3 วิธีเร่งความก้าวหน้าในอาชีพ 'วางเส้นทาง แสดงผลงาน เอ่ยปากขอ'

ส่วนใหญ่วัยทำงานที่ทำงานในระดับปฏิบัติการมานานหลายปี และรู้สึกว่าตนเองทำงานได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่องมาโดยตลอด แต่บางครั้งก็สงสัยว่าทำไมยังไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งสักที? หรือบางคนทำงานโดยมีเป้าหมายมุ่งสู่ตำแหน่งผู้นำหรือหัวหน้าทีม และมั่นใจว่าตนเองสามารถไปถึงจุดนั้นได้ แต่กลับไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร แต่รู้หรือไม่? การทำงาน (ของตัวเอง) เก่งเพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้คุณก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นในสายงาน 

ก่อนจะเดินไปคุยกับหัวหน้าเกี่ยวกับโอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง คุณควรเริ่มต้นด้วยการประเมินผลกระทบเชิงบวกที่ตนเองสร้างให้ทีมก่อน เช่น
- คุณได้สร้างผลงานที่โดดเด่นอะไรให้ทีมบ้าง?
- คุณเป็นผู้ทำยอดขายสูงสุดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาหรือไม่?
- คุณมีส่วนช่วยฝึกอบรมพนักงานใหม่หรือไม่?
- คุณช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงานของทีมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่?

ไม่ว่าคุณจะมีบทบาทที่ช่วยให้ทีมพัฒนาดีขึ้นในมุมไหนก็ตาม ให้จดบันทึกและสรุปผลงานที่คุณได้ทำไว้ให้ชัดเจน เพื่อที่เมื่อถึงเวลาคุยกับหัวหน้าเรื่องโอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ คุณจะสามารถแสดงหลักฐานสนับสนุนได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ "โช เดวาน" (Sho Dewan) โค้ชผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพการงาน ผู้ซึ่งเป็นซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท  Workhap ได้ให้คำแนะนำในการเติบโตก้าวหน้าในสายงานได้เร็วขึ้น 3 ข้อ ดังนี้

วางแผนร่วมกับหัวหน้างาน สร้างเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพในตำแหน่งที่สูงขึ้น

หลายคนเชื่อว่าผลงานที่ดีจะพูดแทนตัวเราเอง แต่ในความเป็นจริงแล้ว การก้มหน้าก้มตาทำงานโดยไม่มีทิศทางอาจทำให้คุณพลาดโอกาสสำคัญได้ แต่หากอยากเลื่อนตำแหน่งสิ่งที่ควรทำจริงๆ ก็คือ การพูดคุยกับหัวหน้าของคุณเพื่อวางแผนเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ

ลองขอคำแนะนำจากหัวหน้าเกี่ยวกับโอกาสในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น รวมถึงทักษะหรือใบรับรองที่จำเป็น นอกจากนี้ ควรขอความคิดเห็นเกี่ยวกับจุดที่คุณควรพัฒนาเพิ่มเติม เพื่อให้คุณสามารถปรับปรุงและมุ่งไปสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้น กำหนดแผนงานที่ชัดเจนสำหรับช่วง 3-12 เดือนข้างหน้า เช่น

ภายใน 3 เดือน: คุณควรสามารถนำประชุมหรือให้คำแนะนำสมาชิกใหม่ได้

ภายใน 6 เดือน: คุณควรผ่านการอบรมที่เกี่ยวข้องหรือบริหารโครงการขนาดใหญ่

ภายใน 9 เดือน: คุณควรเป็นผู้นำโครงการที่ต้องทำงานร่วมกันหลายฝ่าย หรือริเริ่มปรับปรุงกระบวนการทำงานของทีม

ภายใน 12 เดือน: คุณควรมีผลงานที่ชัดเจนซึ่งแสดงให้เห็นว่าคุณพร้อมสำหรับการเลื่อนตำแหน่ง

จากนั้นให้ติดตามความก้าวหน้าของตัวเองและปรับแผนตามความจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง

แสดงศักยภาพของผู้นำ แม้ยังไม่ได้รับตำแหน่ง

ถึงแม้ว่าคุณยังไม่ได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่คุณสามารถแสดงให้ทุกคนเห็นว่าคุณมีความสามารถและความพร้อมในการเป็นผู้นำได้ ลงมือทำเลยโดยไม่ต้องลังเล

ตัวอย่างเช่น หากทีมของคุณต้องเผชิญกับโครงการที่มีแรงกดดันสูง และต้องทำให้เสร็จภายในเวลาจำกัด คุณสามารถเป็นคนที่ช่วยกระตุ้นขวัญกำลังใจของทีม ชื่นชมความพยายามของเพื่อนร่วมงาน และเสนอให้แบ่งงานออกเป็นส่วนย่อย ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ

การพูดและสื่อสารกับทีมด้วยความมั่นใจจะช่วยให้คุณสร้างอิทธิพลและได้รับความไว้วางใจมากขึ้น และอย่าลืมที่จะอธิบายเหตุผลว่าทำไมแนวทางของคุณถึงมีประสิทธิภาพ และพยายามทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จักในองค์กรมากขึ้น เช่น เป็นผู้นำในกิจกรรมเวิร์กช็อป หรือเป็นตัวแทนทีมในการประชุมข้ามแผนก เป็นต้น

นอกจากนี้ หากเห็นว่าเพื่อนร่วมงานของคุณกำลังประสบปัญหาในการทำงาน ลองแบ่งปันแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์ ให้คำแนะนำ หรือถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของพวกเขา การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นว่าคุณใส่ใจในความสำเร็จของคนอื่น แต่ยังช่วยเน้นย้ำว่าคุณมีทักษะความเป็นผู้นำที่องค์กรต้องการ และเมื่อตำแหน่งที่เหมาะสมเปิดขึ้น คุณจะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน

กล้าขอ! ไม่ต้องเขิน บอกหัวหน้าให้ชัดเจนว่าคุณต้องการเลื่อนตำแหน่ง

มีคำกล่าวว่า "คนที่ไม่เอ่ยปากขอ ย่อมไม่ได้รับ" ซึ่งใช้ได้กับเรื่องการทำงานเช่นกัน คุณไม่สามารถคาดหวังให้หัวหน้ารู้เป้าหมายของคุณได้เองโดยอัตโนมัติ ถ้าคุณต้องการเลื่อนตำแหน่ง คุณต้องพูดมันออกมา!

หากคุณมีโอกาสประชุมแบบตัวต่อตัวกับหัวหน้า ลองใช้โอกาสนี้เพื่อบอกอย่างชัดเจน เช่น "ผม/ดิฉัน สนใจที่จะรับบทบาทผู้นำ มีอะไรที่ผม/ดิฉัน ควรทำเพื่อให้ไปถึงจุดนั้นบ้าง?" คำถามนี้แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นและความพร้อมในการพัฒนาตัวเอง

แต่ถ้าคุณไม่มีโอกาสพูดคุยกับหัวหน้าเป็นประจำ ลองหาจังหวะที่เหมาะสม เช่น หลังจากที่คุณเพิ่งทำโครงการสำคัญสำเร็จ คุณอาจพูดว่า "ผม/ดิฉัน สนุกกับการทำโปรเจ็กต์นี้มาก และยินดีรับผิดชอบมากขึ้น ผม/ดิฉัน ควรเตรียมตัวอย่างไรเพื่อให้ได้รับการพิจารณาสำหรับตำแหน่งที่สูงขึ้น?" เป็นต้น

ท้ายที่สุดแล้ว ความเติบโตก้าวหน้าในอาชีพเป็นส่ิงที่คุณต้องสร้างมันเองกับมือ อย่ารอคอยมันจากคนอื่น เพราะการรอให้ได้เลื่อนตำแหน่งโดยไม่ลงมือทำอะไร (หวังให้คนอื่นเสนอให้เอง) ในหลายกรณีก็อาจไม่ได้ผล และยิ่งทำให้รู้สึกแย่ลงด้วยซ้ำ อย่าลืมว่า คุณต้องเป็นฝ่ายกำหนดเส้นทางความสำเร็จของตัวเอง ถ้าอยากให้การเลื่อนตำแหน่งกลายเป็นความจริง ลองใช้เคล็ดลับทั้งสามข้อข้างต้น แล้วเดินหน้าคว้าโอกาสนั้นมาให้ได้!

 

อ้างอิง: Forbes