'ไบเดน' เยือนโปแลนด์เดือนนี้ ครบรอบ 1 ปีสงครามรัสเซีย-ยูเครน

โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีแผนเดินทางไปเยือนโปแลนด์ ระหว่างวันที่ 20-22 ก.พ.นี้ เพื่อสนับสนุนรัฐบาลยูเครนในการสู้รบต้านทานการบุกรุกของกองทัพรัสเซีย ขณะที่สงครามการสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนจะครบ 1 ปี ในวันที่ 24 ก.พ.

แต่ยังไม่ชัดเจนว่าผู้นำสหรัฐจะเดินทางต่อไปยังยูเครน เหมือนผู้นำชาติตะวันตกหลายประเทศและสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐหลายคนหรือไม่ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐ สนับสนุนยูเครนทั้งด้านเศรษฐกิจ และด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ เป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ตลอดช่วงของการทำสงคราม

เมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไบเดน ได้ให้การต้อนรับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ที่เดินทางเยือนทำเนียบขาวเพื่อขอแรงสนับสนุนจากชาติตะวันตก ทั้งด้านการเงินและอาวุธ และผู้นำยูเครนยังเดินทางเยือนอังกฤษ ฝรั่งเศส และเบลเยียม เข้าพบหารือกับผู้นำยุโรป เพื่อขอความช่วยเหลือเครื่องบินรบในการต่อสู้กับรัสเซีย

ส่วนสถานการณ์สู้รบในตอนนี้  กองทัพรัสเซียยังคงยิงขีปนาวุธถล่มยูเครนในหลายจุด ส่งผลให้ระบบพื้นฐานสำคัญได้รับความเสียหายในหลายเมือง และเกิดไฟดับเป็นวงกว้าง โดยรัฐมนตรีกลาโหมของ อังกฤษกล่าวว่า กองทัพรัสเซียสามารถรุกคืบทางยุทธวิธีได้ ในเขตสำคัญ 2 เเห่ง คือ บักห์มุต ที่อยู่ด้านเหนือของดอนบาส และทางตะวันตกของเมืองวูห์ลีดาร์

ด้านประธานาธิบดีเซเลนสกี ของยูเครน ปิดท้ายการเยือนยุโรปด้วยการกล่าวสุนทรจพน์ต่อทีประชุมรัฐสภายุโรป และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมเมื่อวันพฤหัสบดี หลังการเยือนอังกฤษและฝรั่งเศส เพื่อโน้มน้าวให้ชาติยุโรปจัดส่งเครื่องบินขับไล่ให้ยูเครน ที่เขาย้ำว่า "จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมในสงคราม"

เขาเปิดเผยว่ามีบางชาติแสดงความพร้อมจัดส่งอาวุธจำเป็นรวมถึง เครื่องบินขับไล่ ให้ยูเครน แต่เขาไม่ระบุรายละเอียดนอกจากบอกว่าอาจเป็นการสนับสนุนอาวุธครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง ของชาติตะวันตกแก่ยูเครน

ขณะที่ยังไม่มีชาติใดออกมาให้คำมั่นชัดเจนต่อสาธารณะ ว่าจะจัดส่งเครื่องบินขับไล่หรือขีปนาวุธพิสัยไกลให้ยูเครน ท่ามกลางความวิกว่าจะทำให้การสู้รบขยายวงกว้างสู่ดินแดนของรัสเซีย