลเมตร ทว่าบรรยากาศเหมือนอยู่ท่ามกลางหุบเขา ภายในรีสอร์ทได้รับการออกแบบอย่างสอดคล้องกลมกลืนกับธรรมชาติ ห้องพักมีทั้งที่เป็นหลังเดี่ยว หลังแฝด เรือนแถว แต่ราคาแบ่งออกเป็นแบบ Deluxe Room และ Suite Room จำนวน 30 หลัง แต่ละหลังใช้ไม้เป็นวัสดุหลักโดยมีต้นแบบเป็นบ้านของชาวไทยใหญ่ มีสระว่ายน้ำและร้านอาหารไว้บริการแขกที่มาพักไม่ให้ขาดตกบกพร่อง

เพราะเป็นรีสอร์ทแนวอนุรักษ์ ภายใน เฟิร์น ริมธาร จึงร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ มีธารน้ำ สวนนั่งเล่นและทางเดินศึกษาธรรมชาติ แต่ที่ถือเป็นไฮไลท์คือ นาข้าวผืนใหญ่ในบริเวณรีสอร์ทที่โอบล้อมด้วยแมกไม้และทิวเขา โดยมี Rice Terrace Bar คอยต้อนรับผู้ที่ต้องการใช้เวลาดื่มด่ำธรรมชาติ และบริเวณนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่โรแมนติกอย่าบอกใคร

แสงสุดท้ายของวันอาบไล้นาข้าวสีเขียวในฤดูฝน และสีทองอร่ามในฤดูหนาว ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความงามที่แตกต่างได้ในแต่ละฤดู สำหรับคนที่อยากยืดเส้นยืดสาย กิจกรรมที่น่าสนใจก็ได้แก่ การดูนก เดินป่า ขี่จักรยาน หรือจะลองสัมผัสวิถีของคนพื้นเมืองด้วยการร่วมทำนาปลูกข้าวก็ได้

เดินทางมาถึงแม่ฮ่องสอนควรหาเวลาไปสัมผัสกับวิถีวัฒนธรรมในตัวเมือง สถานที่แห่งแรกที่ต้องไปให้ได้ก็คือ พระธาตุดอยกองมู ศูนย์รวมศรัทธาของชาวเมือง ว่ากันว่าใครที่มาแม่ฮ่องสอนแล้วไม่ได้ไปที่นี่ถือว่ายังไม่มาถึง พระธาตุเจดีย์ของวัดนี้สร้างขึ้นเป็นแห่งแรกในแม่ฮ่องสอน มีพระเจดีย์สีขาว 2 องค์เป็นสัญลักษณ์อันงดงาม นอกจากนี้บนดอยกองมูยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นตัวเมืองของแม่ฮ่องสอนและเทือกเขาถนนธงชัยที่อยู่ไกลออกไปด้วย

อีกแห่งหนึ่งคือ วัดจองคำและวัดจองกลาง ซึ่งตั้งอยู่ติดกัน วัดทั้งสองนี้สะท้อนเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาวไทใหญ่ได้เป็นอย่างดี โดยวัดจองคำมีพระประธานขนาดใหญ่เรียกว่า 'หลวงพ่อโต' ส่วนวัดจองกลางมีพระพุทธสิหิงค์จำลองปิดทองเหลืองอร่ามทั้งองค์ ด้านหน้าวัดคือสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม หนองจองคำ ในยามค่่ำคืนเมื่อแสงจากดวงไฟที่ประดับประดาโดยรอบสะท้อนเงาในน้ำจะปรากฎเป็นภาพที่สวยงามแปลกตา และที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากคือถนนคนเดินรอบหนองจองคำ ทุกคืนวันศุกร์-อาทิตย์ จะมีพ่อค้าแม่ค้านำสินค้าพื้นเมือง อาหารและของที่ระลึกต่างๆ มาเอาใจขาช้อปทั้งหลาย

แต่ถ้าชอบบรรยากาศของตลาดเช้า ต้องไปเดินชมตลาดซึ่งตั้งอยู่บนถนนพานิชวัฒนา ใกล้วัดหัวเวียง จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น สินค้าของชาวพื้นเมือง และอาหารหน้าตาแปลกๆ ของคนไตหรือไทใหญ่ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปแม่ฮ่องสอนในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม แนะนำให้เดินทางต่อไปยังอำเภอขุนยวม เพื่อชมความงดงามของทุ่งดอกบัวตองสีเหลืองอร่ามบนดอยแม่อูคอ

ส่วนคนที่อยากปลีกวิเวก ผ่อนคลายสบายๆ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ การได้เดินชมนกชมไม้ภายในรีสอร์ท ทอดสายตาไปที่ปลายขอบฟ้า รอเวลาตะวันตกดิน ก่อนจะเข้านอนพร้อมกับเสียงดนตรีธรรมชาติ แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้ว

--------------------
จุดเด่น : เสน่ห์แบบพื้นเมืองท่ามกลางธรรมชาติ
ราคา : ประมาณ 2,000 บาทขึ้นไป
ติดต่อสอบถาม : โทร 0-5368 -6110