รู้จัก ‘Owala’ กระบอกน้ำดีไซน์เก๋มาแรงครองใจ Gen Z ทั่วโลก
จากกระบอกน้ำธรรมดา สู่แฟชั่นไอเทมแห่งยุค Owala พลิกภาพลักษณ์ให้การดื่มน้ำสนุก มีสไตล์ และกลายเป็นกระแสไวรัลที่ครองใจคนรุ่นใหม่ทั่วโลก
KEY
POINTS
- Owala คือกระบอกน้ำที่กลายเป็นแฟชั่นไอเทมที่ได้รับความนิยมในกลุ่ม Gen Z ทั่วโลก ด้วยดีไซน์เก๋และสีสันสดใส
- จุดเด่นสำคัญคือฝา FreeSip™ ที่ออกแบบให้ดื่มได้ 2 รูปแบบในฝาเดียว (จิบผ่านหลอดและยกดื่ม) ซึ่งได้รับการยกย่องจากนิตยสาร TIME
- ความนิยมของแบรนด์เกิดจากกระแสไวรัลบนโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok และ Instagram ผ่านการรีวิวและตกแต่งขวดของผู้ใช้งานจริง
- นอกจากดีไซน์แล้ว Owala ยังมีคุณสมบัติเด่นด้านการใช้งาน เช่น เก็บความเย็นได้นาน ป้องกันการรั่วซึม และวัสดุที่ทนทาน
ในยุคที่ “กระบอกน้ำ” ไม่ได้เป็นเพียงภาชนะเก็บน้ำอีกต่อไป แต่กลายเป็นแฟชั่นไอเทมที่สะท้อนรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ หนึ่งในแบรนด์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วงปีที่ผ่านมา คือ Owala ขวดน้ำดีไซน์เก๋ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ยังเต็มไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่เหนือความคาดหมาย จนกลายเป็นกระแสไวรัลบนโซเชียลมีเดียและครองใจชาว Gen Z อย่างรวดเร็ว
กรุงเทพธุรกิจ จะพาผู้อ่านไปรู้จัก Owala ขวดน้ำที่หลายคนบอกว่าเปลี่ยนการดื่มน้ำธรรมดาให้กลายเป็นประสบการณ์ที่สนุกและมีสไตล์กว่าที่เคย
จากกระบอกน้ำธรรมดา สู่ “เพื่อนคู่ใจ”
Owala เกิดขึ้นในปี 2021 ด้วยแนวคิดง่ายๆ แต่โดนใจ คือ “ขวดน้ำควรจะเป็นเพื่อนคู่ใจ ไม่ใช่ภาระ”
จุดเริ่มต้นคือการทำขวดที่สนุก น่ารัก พกง่าย และทำให้คนดื่มน้ำมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องพกขวดขนาดใหญ่ให้เหมือนกำลังจะไปปีนเอเวอเรสต์ถึงจะดูเท่
ดีไซน์ที่โดดเด่นและสีสันสดใสของ Owala จึงได้กลายมาเป็นที่สะดุดตาในโซเชียล และทำให้คนพูดถึงกันแบบปากต่อปาก จนกลายเป็น “ปรากฏการณ์วัฒนธรรม” ที่ใครๆ ก็อยากมี
FreeSip™: สิ่งประดิษฐ์ที่ทำให้ Owala ขึ้นแท่นตำนาน
หัวใจสำคัญที่ทำให้ Owala ต่างจากขวดน้ำทั่วไปคือ ฝา FreeSip™ ที่ถูกยกให้เป็น “หนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่ดีที่สุดของปี 2023” โดยนิตยสาร TIME จุดเด่นคือการดื่มได้ 2 แบบในฝาเดียว
- จิบจากหลอดในตัวได้ทันที โดยไม่ต้องเอียงขวด
- หรือดื่มจากช่องกว้างแบบ “chug” ได้สะใจเหมือนยกแก้ว
ดีไซน์นี้ถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เข้ากับรูปปากและให้ประสบการณ์ดื่มที่ “ง่ายอย่างเหลือเชื่อ” ใครที่ลองใช้มักพูดตรงกันว่า “นี่คือขวดน้ำที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา”
ข้อดีที่ทำให้ Owala ถูกใจคนทั่วโลก
- ความสะอาดและปลอดภัย: ฝาปิดพับเก็บได้พร้อมตัวล็อก กันเชื้อโรคและป้องกันการรั่ว 100%
- ทำความสะอาดง่าย: ทุกชิ้นถอดล้างได้ แม้แต่หลอดและซีลซิลิโคนเล็กๆ
- ทนทาน: หล่นแล้วไม่บุบง่าย
- ฉนวนกันความร้อน: เก็บความเย็นได้ทั้งวันด้วยฉนวนสุญญากาศสามชั้น
- ไร้สารตะกั่ว: แตกต่างจากขวดหลายแบรนด์ในตลาด
- สีสันสนุกและแฟชั่นจ๋า: มีมากกว่า 20 เฉดสีให้เลือกที่จะเปลี่ยนลุคขวดน้ำให้กลายเป็นแอ็กเซสซอรี
- ราคาเอื้อมถึง: เริ่มต้นที่ราว 28 - 34 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,000 บาทกว่าๆ)
ทำไม Owala ถึงดังข้ามคืน?
Owala ไม่ได้ดังเพราะความบังเอิญ แต่เพราะ “เข้าใจโซเชียล” อย่างแท้จริง คลิปรีวิวสั้นๆ ของผู้ใช้จริงและอินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงการแต่งขวดด้วยสติกเกอร์ พวงกุญแจ จนได้กลายมาเป็นคอนเทนต์ไวรัลที่สร้างความต้องการอย่างมหาศาล แฮชแท็ก #Owala มียอดโพสต์หลายหมื่น ทั้งบน Instagram และ TikTok
นอกจากนี้ ดีไซน์สีสันที่จัดจ้านยังเข้ากับยุคสมัยที่คนอยากได้ของใช้ที่ “ถ่ายรูปขึ้น” พกไปออกกำลังกายก็เท่ วางบนโต๊ะทำงานก็ยังดูดี
Owala มีข้อเสียบ้างไหม?
แม้จะได้รับเสียงชมล้นหลาม แต่ก็มีบางจุดที่ผู้ใช้บางคนท้วง เช่น
- หูหิ้วแข็งไปนิด ไม่ถนัดมือทุกคน
- การปิดฝาต้องกดแรงเพื่อให้แน่นสนิท
- มีส่วนที่เป็นพลาสติกสัมผัสกับน้ำ แม้จะปลอดสาร BPA แต่บางคนก็อยากที่จะเลี่ยงพลาสติกทุกชนิด
- ต้องขยันล้างทำความสะอาดเพราะฝาปิดอาจดักจับสิ่งสกปรก
สรุปแล้ว Owala คุ้มค่ากับกระแสหรือเปล่า?
หากคุณกำลังมองหาขวดน้ำที่ สวย ใช้ง่าย และทำให้ดื่มน้ำได้มากขึ้นจริง Owala คือการลงทุนที่คุ้มค่า โดยเฉพาะฝา FreeSip™ ที่ทำให้ยากจะกลับไปใช้ขวดแบบเดิม แต่ถ้าซื้อเพียงเพราะ “กลัวตกเทรนด์” อาจต้องถามตัวเองก่อนว่า เป็นความต้องการจริงๆ หรือแค่ตามกระแส เพราะแก่นแท้ของ Owala ไม่ใช่แค่ขวดน้ำแฟชั่น แต่คือการส่งเสริมการดื่มน้ำให้เพียงพอในชีวิตประจำวันอย่างมีสไตล์นั่นเอง
อ้างอิง refinery29 , hypesingapore , bottlepro