เลือกงานผิดชีวิตพัง? เช็ก 6 บุคลิกการทำงาน อาชีพไหนเหมาะกับคุณ

กูรูด้านการสรรหาผู้บริหาร เผย 6 บุคลิกการทำงานที่บอกได้ว่า “คุณเหมาะกับงานแบบไหน” เพราะถ้างานไม่ตรงกับธรรมชาติในตัว ขยันแค่ไหนก็ไม่รู้สึกว่าทำงานนั้นได้ดีจริงๆ
KEY
POINTS
- การเลือกงานที่ไม่ตรงกับบุคลิกภาพของตนเอง อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รู้สึกไม่มีความสุข และไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพ
- ผู้เชี่ยวชาญด้านการสรรหาบุคลากร ได้จำแนกบุคลิกการทำงานออกเป็น 6 ประเภทหลัก ได้แก่ คนทำงานไว, คนปรับตัวเก่ง, คนวางแผนล่วงหน้า, คนทำงานเพื่อเป้าหมาย, คนทำงานสายสัมพันธ์ และคนรู้เท่าทันตัวเอง
- สำหรับแต่ละบุคลิกจะมีการแนะนำอาชีพที่เหมาะสมและอาชีพที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อเป็นแนวทางในการค้นหางานที่ใช่สำหรับตนเอง
ในชีวิตการทำงานบ่อยครั้งเส้นทางอาชีพก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และไม่ใช่ทุกคนจะประสบความสำเร็จ ในขณะที่ทุกคนต่างก็สู้งานกันในทุกๆ วัน หลายคนอาจกำลังอยู่ในจุดที่รู้สึกว่า ทำไมงานที่กำลังทำอยู่ถึงยากเย็นเสมอ ไม่มีวันจะรู้สึกว่าทำมันได้ดี แม้จะทำมานานแล้วเข้าใจงานแล้ว แต่ก็รู้สึกฝืน ไม่เข้าไม้เข้ามือสักที ปัญหาอาจไม่ได้อยู่ที่คุณพยายามไม่พอ แต่อาจเป็นเพราะคุณเลือกงานที่ไม่เข้ากับตัวตนของคุณตั้งแต่แรก
ไม่นานมานี้.. วิลเลียม แวนเดอร์บลูเมน (William Vanderbloemen) ซีอีโอของบริษัทสรรหาผู้บริหาร Vanderbloemen Search Group ได้ทำการศึกษาวิจัย โดยการสัมภาษณ์คนทำงานมากกว่า 30,000 คน เพื่อหาว่าตัวตนของบุคคลมีผลต่อการทำงาน โดยในที่สุดเขาค้นพบ “รูปแบบซ้ำๆ” ที่บอกได้ว่า ทำไมบางคนถึงรุ่งในงานของตัวเอง ในขณะที่บางคนกลับรู้สึกเหมือนต้องฝืนทำมันทุกวัน
สำหรับหนังสือเล่มใหม่ของเขา “Work How You Are Wired: 12 Data-Driven Steps to Finding a Job You Love” แวนเดอร์บลูเมนได้วิเคราะห์ข้อมูลด้านความพึงพอใจในการทำงาน และสมรรถนะการทำงานของคนหลายหมื่นคน ควบคู่กับแบบทดสอบบุคลิกภาพอย่าง DiSC, Enneagram และ Vander Index ก่อนจะพบว่า คนที่ทำงานสอดคล้องกับบุคลิกของตนเอง จะมีแนวโน้มประสบความสำเร็จและมีความสุขสูงกว่าอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ วัยทำงานสามารถลองเข้าไปทำแบบทดสอบต่างๆ ได้ที่นี่: Enneagram Test , DiSC Test 1, DiSC Test 2 , แบบทดสอบบุคลิกภาพ MBTI
และนี่คือ 6 บุคลิกการทำงานหลัก ที่เจอบ่อยที่สุด พร้อมตัวอย่างอาชีพที่เหมาะสม และอาชีพที่ควรหลีกเลี่ยง
1. คนทำงานไว (The Fast Worker)
คุณคือคนที่ตอบอีเมลก่อนใคร ชอบทำอะไรให้เสร็จไวๆ และอดไม่ได้ที่จะลงมือทำทันทีเมื่อมีปัญหา คนกลุ่มนี้จะรู้สึกมีพลังที่สุดเมื่อได้ “แก้ปัญหาแบบฉับพลัน” และเห็นผลลัพธ์ทันตา แต่ถ้าต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่ช้า มีขั้นตอนเยอะ หรือไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน พวกเขาจะรู้สึกหงุดหงิดและหมดไฟเร็วมาก
งานที่เหมาะ: โบรกเกอร์หุ้น, แพทย์ห้องฉุกเฉิน, พยาบาลประจำศูนย์ฉุกเฉิน, นักกฎหมายคดีความ, โปรดิวเซอร์รายการสด, นายหน้าอสังหาฯ, ผู้ช่วยผู้บริหาร, ผู้ประสานงานเหตุฉุกเฉิน
งานที่ควรหลีกเลี่ยง: ครู, นักวิจัย, ศิลปิน, นักพฤกษศาสตร์, นักคณิตศาสตร์ประกันภัย, เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย
แวนเดอร์บลูเมนเสริมว่า คนกลุ่มนี้ “รักความเร็วมากกว่าความสมบูรณ์แบบ” และถ้าองค์กรให้พวกเขาอิสระในการตัดสินใจ จะได้เห็นผลงานที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ
2. คนปรับตัวเก่ง (The Agile Worker)
Agile Worker คือคนที่ชอบความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ พวกเขามีความยืดหยุ่นสูง และมองความล้มเหลวเป็นเพียง “โอกาสในการเรียนรู้” แวนเดอร์บลูเมน บอกว่า “คนทำงานประเภทนี้ พวกเขาไม่ชอบความจำเจ และจะรู้สึกเหมือนหมดอากาศหายใจ ถ้าต้องอยู่ในระบบที่ตายตัวเกินไป”
งานที่เหมาะ: ผู้ประกอบการ, สถาปนิก, วิศวกร, ช่างไฟฟ้า, ช่างประปา, นักเขียนคอนเทนต์, นักบิน, ช่างซ่อมเครื่องยนต์, นักวางแผนอีเวนต์, ที่ปรึกษาธุรกิจ, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
งานที่ควรหลีกเลี่ยง: โปรแกรมเมอร์, ผู้ช่วยวิจัย, พนักงานธนาคาร, บรรณารักษ์, นักออกแบบ CAD
Agile Worker มักเป็น “สายลุย” ที่พร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิด จึงมักทำงานเก่งในทีมที่เน้นลงมือจริงและเปลี่ยนแผนได้ทันทีเมื่อเจออุปสรรค
อ่านเพิ่ม:
ปริญญาจะล้าสมัย? โลกการทำงานยุคนี้นายจ้าง 81% เน้นทักษะมากกว่า
ทักษะลดความขัดแย้ง สกิล No.1 นายจ้างต้องการสูง
6 คอร์สเรียนฟรี อัป 7 ทักษะพร้อมใบรับรอง นายจ้างจ่ายเงินเดือนสูง!
3. คนวางแผนล่วงหน้า (The Prepared Worker)
คนทำงานประเภทนี้ คือนักจัดการชีวิตตัวจริง วางแผนการกิน การใช้เงิน การทำงาน ทุกอย่างต้องมีระบบและเหตุผลรองรับ คนกลุ่มนี้เป็น “คนวางกลยุทธ์” ที่เชื่อว่าการเตรียมตัวคือหัวใจของความสำเร็จ พวกเขาชอบความชัดเจนและเกลียดความวุ่นวายที่ไม่จำเป็น รวมถึงไม่ทนกับคนที่ทำงานแบบไม่รับผิดชอบ เพราะจะรู้สึกว่า “ทำให้แผนพัง”
งานที่เหมาะ: นักบัญชีภาษี, ครู, พยาบาล, ทันตแพทย์, ทนายสิทธิบัตร, นักข่าว, นักวางแผนงานแต่งงาน, ผู้กำกับวงออร์เคสตรา
งานที่ควรหลีกเลี่ยง: ผู้ประกอบการ, นักประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤต, นักพัฒนาเว็บไซต์, แพทย์ห้องฉุกเฉิน, นักขายแบบคอมมิชชัน, นักเจรจาต่อรองตัวประกัน
แวนเดอร์บลูเมนอธิบายว่า คนกลุ่มนี้ “ไม่ได้กลัวความเปลี่ยนแปลง แต่ต้องการเวลาเตรียมตัวก่อนจะเปลี่ยน” ซึ่งทำให้พวกเขาเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรที่ต้องการความมั่นคงและการจัดการที่แม่นยำ
4. คนทำงานเพื่อเป้าหมาย (The Purpose-Driven Worker)
นี่คือคนที่ทำงานด้วย “หัวใจ” มากกว่า “เงินเดือน” พวกเขามักรู้สึกมีพลังเมื่อได้ช่วยเหลือผู้อื่นหรือทำงานที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม อย่างไรก็ตาม คนกลุ่มนี้มักเจอความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ เพราะมักทำงานในสภาพแวดล้อมที่ต้องรับมือกับความสูญเสียหรือความกดดันทางจิตใจ เช่น งานด้านสังคม งานกฎหมายเพื่อสาธารณะ หรือองค์กรไม่แสวงหากำไร
งานที่เหมาะ: ทนายสิทธิมนุษยชน, ผู้อำนวยการองค์กรไม่แสวงกำไร, นักสังคมสงเคราะห์, ครูแนะแนว, นักบวช, ผู้จัดการฝ่ายบุคคล, นักวางแผนการเงินส่วนบุคคล
งานที่ควรหลีกเลี่ยง: ตัวแทนขาย, นักการเมือง, ผู้บริหารสายโฆษณา, เจ้าหน้าที่ประกันสุขภาพ, นักกฎหมายองค์กร, เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์
แวนเดอร์บลูเมนเตือนว่า “คนที่ขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายงานที่ยิ่งใหญ่ มักจะต้องการสภาพแวดล้อมที่ให้คุณค่ากับสิ่งที่พวกเขาเชื่อ ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะหมดไฟเร็วมาก”
5. คนทำงานเครือข่าย-สายสัมพันธ์ (The Connected Worker)
คุณเป็นคนที่ชอบสังสรรค์ วางแผนกิจกรรม และจำชื่อเพื่อนได้ทุกคนหรือเปล่า? ถ้าใช่.. คุณคือ “คนสายสัมพันธ์” ที่เจิดจรัสที่สุดในงานที่ต้องใช้มนุษยสัมพันธ์ พวกเขาเป็นผู้ฟังที่ดี มีทักษะการสื่อสารเป็นเลิศ และสามารถเชื่อมโยงผู้คนได้อย่างเป็นธรรมชาติ จึงเหมาะกับบทบาทที่ต้องการความสัมพันธ์ระยะยาว เช่น งานขาย การเจรจา การประชาสัมพันธ์ หรือธุรกิจบริการ
งานที่เหมาะ: นักประชาสัมพันธ์, ผู้จัดการชุมชน, ตัวแทนขาย, ผู้ว่าราชการ, ผู้ระดมทุน, ผู้ประกอบการ, ล็อบบี้ยิสต์, ผู้จัดการลูกค้ารายใหญ่, ช่างทำผม
งานที่ควรหลีกเลี่ยง: นักบัญชี, นักออกแบบกราฟิก, บรรณาธิการ, โปรแกรมเมอร์, นักวิทยาศาสตร์, ผู้ช่วยเสมือน, เจ้าหน้าที่ซัพพอร์ตด้านเทคนิค
คนทำงานประเภทสายสัมพันธ์จะหมดไฟอย่างรวดเร็ว หากพวกเขาต้องทำงานคนเดียวหรืออยู่ในระบบที่ไม่เปิดโอกาสให้ได้ “เชื่อมโยงกับผู้คน”
6. คนรู้เท่าทันตัวเอง (The Self-Aware Worker)
หากคุณเป็นคนที่ชอบเฝ้าสังเกตคนในงานปาร์ตี้ สนใจเรื่องจิตวิทยา และชอบสำรวจตัวเองหรือเปล่า? ถ้าใช่ คุณคือ “นักเข้าใจมนุษย์” โดยธรรมชาติ คนทำงานประเภทนี้พวกเขามักจะมีความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) สูง เข้าใจคนอื่นได้ดี และมักเป็นที่พึ่งของเพื่อนร่วมงานในเวลาที่ทีมมีปัญหา แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นคนอ่อนไหวต่อความขัดแย้ง และมักเครียด หากต้องอยู่ในองค์กรที่ไม่ชัดเจนในค่านิยม
งานที่เหมาะ: โค้ชชีวิต, ครูสอนโยคะ, นักไกล่เกลี่ยข้อพิพาท, ที่ปรึกษาด้านจิตวิทยา, ที่ปรึกษาอื่นๆ, นักสังคมสงเคราะห์, ผู้จัดการฝ่ายบุคคล, ผู้จัดการโครงการ, นักขาย
งานที่ควรหลีกเลี่ยง: โปรแกรมเมอร์, ผู้พิพากษา, เจ้าหน้าที่รัฐ, นักออกแบบเกม, พนักงานต้อนรับ, เจ้าหน้าที่อุทยาน
แวนเดอร์บลูเมนระบุว่า “คนกลุ่มนี้มักเป็นหัวใจของทีม เพราะพวกเขาอ่านอารมณ์คนอื่นได้เร็ว แต่ถ้าองค์กรไม่ให้พื้นที่ในการซื่อสัตย์กับความรู้สึก พวกเขาจะหมดไฟในที่สุด”
อย่างไรก็ตาม แวนเดอร์บลูเมน สรุปไว้อย่างคมคายว่า
“ไม่มีงานไหนดีที่สุดในโลก มีแต่งานที่เหมาะกับธรรมชาติของคุณที่สุด”
เพราะความสุขในการทำงานไม่ได้เกิดจากเงินเดือนสูง หรือชื่อบริษัทดัง
แต่มาจากการได้ทำงานในจังหวะและสภาพแวดล้อมที่ “สอดคล้องกับสายไฟในตัวเอง” เมื่อเข้าใจว่าเราทำงานแบบไหนถึงมีพลัง งานจะไม่ใช่ภาระ แต่กลายเป็น “พื้นที่ที่ทำให้เราเติบโตและมีคุณค่าในแบบของตัวเอง”
อ้างอิง: CNBC make it, Work how you are wired







