เขียนบันทึกแบบ ‘Journal’ เทรนด์มาแรง ใน Gen Z ทำแล้วช่วยฮีลใจ

เขียนบันทึกแบบ ‘Journal’ เทรนด์มาแรง ใน Gen Z ทำแล้วช่วยฮีลใจ

กำลังเป็นกระแสแรงใน Gen Z กับ แฮชแท็ก journaling ideas บนโลกโซเซียล เทรนด์การเขียนบันทึก แบบ journal ได้กลายมาเป็นวิธีที่ว่ากันว่า ช่วยสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของตัวเองที่ง่ายที่สุด ที่แม้แต่ Apple ยังต้องทำ แอปพลิเคชัน Journal ออกมากับเขาด้วย

แล้วเขียนบันทึกแบบ Journal ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นจริงไหม?

คำตอบจากงานวิจัยโดย มหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ รัฐนิวยอร์ค เผยว่า การจดบันทึก จะสามารถช่วยจัดการกับความเครียด ลดความวิตกกังวล และรับมือกับภาวะซึมเศร้าได้ นอกจากนี้ ยังสามารถปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับและอารมณ์ เสริมสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น และยังลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกายจากความเครียดได้อีกด้วย

การเขียนบันทึกคืออะไร ต่างจากไดอารีอย่างไร แล้วจะเริ่มเขียนอย่างไรดี กรุงเทพธุรกิจ มีทริคดีๆมาแนะนำ

เขียนบันทึกแบบ ‘Journal’ เทรนด์มาแรง ใน Gen Z ทำแล้วช่วยฮีลใจ

การเขียนบันทึกคืออะไร

เคมบริดจ์ ดิกชันนารี ได้อธิบายความหมายของการ เขียนบันทึก ไว้ว่า เป็นการเขียนสิ่งที่เราทำในแต่ละวัน รวมถึงความคิด ความรู้สึก และเป้าหมายส่วนตัว

การเขียนบันทึก เป็นกิจกรรมพัฒนาตนเองที่ทำได้ง่าย และเข้าถึงได้ทุกคน โดยที่เราไม่จำเป็นต้องมีความสามารถพิเศษ ไม่มีกฎเกณฑ์ และไม่แพงด้วย เพราะมีเพียงแค่ สมุดและปากกา คุณสามารถเริ่มเขียนบันทึกได้

Journal กับ Diary ต่างกันอย่างไร

การเขียนไดอารีเปรียบเสมือนเพื่อนคู่ใจที่คอยบันทึกเรื่องราวต่างๆที่ผู้เขียนได้ประสบพบเจอในชีวิตประจำวัน

ในขณะที่ การเขียนบันทึก หรือ Journal เป็นพื้นที่ที่กว้างขวางและหลากหลายกว่า เป็นพื้นที่ ที่พร้อมรองรับการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกที่หลากหลายของผู้เขียน

เขียนบันทึกแบบ ‘Journal’ เทรนด์มาแรง ใน Gen Z ทำแล้วช่วยฮีลใจ

ประโยชน์ของการเขียนบันทึก

1. ช่วยให้เข้าใจความคิดและความรู้สึกของตัวเอง

เวลาที่มีอารมณ์โกรธ เศร้า หรือสุข การที่เราได้เขียนสิ่งที่เราคิดอยู่ในหัวมากมายออกมาเป็นรูปธรรม จะช่วยให้เราสามารถระบายทุกอย่างออกมาโดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาตัดสิน แล้วยังช่วยให้เราไตร่ตรอง และเข้าถึงสาเหตุของความรู้สึกเหล่านั้นอย่างชัดเจนได้

2. ช่วยลดอาการซึมเศร้า วิตกกงวล

แม้ว่าการเขียนบันทึกไม่อาจสามารถกำจัดความคิดที่รบกวนจิตใจของเราได้ แต่จากการวิจัยพบว่า การเขียนบันทึก สามารถช่วยให้เราละทิ้งความคิดเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นจากการเขียนระบายความรู้สึก ลงไปในสมุด หลังจากที่เราได้เขียนความรู้สึกของตัวเองลงไป แล้ว​​อ่านทบทวนสิ่งที่เราเขียน เราจะเริ่มเห็นภาพและ เข้าใจที่มาของความคิดความรู้สึกของเราได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

3. ช่วยสร้างพลังบวก

การเขียนถึงความรู้สึกดีๆเป็นอย่างแรกในตอนเช้า จะช่วยเสริมสร้างพลังบวกให้เราไปตลอดทั้งวัน และยังช่วยฝึกให้เรามีความสุขกับสิ่งเล็กๆในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้นด้วย

เขียนบันทึกแบบ ‘Journal’ เทรนด์มาแรง ใน Gen Z ทำแล้วช่วยฮีลใจ

เริ่มเขียนบันทึกอย่างไรได้บ้าง

เขียนบันทึกตอนเช้า: การเขียนบันทึกทันทีที่ตื่นนอนในแต่ละวันจะช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ และตั้งสติให้ตัวเองก่อนออกไปทำงานได้ เช่น เป้าหมายหรือสิ่งที่อยากทำในวันนั้นๆ

เขียนบันทึกถึงสิ่งที่เรารู้สึกดีและซาบซึ้ง: การเขียนแบบนี้จะช่วยฝึกให้เรามีความสุขเล็กๆในทุกวัน ซึ่งจะส่งผลดีอย่างยิ่งต่อมุมมองความคิด และลดความเครียดได้ด้วย เช่น สิ่งที่ทำให้ยิ้มได้ หรือ วันนี้เรามีความสุขกับอะไร

เขียนบันทึกก่อนนอน: การเขียนความรู้สึกต่อสิ่งที่เกิดขึ้นมาตลอดทั้งวันก่อนนอน จะช่วยให้เราได้ระบาย และไตร่ตรองความรู้สึกนึกคิดได้ และยังช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้นด้วย เช่น เขียนถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นในวันนี้ หรือ สิ่งที่เราอยากจะปรับปรุงแก้ไข

การเริ่มเขียนบันทึกเป็นเรื่องง่าย ที่ทุกคนสามารถเริ่มทำได้ แต่การฝึกเขียนเป็นประจำทุกวันให้เป็นกิจวัตรนั้น ต้องอาศัยวินัยในตนเอง

หากสามารถเขียนได้ทุกวัน และใช้สมุดบันทึกนี้เป็นเครื่องมือในการค้นพบตัวเอง จัดระเบียบความคิด และ คลายความกังวล

คุณจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดี ที่จะแสดงออกมาทั้งในด้าน ชีวิตส่วนตัวและอาชีพด้วย

 

อ้างอิง Cambridge , Forbes , Betterup , News18