นั่งสมาธิ-รู้จักปฏิเสธ 2 เคล็ดลับความสำเร็จเศรษฐีคนดังระดับโลก
Tim Ferriss นักเขียนด้านชีวิตการงาน ชี้ 70-80% ของคนประสบความสำเร็จระดับโลก ต่างมีแนวปฏิบัติเหมือนกัน 2 ข้อคือ ทำสมาธิ และ รู้จักปฏิเสธสิ่งรบกวน ช่วยให้โฟกัสได้ดีขึ้น
KEY
POINTS
- ผู้ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ ฝึกสมาธิเป็นประจำ ผู้เชี่ยวชาญเผย 70-80% ของคนดัง ซีอีโอระดับโลก ต่างก็มีหลักปฏิบัติที่ช่วยให้ใจสงบและเพิ่มโฟกัสนั่นคือ การทำสมาธิ ทั้งแบบนั่งสมาธิ การวิ่ง หรือว่ายน้ำ
- การกล้าพูดว่า “ไม่” คือ อีกหนึ่งทักษะที่คนประสบความสำเร็จใช้ปกป้องเวลาและพลังงาน ใช้ปฏิเสธสิ่งรบกวน เพื่อโฟกัสกับงานหรือเป้าหมายที่สำคัญ เช่น ใช้คำว่าขอเวลาคิดก่อน หรือปฏิเสธตรงๆ
- สองทักษะนี้ช่วยสร้าง “ขอบเขต” ในชีวิตและการทำงาน ไม่ใช่แค่เรื่องวินัย แต่เป็นการจัดลำดับความสำคัญ ทรัพยากร และความสงบภายในตัวเอง ซึ่งทุกคนสามารถฝึกได้ ไม่ใช่พรสวรรค์มาแต่เกิด
เมื่อโลกการทำงานยุคนี้เปลี่ยนไวจนวัยทำงานปรับตัวไม่ทัน จากการถูกปัญญาประดิษฐ์เข้ามาดิสรัปต์ รวมถึงเจอแรงกดดันทางเศรษฐกิจและสังคม ค่าครองชีพพุ่งสูง ตลาดงานผันผวน แม้หลายคนยังมีงานประจำทำ แต่บางครั้งก็หมดหวังในเส้นทางอาชีพ จัดการความวุ่นวายไม่ได้ และรู้สึกไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต
จะดีกว่าไหม.. ถ้ามีวิธีที่ทำให้วัยทำงานกลับมาจัดการชีวิตตนเองได้ลงล็อกกว่าเดิม จัดระเบียบชีวิตได้ดี มีความคิดเฉียบคมมากขึ้น และอาจเป็นก้าวแรกแห่งความสำเร็จ!
ทิม เฟอร์ริส (Tim Ferriss) นักเขียนชื่อดังระดับ Best Seller ซึ่งเชี่ยวชาญด้านเคล็ดลับการทำงาน มีผลงานหนังสือขายดีใน New York Times หลายเล่ม เช่น The 4-Hour Workweek: Escape 9-5, Live Anywhere, and Join the New Rich เขาเคยสัมภาษณ์คนดังและซีอีโอระดับโลกมานับร้อยคน จนค้นพบเคล็ดลับสำคัญเบื้องหลังความสำเร็จของบุคคลเหล่านั้นอยู่ 2 ประการ ซึ่งช่วยให้พวกเขาโฟกัสและบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นแนวปฏิบัติแห่งความสำเร็จที่พวกเขาต่างก็ทำเหมือนๆ กัน ตลอดชีวิตการทำงาน
ตลอดเวลากว่า 10 ปีที่ ทิม เฟอร์ริส เจ้าของพอดแคสต์ชื่อดัง The Tim Ferriss Show ที่เริ่มเผยแพร่ตั้งแต่ปี 2014 ได้พูดคุยกับมีแขกรับเชิญที่ประสบความสำเร็จสูงมากมายหลากหลายอาชีพ ทั้งผู้ประกอบการ นักลงทุน นักกีฬา ดารา และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เขาพบว่าบุคคลคนเหล่านี้ต่างก็ลงมือทำ 2 สิ่งที่คล้ายกันอย่างน่าทึ่ง นั่นคือ 1.พวกเขาฝึกสมาธิ และ 2.พวกเขารู้จักปฏิเสธอย่างชาญฉลาด
เฟอร์ริส บอกว่า 2 ทักษะดังกล่าว คือเครื่องมือที่ช่วยให้คนเหล่านั้นมี “สมาธิชัดเจน โฟกัสได้ และกำหนดขอบเขตให้ตัวเองและคนรอบตัวได้อย่างมีวินัย มันคือการปิดกั้นสิ่งรบกวน ทั้งจากภายในและภายนอก”
ทำไมสองทักษะนี้จึงสำคัญต่อความสำเร็จ และมีแนวทางการปฏิบัติอย่างไรบ้าง? มาหาคำตอบไปพร้อมกัน..
การทำสมาธิ: เครื่องมือเรียกความสงบนิ่ง และเพิ่มความชัดเจนให้จิตใจ
เฟอร์ริสประมาณการณ์ไว้ว่า ในเหล่าบรรดาบุคคลที่เขาเคยสัมภาษณ์กว่า 70-80% ต่างก็มี “แนวปฏิบัติแบบสมาธิ” ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสมาธิแบบดั้งเดิม เช่น การนั่งสมาธิ หรือการทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ให้ผลลัพธ์คล้ายกัน เช่น การออกกำลังกายเป็นจังหวะ เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ
สำหรับตัวเขาเองเขาก็เคยฝึกสมาธิแบบ Transcendental Meditation (TM) ซึ่งเป็นการนั่งเงียบๆ วันละสองครั้ง ครั้งละประมาณ 20 นาที โดยสวดมนต์ไปพร้อมกันภายในใจ เทคนิคนี้เป็นที่นิยมในหมู่คนดังหลายคน เช่น โอปราห์ วินฟรีย์, เลดี้กาก้า, แจ็ก ดอร์ซีย์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter และเรย์ ดาลิโอ มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทกองทุนเฮดจ์ฟันด์ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ
ขณะที่ บิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft ก็เป็นอีกคนที่หันมาสนใจการทำสมาธิหลังอายุ 60 ปี หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาไม่ค่อยเชื่อกิจกรรมทำนองนี้เท่าไรนัก แต่ต่อมาเขาก็เปิดใจลองทำมันอย่างสม่ำเสมอ และยอมรับว่ามันให้ประโยชน์จริงๆ โดยเขาเขียนในบล็อกส่วนตัวปี 2018 ไว้ว่า การทำสมาธิสั้นๆ วันละ 10 นาที 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ช่วยเพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพในการคิดได้อย่างชัดเจน
สำหรับใครที่ไม่ถนัดการทำสมาธิด้วยการนั่งนิ่งๆ เฟอร์ริสแนะนำว่า ให้เปลี่ยนไปลองทำกิจกรรมอื่นที่มีจังหวะสม่ำเสมอ เช่น วิ่งหรือว่ายน้ำ ก็สามารถทำหน้าที่ได้เหมือนการนั่งสมาธิเช่นกัน เพราะช่วยให้ใจนิ่งและโฟกัสอยู่กับปัจจุบันขณะได้เหมือนกัน
“มันอาจเป็นการว่ายน้ำ วิ่ง หรืออะไรก็ได้ที่มีจังหวะเป็นธรรมชาติ” เฟอร์ริส อธิบาย
กล้าปฏิเสธสิ่งรบกวนที่ไม่จำเป็น: ทักษะจำเป็นในยุคของข้อมูลล้นหลาม
เฟอร์ริสบอกอีกว่า คนดังหรือซีอีโอที่เขาสัมภาษณ์ส่วนใหญ่ มักจะเป็น “คนที่กล้าพูดว่า ‘ไม่’ ได้เก่งมาก” ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นอย่างยิ่งในโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งรบกวน ทั้งจากคน อุปกรณ์ และสื่อสังคมโซเชียล
เขายกตัวอย่างคำพูดของ “สตีฟ จ็อบส์” ที่เคยกล่าวว่า สิ่งที่เขาภูมิใจคือการกล้าปฏิเสธแนวคิดหลายอย่าง เพื่อโฟกัสแค่สิ่งที่ดีที่สุด นี่ตอกย้ำให้เห็นว่า “การโฟกัส คือการกล้าพูดว่า ไม่ คุณต้องพูด ‘ไม่ ไม่ ไม่’ และแน่นอนว่าบางครั้งมันก็ทำให้คนอื่นไม่พอใจ” จ็อบส์กล่าวในงาน WWDC ปี 1997
เฟอร์ริสเสริมว่า การรู้จักจัดเวลาหรือจัดพื้นที่ให้โฟกัสกับงานได้เต็มที่ แบบไม่ถูกรบกวน เป็นสิ่งที่คนประสบความสำเร็จทำเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการปิดโซเชียล หลีกเลี่ยงการประชุมที่ไม่จำเป็น หรือแม้แต่สร้างพื้นที่ทำงานส่วนตัว
บางครั้งการปฏิเสธอาจไม่จำเป็นต้องห้วนหรือหักหาญน้ำใจ อาจใช้คำพูดที่นิ่มนวลมากขึ้นได้ เช่น การพูดว่า “ขอเวลาหนึ่งวันแล้วค่อยตอบกลับได้ไหม” หรือถ้าจำเป็นก็บอกไปตรงๆ ได้ว่า “ขอโทษนะ ฉันต้องปฏิเสธข้อเสนอนี้ หรือสิ่งที่เอ่ยมานี้” ดังที่ผู้เชี่ยวชาญด้านประสิทธิภาพการทำงานอย่าง จูเลียต ฟันต์ เคยแนะนำไว้
ในทำนองเดียวกัน วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนระดับตำนาน ก็เคยกล่าวไว้ชัดว่า “ความต่างระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จแบบทั่วๆ ไป กับคนที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก คือ คนกลุ่มหลังจะพูดว่า ‘ไม่’ แทบจะกับทุกอย่าง” ที่รบกวนเป้าหมายของพวกเขา
ดังนั้น หากวัยทำงานกำลังรู้สึกว่าตัวเองตกหลุมความวุ่นวาย หรือเผชิญกับความยุ่งเหยิงในชีวิต แล้วอยากฟื้นตัวเองกลับมาเป็นคนที่บริหารเวลาได้ดี โฟกัสกับสิ่งสำคัญในชีวิตไดเ้ และเติบโตอย่างมีคุณภาพ น่าลองใช้เคล็ดลับการฝึกสมาธิ และกล้าปฏิเสธในจังหวะที่เหมาะสม นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดของคุณก็เป็นได้
อ้างอิง: CNBC, Tim Ferriss