บอลไทย ทีมชาติไทย ฮึดสู้ไล่เจ๊า เอสโตเนีย ส่งท้ายฟีฟ่าเดย์ลุยยุโรป

ผลบอล บอลไทย ศึกฟุตบอลอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ระหว่าง เอสโตเนีย พบ ทีมชาติไทย ที่สนามอา เล ค็อก อารีน่า เกมนี้ มาโน โพลกิ้ง วาง ยศกร บูรพา เป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว และบดินทร์ ผาลา สนับสนุน ด้าน เอสโตเนีย นำทีมมาโดยเซอร์เก เซนยอฟ, เฮนริ โอจาม่า และ ราสมุส พีตสัน

เริ่มเกมมา เอสโตเนีย ได้ลุ้นก่อนสองครั้งและไทยก็ได้ตอบโต้บ้างในนาทีที่ 10 จากจังหวะยิงของ บดินทร์ ผาลา ที่ไปติดเซฟ และ ยศกร บูรพา โหม่งซ้ำหลุดกรอบออกไป หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายมีโอกาสเข้าทำสูสี แต่ก็ยังจบสกอร์กันไม่ได้ ทำให้สกอร์ยังคงอยู่ที่ 0-0

ครึ่งหลังนาทีที่ 68 พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ไหลให้ กฤษดา กาแมน วิ่งมายิงตามน้ำด้วยขวาแต่ยังติดเซฟอีก แต่ในนาทีที่ 71 มาร์ติน เวตคาล ไหลให้ เฮนริ อานิเยร์ หลุดก่อนยิงตามน้ำเข้าไปให้ เอสโตเนีย นำ ทีมชาติไทย ก่อน 1-0

นาทีที่ 75 ไทยเกือบได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ พิชา อุทรา ได้บอลหน้าเขตโทษ ก่อนยิงด้วยขวาไปติดเซฟออกหลังไป กระทั่งนาทีต่อมาไทยมาได้ประตูตีเสมอ บดินทร์ ผาลา เปิดให้ จักพัน ไพรสุวรรณ โขกเข้าไปให้สกอร์กลับมาเป็น 1-1

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติมจบเกม ทีมชาติไทย เสมอกับ เอสโตเนีย 1-1

รายชื่อ 11 ตัวจริงทีมชาติไทย : กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (GK), เอเลียส ดอเลาะ, กฤษดา กาแมน , ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว , ยศกร บูรพา, บดินทร์ ผาลา, จักพัน ไพรสุวรรณ, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล , จักรกฤษ ลาภตระกูล, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, ทริสตอง โด

หลังเกม มาโน โพลกิ้ง พอใจที่ทีมชาติไทยสู้อย่างเต็มที่จนได้ผลการแข่งขันที่น่าพอใจ วันนี้ต้องชื่นชมนักเตะทุกคน หลังจากที่เราแพ้ จอร์เจีย เราได้คุยกันว่าเราต้องการกลับมาให้ได้ ในการทำผลงานให้ดีเพื่อแฟนบอลชาวไทย มีนักเตะหน้าใหม่หลายคน ที่เข้ามาเล่นในทีมชุดนี้ ซึ่งต้องชื่นชมที่ทำให้เราภูมิใจ ในการใส่เสื้อทีมชาติไทยลงเล่น และทุกคนคงภูมิใจครั้งนี้ ทุกคนก็สู้เต็มที่ แล้วผลก็ออกมาอย่างที่เราเห็น ก็ได้ผล ดีกว่าเกมที่แล้ว แต่ก็โอเคสำหรับเกมนี้

ครึ่งแรกเราทำได้ดี เราสู้กับเอสโตเนียได้ดี แต่ครึ่งหลังเอสโตเนียเปลี่ยนนักเตะมา 3 คนก็มีความสดเข้ามา ทำให้เราเจองานที่ยากในช่วงสิบนาทีแรก เราเลยตัดสินใจเปลี่ยนนักเตะอีกสามคน เพื่อเอาความสดลงมาสู้ และกลับมาสู่เกมได้ ถือว่าทำได้สูสีในครึ่งหลัง

การที่เรามาจากสภาพอากาศที่ร้อน แล้วมาเจอ 4-5 องศาไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเกมแรก เรามีเวลาแค่วันเดียวและลงแข่งเลย และต้องเจอกับทีมที่แข็งแกร่ง ซึ่งปรับตัวยังไม่ได้ พอเรามาเกมนี้ เรามีเวลาหลายวัน ในการซ้อมปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศ นักเตะมีความเคยชินมากขึ้น ก็ต้องขอชื่นชม และดีใจกับนักเตะที่ทำผลงานได้น่าพอใจ ทุกคนสู้และทุ่มเทเกินร้อย

สำหรับโปรแกรมต่อไปของ ทีมชาติไทย จะเป็นการทำการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่ม C นัดแรกพบ จีน ที่สนามราชมังคลากีฬาสถานในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี หมายเลข 32

ภาพจาก ฟุตบอลทีมชาติไทย