เด็กจบใหม่ระวัง เผลอสมัครงานปลอม! บริษัท 40% โพสต์ประกาศงานลวง

ยุคนี้หางานว่ายากแล้ว เจอประกาศปลอมยิ่งปวดใจ! คนหางานต้องรู้ทัน 7 สัญญาณอันตราย ที่ซ่อนอยู่ในประกาศรับสมัครงาน อย่าให้ความหวังปลอมๆ มาทำร้ายเส้นทางอาชีพของคุณ! โดยเฉพาะบัณฑิตจบใหม่ที่กำลังพุ่งชนกับความท้าทายในตลาดแรงงาน คุณเคยไหมที่อ่านประกาศรับสมัครงานแล้วรู้สึกว่า "มันดีเกินจริงไปหรือเปล่า?"

ถ้าคำตอบคือใช่ คุณอาจกำลังเจอ "Red Flag" หรือสัญญาณอันตรายเข้าให้แล้ว เพราะจากการวิจัยล่าสุดพบว่า มากถึง 40% ของบริษัทต่างๆ โพสต์ประกาศรับสมัครงานปลอมในปีนี้ และ 3 ใน 10 ประกาศปลอมเหล่านั้นยังคงแอคทีฟอยู่! นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่จะมองข้ามได้เลย

ในยุคที่การหางานซับซ้อนและท้าทายกว่าที่เคยเป็นมา ผู้หางานจำนวนมากต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน ความคับข้องใจ และการขาดความไว้วางใจในนายจ้าง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการหลอกลวงของบริษัทที่โพสต์งานปลอม เพื่อทำทีเป็นว่ากำลังจะช่วยลดภาระงานของพนักงานเดิม หรือสร้างภาพว่าองค์กรเติบโต

ผู้จัดการฝ่ายจ้างงานบางรายถึงกับยอมรับว่าการลงประกาศงานปลอมช่วยเพิ่มรายได้ ขวัญกำลังใจ และประสิทธิภาพการทำงานได้ และ 70% ของผู้จัดการเหล่านี้มองว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ทางศีลธรรม แต่อย่างไรก็ตาม การกระทำเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจคนหางานที่มีความหวัง 

ทั้งนี้ ก่อนที่จะกด "สมัคร" หรือส่งเรซูเม่ไปที่ไหน ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพแนะนำว่า ให้คุณศึกษาข้อมูลบริษัทอย่างละเอียด ทั้งเส้นทางการเติบโต ตำแหน่งทางการตลาด จุดแข็ง จุดอ่อน รวมถึงประวัติและเหตุการณ์สำคัญขององค์กร มีรายงานจาก Glassdoor ชี้ให้เห็นถึงเทรนด์ที่น่ากังวลในยุคนี้ อย่างเช่นเทรนด์ "the octo-hire" หรือพนักงานที่ต้องรับผิดชอบงานถึง 8 ตำแหน่งพร้อมกัน จนนำไปสู่ภาวะหมดไฟ!

อแมนด้า ออกัสทีน (Amanda Augustine) โค้ชด้านอาชีพชื่อดังจาก resume.ai ได้เผยเคล็ดลับสำคัญว่า บัณฑิตจบใหม่และคนหางานต้องรู้จัก "อ่านระหว่างบรรทัด" จากถ้อยคำที่นายจ้างมักใช้ในประกาศงาน ลองมาดูกันว่าวลีเด็ดๆ เหล่านี้ แท้จริงแล้วอาจซ่อนความหมายอะไรไว้บ้าง

"สภาพแวดล้อมที่รวดเร็ว" (Fast-paced environment)

ความหมายจริงที่ซ่อนอยู่: คุณจะต้องทำงานภายใต้แรงกดดันสูง แข่งกับเวลา ปรับตัวตลอดเวลา และอาจต้องรับผิดชอบหลายอย่างพร้อมกัน

"เราทำงานหนักและเล่นหนัก" (We work hard and play hard)

ความหมายจริงที่ซ่อนอยู่: ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานกว่าปกติ คาดหวังให้เข้าร่วมกิจกรรมนอกเวลางานบ่อยๆ และเส้นแบ่งระหว่างชีวิตส่วนตัวกับการทำงานที่เบลอจนแยกไม่ออก

"สามารถริเริ่มและลงมือทำได้ด้วยตนเอง" (Self-starter who can take initiative)

ความหมายจริงที่ซ่อนอยู่: คุณอาจต้องเรียนรู้และหาทางออกด้วยตัวเอง โดยมีการแนะนำหรือฝึกอบรมเพียงเล็กน้อย ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการขาดการจัดระเบียบหรือการสนับสนุนจากบริษัท

"เราเหมือนครอบครัว" (We’re like a family)

ความหมายจริงที่ซ่อนอยู่: บริษัทอาจคาดหวังให้คุณทุ่มเทเกินหน้าที่ โดยไม่มีค่าตอบแทนเพิ่มเติม หรือต้องจัดลำดับความสำคัญของบริษัทเหนือกว่าชีวิตส่วนตัวของคุณเอง

"ศักยภาพในการสร้างรายได้ไม่จำกัด" (Unlimited earning potential)

ความหมายจริงที่ซ่อนอยู่:: งานนี้อาจเป็นงานที่เน้นค่าคอมมิชชันหรือโบนัสเป็นหลัก ไม่ใช่เงินเดือนที่แน่นอน ทำให้รายได้ไม่มั่นคง และอาจมีเพียงไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จจริงๆ

"ระดับเริ่มต้น" (แต่ต้องการประสบการณ์) (Entry-level; but requires experience)

ความหมายจริงที่ซ่อนอยู่: บริษัทต้องการผู้ที่มีประสบการณ์สูงมารับผิดชอบงานระดับสูง โดยไม่เสนอการฝึกอบรม การสนับสนุน หรือค่าตอบแทนที่เหมาะสม ทำให้บัณฑิตจบใหม่จริงๆ เข้าถึงได้ยาก

"มีความหลงใหลในงาน" (Passionate about the job)

ความหมายจริงที่ซ่อนอยู่: นี่อาจเป็นโค้ดลับที่บอกว่า เราไม่สามารถให้ค่าตอบแทนหรือสมดุลชีวิตที่ดีได้มากนัก แต่หวังว่าความหลงใหลในงานของคุณจะช่วยชดเชยได้! คุณอาจต้องทำงานเกินชั่วโมง หรือถูกขอให้ทำนอกเหนือจาก Job Description โดยไม่มีการสนับสนุนหรือค่าตอบแทนพิเศษ

เคล็ดลับสำหรับบัณฑิตจบใหม่และคนหางาน อย่าตกเป็นเหยื่อ!

หากคุณพบวลีเหล่านี้และยังตัดสินใจที่จะไปสัมภาษณ์งาน อย่าลืมว่านี่คือโอกาสทองที่คุณจะได้ "ถามคำถาม" เพื่อความชัดเจน! การตั้งคำถามที่รอบคอบและแสดงความสนใจอย่างแท้จริงในตำแหน่งงาน จะทำให้ผู้สรรหาบุคลากรประทับใจมากกว่าแค่การตอบคำถามเฉยๆ

ออกัสทีน ย้ำว่าวลีทั้งหมดข้างต้นนี้ไม่ได้แปลว่าคุณต้องปฏิเสธงานนั้นเสมอไป แต่มันคือ "สัญญาณ" ที่บอกให้คุณต้องตรวจสอบแบบเจาะลึกมากขึ้น!

"การสังเกตประกาศงานที่น่าสงสัยเป็นส่วนหนึ่งของการบ้านที่คุณต้องทำ ลองตรวจสอบเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของบริษัท อ่านรีวิวของพนักงานในเว็บไซต์อย่าง Glassdoor หรือ Comparably และใช้เครือข่ายศิษย์เก่าของคุณเพื่อรับมุมมองจากคนใน" เธอ เตือนย้ำอีกครั้ง

และสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องจำไว้คือ การสัมภาษณ์เป็นการพูดคุยแบบสองทาง คุณไม่ได้เข้ารับการสัมภาษณ์เพื่อสร้างความประทับใจเท่านั้น แต่คุณยังอยู่ที่นั่นเพื่อถามคำถามและประเมินว่าวัฒนธรรมองค์กรและบทบาทนั้นเหมาะสมกับคุณจริงๆ หรือไม่! 

อ้างอิง: Forbes