สัมภาษณ์งานกับ AI คือฝันร้าย! เจอบอทพูดติดอ่าง รัวๆ 14 ครั้งติดกัน

เมื่อการหางานปะทะกับเทคโนโลยีล้ำยุค แต่มันไม่เวิร์ก! หญิงสาวคนหนึ่งในโอไฮโอเผชิญประสบการณ์สุดหลอนกับ AI ขณะสัมภาษณ์งาน มันพูดติดอ่างรัวๆ จนคุยกันไม่รู้เรื่อง
KEY
POINTS
- สัมภาษณ์งานด้วย AI กลายเป็นฝันร้าย หญิงสาวในโอไฮโอเจอบอทสัมภาษณ์พูดวนคำว่า "vertical bar pilates" 14 ครั้งใน 25 วินาที ทำเอาขนลุกและรู้สึกไม่ปลอดภัยกับระบบอัตโนมัติ
- คนรุ่นใหม่เริ่มต่อต้านการสัมภาษณ์แบบไร้มนุษย์ ผู้สมัครงานต่างแชร์ประสบการณ์เจอ AI ขณะสัมภาษณ์งาน และมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เห็นค่าความเป็นมนุษย์ หลายคนเลือกปิดหน้าต่างหรือปฏิเสธงานทันทีหากเจอบริษัทใช้บอทสัมภาษณ์
- ไม่ใช่แค่ไม่ชอบใจที่เจอบอทสัมภาษณ์งาน แต่คนรุ่นใหม่เกือบ 50% รู้สึกว่าปริญญาที่เรียนมาไร้ความหมาย เพราะ AI เริ่มแทนที่งานมากขึ้น ขณะที่อีก 44% บอกชัดว่า ถ้าบริษัทไม่บอกเงินเดือนก็พร้อมเลิกติดต่อทันที
แค่การหางาน หรือการสัมภาษณ์งานทั่วไปก็เครียดพออยู่แล้ว แต่ผู้สมัครงานบางคนกลับต้อมาเจอผู้สัมภาษณ์ที่เป็น AI (มาทำหน้าที่แทน HR ที่เป็นคนจริงๆ ) เรื่องนี้กลายเป็นฝันร้าย! เพราะระบบการสัมภาษณ์งานออนไลน์เกิดขัดข้อง บอทพูดติดอ่างรัวๆ คำพูดซ้ำซาก งานนี้จากความตื่นเต้นที่จะได้งาน อาจกลายเป็นความหลอนแบบไม่คาดคิด
เรื่องนี้ถูกรายงานผ่าน New York Post เมื่อไม่นานมานี้ โดยตามรายงานระบุถึงผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม TikTok คนหนึ่งชื่อ Ken (@its_ken04) ที่คลิปของเธอกลายเป็นไวรัลทันที หลังออกมาแชร์ประสบการณ์การสัมภาษณ์งานกับ Stretch Lab ในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ซึ่งใช้บอทอัตโนมัติจากบริษัทสตาร์ทอัป Apriora ในสัมภาษณ์กับผู้สมัครงาน ผลลัพธ์ที่ได้คือบอทพูดซ้ำคำว่า “vertical bar pilates” ถึง 14 ครั้งภายในเวลาแค่ 25 วินาที
“ตอนนั้นมันน่าขนลุกมาก ฉันรู้สึกกลัวจริงๆ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดเลย มันเกิดขึ้นเอง ก็เลยตกใจมาก” เธอเล่าครั้งแรกผ่านสื่อ 404 Media
แม้ตอนแรกจะรู้สึกอึดอัดใจ แต่หลังจากที่ Ken โพสต์คลิปวิดีโอการสัมภาษณ์ลง TikTok เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์ปลอบใจจำนวนมาก จนเธอเริ่มมองเรื่องนี้ในมุมขำขันได้บ้าง
AI และระบบอัตโนมัติ เริ่มแทรกซึมในโลกการทำงานมากขึ้น
ทั้งนี้ Apriora บริษัทสตาร์ทอัปที่ได้รับการสนับสนุนจาก Y Combinator ได้โฆษณาแพลตฟอร์ม AI สำหรับสัมภาษณ์งานของพวกเขา ว่า สามารถคัดเลือกผู้สมัครได้รวดเร็วขึ้นถึง 87% และประหยัดต้นทุนมากกว่า 93% เมื่อเทียบกับวิธีดั้งเดิม โดยระบบสามารถสัมภาษณ์ผู้สมัครหลายคนได้พร้อมกัน และยังให้ประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับการพูดคุยกับมนุษย์จริงๆ
แต่ประสบการณ์ของ Ken (เคสตัวอย่างข้างต้น) กลับทำให้ผู้สมัครงานจำนวนมากรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในตอนหนึ่งของซีรีส์ลี้ลับและชวนขนหัวลุกอย่าง Black Mirror มากกว่าที่จะรู้สึกว่าได้สัมผัสเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่างน่าทึ่ง
“พอเลยเถอะ หยุดใช้ AI มาทำงานแทนฝ่ายทรัพยากรบุคคลได้แล้ว! มันทำให้ฉันขนลุกแบบสุดๆ” Ken เขียนแคปชั่นไว้ใต้คลิป TikTok ของเธอ
เมื่อคนเริ่มหมดศรัทธาใน AI ตลาดแรงงานก็เริ่มสั่นคลอน
วิดีโอของ Ken กลายเป็นกระแสใน TikTok ทันที มีผู้ใช้หลายคนเข้ามาแชร์ประสบการณ์คล้ายๆ กันจากการถูกเรียกสัมภาษณ์ผ่านระบบ AI เป็นต้นว่า.. “ฉันเคยถูกส่งไปสัมภาษณ์งานฝ่าย HR โดยพบว่าฉันถูกสัมภาษณ์โดย AI ..แค่ชื่อก็บอกแล้วว่า HUMAN resources แล้วจะไม่มีคนมาสัมภาษณ์ฉันจริงๆ ได้ยังไง?” หนึ่งในคอมเมนต์ระบาย
อีกคนเสริมว่า “วันนี้ฉันสมัครงานและต้องโดน AI มาสัมภาษณ์ฉันแทนที่จะเป็นคนจริงๆ ฉันปิดแท็บหนีทันที เพราะถ้าบริษัทไม่ลงทุนเวลาในการสัมภาษณ์ฉัน ฉันก็ไม่เสียเวลาทำงานให้บริษัทนั้นหรอก”
ประเด็นเรื่อง AI เข้ามาแทนที่คนในการทำงานไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เริ่มส่งผลกระทบต่อทัศนคติของผู้สมัครงาน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
จากรายงานของ Indeed และ Monster ระบุว่า 49% ของคนเจน Z เชื่อว่าปริญญาที่เรียนมาไม่ค่อยมีความหมายอีกต่อไป เพราะ AI อย่าง ChatGPT เริ่มแย่งงานไปแล้ว ขณะที่ 44% ของเด็กจบใหม่รุ่น Gen Z บอกว่า ถ้าในการสัมภาษณ์ไม่พูดถึงช่วงเงินเดือน พวกเขาก็พร้อมจะหนีหน้า (ghost) บริษัทนั้นๆ กลับไปเช่นกัน
ส่วนคนรุ่นมิลเลนเนียล 34% และเบบี้บูมเมอร์ 20% ก็เริ่มรู้สึกว่าการศึกษาของตัวเองกำลังหมดความหมายในตลาดแรงงานเช่นกัน ท้ายที่สุด Ken พูดชัดเจนว่า “ถ้าบริษัทไหนยังมีขั้นตอนการสัมภาษณ์ผ่าน AI อีก เธอจะไม่ทำงานกับบริษัทนั้นเด็ดขาด”







