ไม่ใช่แค่ “สีเสื้อมงคล” ​​นักจิตวิทยาชี้ เสื้อผ้าบอกความรู้สึกของคนใส่ได้

ไม่ใช่แค่ “สีเสื้อมงคล” ​​นักจิตวิทยาชี้ เสื้อผ้าบอกความรู้สึกของคนใส่ได้

เจาะลึก “Enclothed cognition” พลังแห่งการเลือกแมทช์เสื้อผ้า ที่ไม่ใช่แค่การเลือก “สีเสื้อมงคล” เพื่อเพิ่มความมั่นใจ แต่ในเชิงจิตวิทยาชี้ว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างเสื้อผ้ากับความรู้สึกของผู้สวมใส่ที่น่าสนใจมากกว่านั้น

เมื่อครั้งที่ยังเป็นเด็ก เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเคยมีตุ๊กตาหมีเน่าตัวโปรด ที่ต้องพกติดตัวไปด้วยทุกที่ สาเหตุที่เราห่างจากเจ้าตุ๊กตาตัวนั้นไม่ได้ ก็เพราะว่าเรารู้สึกสบายใจและปลอดภัย หันไปเมื่อไรก็ยังเห็นตุ๊กตาหมีอยู่ใกล้ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นคงทางจิตใจให้กับเราได้

ไม่ต่างกัน.. เมื่อคนเราเติบโตขึ้นแม้ว่าจะมีวุฒิภาวะด้านอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น แต่จิตใจของคนเราก็ยังคงต้องการหาสิ่งที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ตนเองเสมอ ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ “เสื้อผ้า” ที่เราสวมใส่ในทุกๆ วัน ในแง่หนึ่งเสื้อผ้าคือปัจจัยสี่ ที่ช่วยห่อหุ้มร่างกายให้อบอุ่น แต่ขณะเดียวกันก็กลายเป็นสิ่งสะท้อนตัวตนของผู้สวมใส่ด้วย 

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชวนทำความรู้จักและเจาะลึกถึงพลังของ “Enclothed cognition” ในเชิงจิตวิทยา ที่ว่าด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าซึ่งเป็นมากกว่าแค่แฟชั่น 

  • “Enclothed cognition” คืออะไร ?

“Enclothed cognition” คือ ความสัมพันธ์ระหว่างเสื้อผ้าและความรู้สึกของเราในเชิงจิตวิทยา ปฏิเสธไม่ได้ว่าเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นที่ชอบหรือต่างหูคู่ใจ เป็นสิ่งที่เพิ่มพลังความมั่นใจและความสบายใจให้กับคนเราไม่มากก็น้อย ความรู้สึกมั่นอกมั่นใจแบบนี้นี่เองที่เรียกว่า “Enclothed cognition” หรือ “จิตวิทยาการสวมใส่เสื้อผ้า” 

ไม่ใช่แค่ “สีเสื้อมงคล” ​​นักจิตวิทยาชี้ เสื้อผ้าบอกความรู้สึกของคนใส่ได้

มีงานวิจัยจากนักจิตวิทยาหลายชิ้น ที่ทำการทดลองเพื่อหาผลลัพธ์ว่า “เสื้อผ้า” มีอิทธิพลต่อจิตใจของผู้สวมใส่ในกลุ่มผู้ทดลองอย่างไรบ้าง จนได้ข้อสรุปว่า การสวมเสื้อผ้าที่เป็นทางการ อย่างเช่น เสื้อกาวน์ สามารถช่วยเพิ่มสมาธิให้กับแพทย์ในระหว่างที่ทำการผ่าตัดได้จริง ๆ

แม้กระทั่งสไตล์การแต่งตัวของหนุ่มๆ สาวๆ ในออฟฟิศก็มีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานด้วยเหมือนกัน เช่น คนที่ใส่สูท ผูกไท พวกเขาจะรู้สึกว่าตัวเองมีความน่าเชื่อถือ มีอิทธิพล และมีความสามารถเต็มเปี่ยม ในขณะที่หากพวกเขาสวมชุดลำลอง จะรู้สึกได้ว่าพวกเขาเป็นคนชิลๆ สามารถเข้าถึงได้ง่าย และเป็นธรรมชาติมากกว่า 

 

  • Feeling vs Matching เกี่ยวกันตรงไหน ?

อ่านมาถึงตอนนี้ บางคนอาจจะยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนมากนัก ว่า เสื้อผ้านั้นมีผลต่อจิตใจจริงหรือไม่? ลองหาคำตอบไปพร้อมกันโดยเริ่มจากการมองเสื้อผ้าชุดที่คุณกำลังใส่อยู่ตอนนี้ จากนั้นให้คิดย้อนกลับไปว่า ก่อนที่จะก้าวเท้าออกจากบ้าน คุณได้ใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ เพื่อเลือกเสื้อผ้าที่แมทช์กับความรู้สึกของวันนี้หรือไม่?

ไม่ใช่แค่ “สีเสื้อมงคล” ​​นักจิตวิทยาชี้ เสื้อผ้าบอกความรู้สึกของคนใส่ได้

ยกตัวอย่างเช่น วันนี้ต้องออกมาในลุค ที่น่าเชื่อถือ และมั่นใจ เพราะต้องไปพบกับลูกค้าคนสำคัญ หรืออยากสร้างความประทับใจให้ลูกค้า (First Impression) ก็ต้องเลือกเสื้อผ้าที่ดูดีกว่าปกติ เป็นต้น หากมีความคิดแบบนี้ก่อนจะแต่งตัวออกจากบ้าน ก็ตอบคำถามนี้ได้ชัดแล้วว่าเสื้อผ้าส่งผลต่อจิตใจของคุณแน่นอน

นอกจากนี้ เมื่อพูดถึงเรื่อง “First Impression” หรือความประทับใจแรกพบ จะเห็นได้ว่าการที่เราตั้งใจเลือกเสื้อผ้าเพื่อสร้างความประทับใจแรกพบต่อใครสักคนหนึ่ง นอกจากจะทำให้คนๆ นั้นประทับใจในตัวเราแล้ว เสื้อผ้ายังเป็นส่วนช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้สวมใส่อีกด้วย ซึ่งความประทับใจที่ว่านี้สามารถเกิดขึ้นได้เร็วกว่า 1 วินาที และเสื้อผ้าก็คืออาวุธสำคัญที่สามารถทำให้ความประทับใจเกิดขึ้นได้จริง!

 

  • เสื้อผ้าที่สวมใส่ สะท้อนตัวเองในแบบไหนบ้าง?

ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่ จะส่งผลต่อวิธีที่คนอื่นมองมาที่เรามากน้อยขนาดไหน แต่ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ วิธีที่เรามองตัวเราเองด้วยเหมือนกัน หลายคนอาจนึกสงสัยว่า ทำไมดาราดังหลายคนต้องซื้อเสื้อผ้า หรือกระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรู ราคาหลักแสนหลักล้าน รู้หรือไม่? แท้จริงแล้วความรู้สึกหรูหรา ดูมีสไตล์เหล่านั้นนั่นเอง ที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่ามีอำนาจ มั่นใจ และไม่ตกเทรนด์ เพื่อสะท้อนตัวตนของพวกเขาออกสู่สายตาสังคม

การที่ดารามักจะเลือกซื้อกระเป๋าสุดหรู อาจมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น โดยหากมองในมุมของวิทยาศาสตร์ สไตล์ ความสวยงาม และอารมณ์ ทั้ง 3 อย่างนี้มีความสัมพันธ์อันน่าทึ่งที่แฝงอยู่ นั่นคือ เมื่อพวกเขาหันไปมองกระเป๋าที่กำลังสะพายอยู่ กระเป๋าสุดหรูใบนี้เปรียบเสมือนเงาสะท้อนให้รู้สึกถึงคุณค่าของเงิน ปะปนไปกับความรู้สึกภูมิใจร่วมด้วย ซึ่งพวกเขาอาจต้องทำงานหนักอย่างมาก กว่าที่จะได้กระเป๋าใบนี้มาครอบครอง

ไม่ใช่แค่ “สีเสื้อมงคล” ​​นักจิตวิทยาชี้ เสื้อผ้าบอกความรู้สึกของคนใส่ได้

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายคนที่อาจไม่ได้มีมุมมองความคิดเกี่ยวกับเรื่องการแต่งกายที่ต้องหรูหราหรือเน้นเป็นทางการเสมอไป เพราะแม้ว่าเสื้อผ้าจะมีผลต่อวิธีที่คนอื่นมองมาที่เรามากขนาดไหน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่เลือกแต่งตัวแบบทางการจะหมายถึงสังคมชั้นสูงเสมอไป เพราะเสื้อผ้าไม่ได้เป็นสิ่งที่ฟันธงได้ว่าเราเป็นคนแบบไหน แต่สิ่งที่สำคัญ คือ เรามองตัวเองอย่างไร รู้สึกมั่นใจมากขนาดไหนกับเสื้อผ้าที่เราเลือกใส่ในวันนี้มากกว่า 

อีกหนึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ การแต่งหน้าของสาวๆ สำหรับบางคนการแต่งหน้าในตอนเช้า เปรียบเหมือนกับเกราะป้องกัน และเครื่องประดับก็คืออาวุธเลยก็ว่าได้ แต่ใครบางคนกลับชอบเผยหน้าสดแบบโนเมคอัพมากกว่า เพราะพวกเขาชอบสไตล์สบายๆ ธรรมชาติ และไม่ต้องปรุงแต่งมากมายอะไรก็ใช้ชีวิตได้อย่างแฮปปี้ 

ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ชุดที่เราแมทช์ออกมาในแต่ละวันล้วนสะท้อนถึงความต้องการภายในใจของเราเองร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม การเลือกวิธีแต่งกายในแต่ละวันไม่มีถูกไม่มีผิด แค่เลือกเสื้อผ้าที่ใส่แล้วรู้สึกมั่นใจ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

--------------------------------------
อ้างอิง : School of selfimage, Psychologytodaypositivepsychologynews