คนรุ่นใหม่แห่เข้า คลับวิ่ง - คลับหนังสือ หาคู่แบบไม่ต้องปัดจอ

เคยคุยกับใครในแอปหาคู่แล้วเขาหายเงียบไหม? คนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยกำลังรู้สึกเหมือนกัน จนหลายคนตัดสินใจ เลิกใช้ “แอปหาคู่” แล้วออกไปใช้ชีวิตจริงมากขึ้น

บางคน เริ่มจากการอยากออกกำลังกาย ส่วนบางคน ก็แค่อยากอ่านหนังสือกับคนที่ชอบแนวเดียวกัน แต่กลับกลายเป็นว่า ได้มาเจอคนรู้ใจแบบไม่ต้องพยายามเยอะเลย
ทำให้เกิดเป็นเทรนด์ใหม่ของการหาคู่ในหลายเมืองทั่วโลก

กรุงเทพธุรกิจ ชวนคุณเปิดโลกไปรู้จักกับ “คลับหาคู่ยุคใหม่” ที่กำลังมาแรง แซงหน้าทินเดอร์!

เข้าชมรมหนังสือ = มีโอกาสเจอคนที่ใช่

ข้อมูลจาก Eventbrite ระบุว่า การจัดกิจกรรม “ชมรมหนังสือ” เพิ่มขึ้นถึง 24% ในปี 2023

ขณะที่แพลตฟอร์ม Meetup ก็เผยว่า มีการสร้าง “กลุ่มอ่านหนังสือ” เพิ่มขึ้นถึง 10% ในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2022

ชมรมหนังสือเหล่านี้ ไม่ได้ให้ผู้คนแค่มานั่งจิบชาและอ่านหนังสือในห้องเงียบๆเหมือนห้องสมุด แต่เริ่มจัดตามคาเฟ่ ร้านไวน์ ไปจนถึง ร่วมกับกิจกรรมอื่นๆ เช่น “Read & Run” หรือ วิ่งเสร็จแล้วมานั่งอ่านด้วยกันต่อ

ยิ่งไปกว่านั้น “ชมรมเฉพาะทาง” ก็มาแรงมาก เช่น

• ชมรมหนังสือกลุ่ม LGBTQ+ ที่มีอัตราการเข้าร่วมเพิ่มขึ้น 82%
• Silent Book Club ที่พบปะเพื่อ “นั่งอ่านเงียบๆ ด้วยกัน” ก็โตขึ้น 23%

รายงานจาก Talker Research เผยว่า 23% ของสมาชิกชมรมหนังสือในสหรัฐฯ ยอมรับว่า พวกเขาเริ่มรู้สึก “มีใจ” ให้ใครบางคนในกลุ่ม ซึ่งหมายความได้ว่า คลับหนังสือกำลังเป็นพื้นที่ความรักใหม่ของยุคนี้

เดตผ่านการ “วิ่ง” กำลังเป็นสิ่งที่คนโสดในเมืองใหญ่นิยมที่สุด

ลบแอปหาคู่ไปได้เลย เพราะในนิวยอร์กตอนนี้ คลับวิ่ง ได้กลายเป็นแหล่งรวมคนโสดที่น่าสนใจกว่ามาก โดยเฉพาะในกลุ่ม Millennials อย่างเช่น Lunge Run Club ที่เปิดตัวเมื่อกลางปี 2024 ซึ่งมียอดผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน/สัปดาห์

และมีการกำหนด dress code ว่า “ถ้าโสด ให้ใส่ชุดดำ” หลังวิ่ง ถ้ารู้สึกถูกชะตากับใครก็ชวนกันไปแฮงเอาท์ต่อ ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยที่เริ่มจากการเป็น “เพื่อนร่วมวิ่ง” แล้วกลายมาเป็น “แฟน” กันอย่างจริงจัง บางคนถึงกับได้แต่งงานกันเลย

เดวิด ซิก (David Siik) ผู้ก่อตั้ง Precision Run Club ของ Equinox ฟิตเนสและคลับสุขภาพสุดหรูสัญชาติอเมริกัน กล่าวว่า “ปี 2025 – 2026 จะเป็นยุคที่การวิ่งกลับมาฮิตที่สุด นับตั้งแต่ยุค 70 เพราะคนเริ่มรู้แล้วว่า แค่ฟิตอย่างเดียวไม่พอ ต้องฟิตไปพร้อมความสัมพันธ์ที่ดี”

และยังมีหลักฐานจากสถิติอีกว่า การออกกำลังกายร่วมกันจะช่วยกระตุ้น “ฮอร์โมนแห่งความผูกพัน” ทำให้คนที่ออกกำลังด้วยกัน มีแนวโน้มจะรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้นโดยธรรมชาติ

แม้แต่โค้ช Nike ก็ยืนยันว่า “เวลาวิ่งเคียงข้างใครสักคน มันคือความเปราะบางอย่างหนึ่งที่เปิดเผยออกมาได้โดยไม่ต้องพูดอะไรมาก” และความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจากตรงนั้น ก็มีทั้งเพื่อน รัก และครอบครัว

ฟิตเนส = ฟิตใจ

Equinox ถึงกับเปิดแคมเปญ “We Met at Equinox” ให้สมาชิกมาเล่าเรื่องราวความรักที่เริ่มต้นจากการเจอกันในยิม ซึ่งมีทั้ง คู่รัก เพื่อนสนิท ไปจนถึงคนที่กลายเป็นหุ้นส่วนธุรกิจร่วมกัน

ฟิตเนสยุคนี้ จึงไม่ได้มีไว้เพื่อไปยกเวทและคาร์ดิโอเท่านั้น แต่ได้กลายมาเป็นพื้นที่ทางสังคมที่ใครๆ ก็อยากเข้าร่วม

เหตุผลที่ทำให้คลับต่างๆเฟื่องฟู:

• คนเบื่อการเข้าสังคมผ่านแอป
• ต้องการความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพและมีสุขภาพที่ดี
• ได้ปลดปล่อยอารมณ์ ความเหงา และสร้าง connection จริง

คนรุ่นใหม่เริ่ม “ออฟไลน์” เพราะโหยหาความเป็นมนุษย์

จากรายงาน McCrindle พบว่า:

• 82% ของคนรุ่นใหม่รู้ตัวว่า ใช้เทคโนโลยีมากเกินไป
• 74% อยากลดการใช้โซเชียลมีเดีย
• 58% มองว่า “ความเหงา” คือปัญหาใหญ่ของชีวิตในตอนนี้

แนวโน้มนี้ไม่ใช่แค่ในสหรัฐอเมริกา แต่ในออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ ก็เริ่มเห็นการรวมตัวของคนที่อยาก "ใช้ชีวิตร่วมกัน" มากกว่านั่งอยู่หน้าจอมือถือ

แม้ Gen Z จะเป็นเจนแรก ที่เติบโตมากับโลกออนไลน์ แต่วันนี้พวกเขากลับเริ่มตั้งคำถามกับชีวิตบนหน้าจอ และหันกลับมาค้นหาความสัมพันธ์ที่จับต้องได้ในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่ง “การเข้าคลับ” ได้กลายมาเป็นหนึ่งในคำตอบที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

คลับยุคใหม่ จึงไม่ใช่แค่ที่สำหรับทำกิจกรรม แต่กลายเป็น “พื้นที่ปลอดภัย” ให้คนได้รู้จักกันแบบที่แท้จริง

เพราะบางครั้ง ความรักอาจไม่ได้เริ่มจากการปัดขวา แต่อาจเริ่มตอนที่คุณวิ่งข้างๆ ใครสักคน หรือเงยหน้าจากหนังสือ แล้วเจอรอยยิ้มจากอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะก็ได้

 

อ้างอิง theguardian ,  harpersbazaar , yr.media