3 พฤติกรรม Toxic Boss รู้ได้ตั้งแต่สัมภาษณ์งาน เจอแบบนี้รีบหนีไป

อยากได้งานมากแค่ไหนก็ต้องมีสติ! ไม่งั้นอาจได้ทำงานกับหัวหน้าแย่ๆ ไปตลอดหลายปี ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การทำงาน เตือนพนักงานให้มองเห็น "สัญญาณเตือน" ของหัวหน้างานแบบ Toxic Boss ตั้งแต่ยังไม่เริ่มงาน โดยเฉพาะพฤติกรรมเป็นพิษของว่าที่เจ้านายที่เราสามารถจับสังเกตได้ตั้งแต่วันสัมภาษณ์งาน ..นี่อาจเป็นตัวชี้ชะตาว่าคุณกำลังจะเข้าสู่สภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นพิษหรือไม่

มีตา มัลลิก (Mita Mallick) ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การทำงาน นักเขียน และอดีตผู้บริหารฝ่ายการตลาดและทรัพยากรบุคคล ได้อธิบายถึงประสบการณ์ตรง ที่เธอเคยเจอกับหัวหน้าที่มีพฤติกรรมเป็นพิษ (Toxic Boss) ไม่ว่าจะเป็น การตะโกนใส่ลูกน้อง จู้จี้จุกจิกและชอบควบคุมทุกอย่าง แอบนินทา เอาผลงานคนอื่นไปเป็นของตัวเอง ไปจนถึงนอนหลับในที่ประชุม

“แม้เวลาจะผ่านมาหลายปี ฉันยังจำหน้าคนเหล่านั้นได้ดี” มัลลิก เล่า พร้อมย้ำว่าผลกระทบของหัวหน้าที่มีพฤติกรรมแย่ๆ ไม่เพียงบั่นทอนขวัญกำลังใจของทีม แต่ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพของงาน และแน่นอนว่าส่งผลต่ออัตราการลาออกของพนักงานด้วย

ล่าสุด ในฐานะนักเขียนเธอกำลังจะออกหนังสือเล่มใหม่ชื่อ The Devil Emails at Midnight: What Good Leaders Can Learn From Bad Bosses ในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งรวบรวมบทเรียนจากประสบการณ์การทำงานกับเจ้านายเป็นพิษ ผู้นำที่ไม่โอเค และแนะแนวทางให้ผู้นำรุ่นใหม่เรียนรู้จากข้อผิดพลาดนั้น

3 สัญญาณเตือน บ่งชี้ เจ้านายคนนี้ไม่น่าร่วมงานด้วย

ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การทำงาน ชี้ว่า จุดสังเกตที่สำคัญที่สุดในการประเมินหัวหน้าว่าจะเป็น "หัวหน้าที่แย่" หรือไม่ ก็คือ พฤติกรรมของเขาในวันสัมภาษณ์งานกับคุณ 

1. มาสัมภาษณ์สาย แล้วยังไม่ขอโทษ

การมาไม่ตรงเวลาของหัวหน้าผู้สัมภาษณ์ เพราะหากว่าที่เจ้านาย ผู้ซึ่งจะดูแลคุณในอนาคต ยังมาสัมภาษณ์สายแบบไม่ขอโทษเลย นั่นอาจหมายถึงเขาจะไม่ให้เกียรติเวลาของคุณในที่ทำงานเช่นกัน

2. ไม่สนใจ เฉยเมย ระหว่างการสัมภาษณ์งาน

เฉยเมยขณะทำการสัมภาษณ์คุณ ท่าทีของเขาหรือเธอระหว่างสัมภาษณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน หากหัวหน้าดูเฉยเมย ไม่ตั้งใจฟัง หรือดูไม่สนใจจริงจัง นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าเขาจะไม่ให้คำแนะนำ ไม่ให้การสนับสนุน และไม่ช่วยให้คุณเติบโตในสายงานเลย

3. บ่นเรื่องที่ทำงานให้ฟังอย่างเปิดเผย

ที่สำคัญ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้สมัคร "ฟังให้ดีว่าเจ้านายพูดถึงองค์กรอย่างไร" หากเขาหรือเธอบ่นเรื่องที่ทำงานอย่างเปิดเผย หรือพูดถึงที่ทำงานในแง่ลบ อาจไม่ใช่แค่ความคิดส่วนตัว แต่อาจสะท้อนถึงวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นพิษด้วย

อยากได้งานแค่ไหน ก็อย่ามองข้ามสัญญาณอันตราย

“เคยมีคนสัมภาษณ์ฉันแล้วพูดว่า ‘ที่นี่ทำงานโหดมากนะ ต้องอดทน’ ฉันถึงกับคิดในใจว่า เอ๊ะ...นี่คุณกำลังพยายามชวนฉันให้ทำงานที่นี่จริงๆ ใช่ไหม?” มัลลิก เล่า

แม้จะมีสัญญาณเตือนเต็มไปหมด แต่ผู้สมัครงานหลายคนก็ยังยอมทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เพราะ “อยากได้งานนั้นมากเกินไป” ซึ่งประเด็นนี้ในฐานะผู้เชี่ยวอย่างเธอก็เข้าใจดี เพราะมัลลิกเองก็เคยตกอยู่ในกับดักนั้นมาก่อน

ย้อนกลับไปช่วงเริ่มต้นอาชีพ มัลลิก ยอมรับว่าเคย “หลงกับภาพลักษณ์” ของตำแหน่งงานที่ดูน่าประทับใจ และชื่อเสียงขององค์กรที่โด่งดัง ทั้งที่ระหว่างทางก็เห็นสัญญาณไม่ดีหลายอย่าง แต่ก็เลือกมองข้ามเพราะอยากได้โอกาสนั้น

เธอจึงฝากถึงคนหางานว่า อย่าหลงกับชื่อบริษัทหรือชื่อตำแหน่งเท่ๆ แต่ให้มองว่าในชีวิตจริง คุณจะได้ทำอะไร ได้เติบโตไหม และบรรยากาศในการทำงานจะส่งผลต่อสุขภาพใจคุณอย่างไร 

“อย่าเลือกงานเพียงเพราะมันจะดูดีบนประวัติการทำงานของคุณในอนาคต แต่ให้เลือกทำงานในบริษัทที่คุณจะได้ลงมือทำจริงๆ และรู้สึกว่ามีคุณค่าในทุกวันทำงาน” ผู้เชี่ยวชาญทิ้งท้าย

 

อ้างอิง: CNBC Make it