ส่องโปรแกรมฟุตบอลทีมชาติไทย ยุคใหม่ 'มาซาทาดะ อิชิอิ' กับบททดสอบสุดหิน

ส่องโปรแกรมฟุตบอลทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือคนใหม่ชาวญี่ปุ่น หลังจากที่ผู้จัดการทีมช้างศึก มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ประกาศแต่งตั้งโดยรายละเอียดสัญญาการคุมทีมนั้นยังไม่มการเปิดเผยแต่อย่างใด แต่ยืนยันว่า อิชิอิ จะมาพร้อมกับทีมงานสตาฟฟ์โค้ชส่วนตัวเข้ามาทำหน้าที่แทน มาโน โพลกิ้งก่อนถึง เอเชียนคัพ รอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์ในเดือนมกราคม 2567 และฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ที่เหลืออีก 4 นัด 

โปรแกรมการแข่งขันของ ช้างศึก ทีมชาติไทย ยุคมาซาทาดะ อิชิอิ นัดแรกจะเป็นโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ เกมอุ่นเครื่องซึ่ง อิชิอิ จะนำ ทีมชาติไทย เยือนบ้านเกิดพบ ทีมชาติญี่ปุ่น ที่สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นในวันขึ้นปีใหม่ วันที่ 1 มกราคม 2567 นี้ เพื่อเตรียมทีมในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับทวีปอย่าง ฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์

นอกจากนั้นแล้ว หลังเกมอุ่นเครื่องทีมชาติไทย เยือน ญี่ปุ่น ก็จะเข้าสู่ การแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 มกราคม - 10 กุมภาพันธ์ 2567  โดย ทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่ม F ร่วมกับ ซาอุดีอาระเบีย, คีร์กีซสถาน และ โอมาน

โปรแกรมทีมชาติไทยในการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 รอบสุดท้าย

• 16 มกราคม 2567 เวลา 21.30 น. ทีมชาติไทย พบ คีร์กีซสถาน ที่สนามอับดุลดาห์ บิน คอลิฟา สเตเดี้ยม
• 21 มกราคม 2567 เวลา 21.30 น. โอมาน พบ ทีมชาติไทย ที่สนามอับดุลดาห์ บิน คอลิฟา สเตเดี้ยม
• 25 มกราคม 2567 เวลา 22.00 น. ซาอุดีอาระเบีย พบ ทีมชาติไทย ที่สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดี้ยม

จากนั้น มาซาทาดะ อิชิอิ จะพาทีมชาติไทยลงแข่งขันในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกอีก 4 นัดที่เหลือ ประกอบด้วย 

• 21 มีนาคม 2567 เกาหลีใต้ พบ ทีมชาติไทย ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ 
• 26 มีนาคม 2567 ทีมชาติไทย พบ เกาหลีใต้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน 
• 6 มิถุนายน 2567 จีน พบ ทีมชาติไทย (สนามรอยืนยัน)
• 11 มิถุนายน 2567 ทีมชาติไทย พบ สิงคโปร์ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน 

ทำความรู้จัก มาซาทาดะ อิชิอิ 

มาซาทาดะ อิชิอิ ปัจจุบันอายุ 56 ปี กุนซือชาวญี่ปุ่น โดยเส้นทางการก้าวเข้าสู่ตำแหน่งเฮ้ดโค้ช เริ่มจากการเป็นโค้ชฟิตเนสให้กับอดีตต้นสังกัด คาชิม่า แอนท์เลอร์ส ที่เขาเคยค้าแข้งที่น่สมัยนักฟุตบอลซึ่งเขาเป็นโค้ชฟิตเนสนานกว่า 10 ปี ก่อนจะขยับขึ้นมาเป็นผู้ช่วยโค้ชในปี 2012 และก้าวขึ้นเป็นเฮ้ดโค้ชในปี 2015 และจากนั้นเขาพาทีม คาชิม่า แอนท์เลอร์ส ทวงบัลลังก์ความยิ่งใหญ่ คว้าทั้งแชมป์เจลีก รวมถึงแชมป์นาบิสโก้คัพ (ลูวานคัพในปัจจุบัน) , แชมป์เอ็มเพอเรอร์คัพ และเป็นรองแชมป์สโมสรโลกในปี 2016 ด้วย

ต่อมาในปี 2017 อิชิอิ และคาชิม่า แอนท์เลอร์ส ได้แยกทางกัน เนื่องจากไม่สามารถป้องกันแชมป์เจลีกได้ (พาทีมจบอันดับ 2 รองแชมป์เจลีก) และตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก

อิชิอิ ย้ายมาทำทีมโอมิยะ อาร์ดิย่า ในเจลีก 2 โดยสโมสรก็ตั้งเป้าหมายพาทีมเลื่อนชั้นให้ได้ในปีเดียว แต่สุดท้าย อิชิอิ ทำไม่สำเร็จ พาทีมจบอันดับ 5 และเขาจึงประกาศลาออก

เส้นทางการทำงานโค้ชในไทย

มาซาทาดะ อิชิอิ หลังออกจาก โอมิยะ อาร์ดิย่า ตอนนั้นเขาก็ออกจากวงการโค้ชไปเป็นเวลา 2 ปี โดยไปทำงานเป็นพ่อครัวจนกระทั่งปลายปี 2019 ได้มีโอกาสมาทำงานที่ประเทศไทย โดยสโมสรที่ติดต่อให้ อิชิอิ มาคุมทีมคือ สมุทรปราการ ซิตี้ ทีมเล็กๆที่ไม่ใช่ยักษ์ใหญ่อะไรในไทย ก่อนจะทำทีมยกระดับขึ้นมาจนจบหัวตาราง

ด้วยฟอร์มที่โดดเด่นสุดๆตอนนั้นทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดึงตัวเขามาเป็นกุนซือใหญ่ในป 2021 และ อิชิอิ เมื่อคุมทีมยักษ์ใหญ่ก็เสกให้ทีมปราสาทสายฟ้าคว้า 3 แชมป์ในประเทศ 2 ปีติด ซึ่งเป็นโค้ชคนแรกที่ทำได้แบบนี้ในไทย 

เดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา มาซาทาดะ อิชิอิ ตอบรับเข้ามาหน้าที่ประธานเทคนิคทีมชาติไทย ตอนนั้นมีการเปิดเผยว่าจะมีการแต่งตั้ง อิชิอิ ให้เป็นเฮ้ดโค้ชต่อจาก มาโน โพลกิ้ง หลังจบคิงส์คัพ 2023 ที่ จ.เชียงใหม่ แต่สุดท้ายมีการปรับเปลี่ยนกะทันหัน ดีลไม่เกิดขึ้น อิชิอิ เลยขอลาออกจากตำแหน่งประธานเทคนิคและกลับประเทศญี่ปุ่น กระทั่งล่าสุดเมื่อวานนี้ (22 พ.ย.66) ก็มีการประกาศยืนยันว่า อิชิอิ จะเข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ของทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการ