AI อาจทำคนตกงานพุ่ง 20% ใน 5 ปี! งานออฟฟิศระดับเริ่มต้นโดนก่อน
ซีอีโอผู้พัฒนา “Claude” เตือน AI จุดชนวนสงครามแย่งงาน งานออฟฟิศระดับเริ่มต้นอาจหายไปครึ่งหนึ่ง โดยเฉพาะสายงานเทคฯ การเงิน กฎหมาย การว่างงานระลอกใหญ่อาจใกล้เข้ามา
KEY
POINTS
- ซีอีโอบริษัท Anthropic ผู้พัฒนา AI “Claude” คาดว่า AI อาจแทนที่ครึ่งหนึ่งของงานออฟฟิศระดับเริ่มต้น ในสายเทคโนโลยี การเงิน และกฎหมาย ภายใน 1-5 ปีข้างหน้า
- อัตราการว่างงานในสหรัฐ อาจพุ่งแตะ 20% แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะเติบโตและเกิดนวัตกรรมใหญ่ เช่น ยารักษามะเร็ง
- ผู้นำเทคโนโลยีหลายรายเห็นตรงกันว่า “แรงงานสายความรู้” จะได้รับผลกระทบหนัก จากการมาถึงของ AI ระดับ AGI ที่ทำงานได้เทียบเท่ามนุษย์
เมื่อเร็วๆ นี้ มีข้อมูลน่าตกใจจากปากผู้เชี่ยวชาญสายเทคโนโลยีบอกว่า AI ไม่ได้แค่จะเข้ามาช่วยงานมนุษย์ แต่ในบางสายงาน มันอาจเขย่าตลาดแรงงานจนทำให้คนตกงานพุ่งถึง 20% โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานออฟฟิศ (White Collar) ระดับเริ่มต้น คาดการณ์ว่าจะถูก AI เข้ามาแทนที่ตำแหน่งงานมากถึงครึ่งหนึ่ง
เรื่องนี้เปิดเผยโดย ดาริโอ อโมเดอี (Dario Amodei) ซีอีโอของ Anthropic บริษัทผู้พัฒนา AI "Claude" ออกโรงเตือนว่า ปัญญาประดิษฐ์อาจทำให้ตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นในสายอาชีพออฟฟิศหายไปถึงครึ่งหนึ่ง และอัตราการว่างงานในสหรัฐอเมริกาอาจพุ่งสูงถึง 20% ภายในเวลาไม่เกิน 5 ปี
“ผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้เลยว่าเรื่องนี้กำลังจะเกิดขึ้น” ซีอีโอ สายเทคฯ ให้สัมภาษณ์กับ Axios “มันฟังดูเหลือเชื่อจนหลายคนไม่อยากเชื่อ”
เทคโนโลยีก้าวกระโดด… แต่ตำแหน่งงานของคนอาจหายไปด้วย?
ไม่เพียงเท่านั้น เขาเรียกร้องให้ผู้บริหารองค์กร และนักการเมือง “เลิกพูดแบบโลกสวย” และควรบอกความจริงกับคนวัยทำงานถึงผลกระทบที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะในสายงานอย่างเทคโนโลยี การเงิน และกฎหมาย ซึ่งเสี่ยงโดน AI แย่งงานก่อนใคร
อโมเดอี มองว่า อีกไม่กี่ปีข้างหน้า AI จะสร้างประโยชน์มหาศาล เช่น พัฒนายารักษามะเร็งสำเร็จ เศรษฐกิจโตปีละ 10% และรัฐบาลมีงบสมดุล แต่ขณะเดียวกัน 20% ของคนอเมริกันอาจไม่มีงานทำ ในปัจจุบัน อัตราว่างงานของสหรัฐอยู่ที่ประมาณ 4.2% เท่านั้น
นั่นหมายความว่าหากคำเตือนนี้เป็นจริง ตลาดแรงงานจะได้รับแรงกระแทกมหาศาลในเวลาอันสั้น
ผู้นำวงการเทคโนโลยีหลายคนเห็นตรงกัน
ซีอีโอ Anthropic ไม่ใช่คนเดียวที่ออกมาเตือนถึงภัยคุกคามจาก AI ต่อแรงงาน แต่ยังมีผู้บริหารสายเทคโนโลยีอีกหลายคนก็แสดงความกังวลในทิศทางเดียวกัน โดยทางด้านของผู้บริหารชื่อดัง มาร์ก ซักเคอเบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอ Meta เคยบอกว่า “ในปี 2025 AI น่าจะกลายเป็นเหมือนวิศวกรระดับกลางในองค์กร ที่สามารถเขียนโค้ดแทนมนุษย์ได้”
ขณะที่ ซุนดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) ซีอีโอ Google ก็เคยออกปากว่า “แรงงานสายความรู้” อย่างนักเขียน นักบัญชี สถาปนิก และวิศวกรซอฟต์แวร์ จะได้รับผลกระทบจาก AI โดยตรงก่อนใครเพื่อน
ขณะเดียวกัน Anthropic ก็ยังคงแข่งกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Meta และ OpenAI ในการพัฒนา AI ที่มีศักยภาพเทียบเท่ามนุษย์ (AGI – Artificial General Intelligence)
สำหรับ อโมเดอี ซึ่งเคยทำงานที่ OpenAI มาก่อนจะมาก่อตั้ง Anthropic เอง ย้ำว่าแม้ AI จะสร้างประโยชน์ในระดับสังคม แต่ถ้าไม่วางแผนรับมือให้ดี ตอนจบอาจไม่สวยสำหรับแรงงานจำนวนมาก
อ้างอิง: New York post
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์