ย้อนอดีต 10 "คนดัง" ที่ปัจจุบันอาจลืมไปแล้ว ว่าเคยทำอะไรมาก่อน

ย้อนอดีต 10 "คนดัง" ที่ปัจจุบันอาจลืมไปแล้ว ว่าเคยทำอะไรมาก่อน

เปิดประวัติ 10 คนดัง ที่เข้าวงการบันเทิงและโด่งดังในอาชีพหนึ่ง แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ปัจจุบันกลับมีภาพจำในอีกฐานะหนึ่ง

วงการบันเทิง เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ประกอบไปหลากหลายอาชีพ และมี “ดาวดวงใหม่” เกิดขึ้นมาประดับวงการมากมาย เพราะทุกวันนี้ที่โซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาททำให้ก้าวเข้าสู่วงการได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถยืดหยัดอยู่ในวงการได้นาน มีหลายคนที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป 

อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายคนสามารถยืนระยะอยู่ในวงการได้ ด้วยการเปลี่ยนบทบาทและตำแหน่งของตนเอง จากเดิมที่เคยประสบความสำเร็จในบทบาทหนึ่ง ก็เปลี่ยนมาสู่อีกบทบาทหนึ่งที่โด่งดังไม่แพ้กัน

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ได้รวบรวม 10 คนดัง ที่ยังคงมีชื่อเสียงในปัจจุบัน แต่หลายคนอาจจะนึกไม่ออกแล้วว่าก่อนหน้านี้พวกเขาทำอะไรมาก่อนและแจ้งเกิดจากอาชีพอะไรในวงการบันเทิง

 

1. เบเบ้ - ธันย์ชนก 

หากพูดถึงเน็ตไอดอลยุคแรก ๆ ของไทย ที่จะต้องมีรูปถูกนำไปโพสต์ทั่วทุกเว็บบอร์ดคงจะต้องมีชื่อของ “เบเบ้ - ธันย์ชนก ฤทธินาคา” อย่างแน่นอน ซึ่งด้วยความน่ารัก สดใสของเบเบ้จึงทำให้เธอเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว และเริ่มมีผลงานในวงการบันเทิง ทั้งการถ่ายแบบลงนิตยสารวัยรุ่น จากนั้นเป็นนักร้องศิลปินในสังกัด Buzz Music ก่อนจะเข้ามาเป็นนักแสดงในสังกัดของช่อง 7 

หลังจากหมดสัญญากับช่อง 7 ในปี 2558 เบเบ้ยังคงมีผลงานทางหน้าจอโทรทัศน์อยู่บ้างประปราย ก่อนที่จะกลายเป็นที่รู้จักอีกครั้งในฐานะยูทูบเบอร์และอินฟลูเอนเซอร์ด้านการออกกำลังกาย โดยทำคลิปสอนออกกำลังกาย แม้ว่าคลิปจะไม่ได้ยาวมาก แต่ผู้ชมต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคลิปของเธอเรียกเหงื่อและเหนื่อยมาก จนหลายคนขนานนามว่า “วงการเบเบ้เข้าแล้วออกเลย” แต่เบเบ้ก็ไม่ลดความพยายามทำคลิปออกกำลังกายให้ง่ายขึ้น ไม่ใช้พื้นที่มากมาย และไม่ต้องขยับร่างมากนัก

2. ตั๊ก - ศิริพร 

ตั๊ก - ศิริพร อยู่ยอด” เข้าสู่วงการบันเทิงจากการประกวดร้องเพลงเวทีสยามกลการ และได้รับรางวัลนักร้องดีเด่น โดยภายหลังได้เป็นศิลปินในสังกัดของ “แจ้ - ดนุพล” ใช้ชื่อว่า “ตั๊ก ลีลา” มีอัลบั้มออกมาถึง 9 อัลบั้ม ซึ่งอัลบั้มแรก ชื่อว่า “ลีลา 2 นอนคนเดียว” (2535) ทำยอดขายได้มากกว่า 1 ล้านตลับ มีเพลงฮิตที่หลายคนรู้จักกันจนถึงวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น “ฉันไม่ใช่นางเอก” “ธุรกิจเธอ” “ไม่มีฝีมือ” เป็นต้น

ต่อมา ตั๊กได้ผันตัวมาเล่นละครโทรทัศน์หลายเรื่อง แต่หนึ่งผลงานที่คนรู้จักมากที่สุดคือ เล่นตลกในรายการ “ก่อนบ่ายคลายเครียด” ด้วยความสามารถของเธอที่มีทั้งการร้องเพลงระดับตัวแม่ และความตลกที่หาตัวจับได้ยาก ทำให้ในช่วงหลังเธอได้รับหน้าที่เป็นคอมเมนเตเตอร์และกรรมการในการประกวดร้องเพลงอยู่เรื่อยมา และกลายเป็นภาพจำใหม่ที่ผู้ชมจะนึกถึงเธอเสมอ

 

3. หนุ่ม - กรรชัย

ในนาทีนี้คงไม่มีพิธีกรรายการฮาร์ดทอล์กและผู้ประกาศข่าวคนไหนจะมาแรงไปกว่า “หนุ่ม - กรรชัย กำเนิดพลอย” อีกแล้ว เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมารายการ “โหนกระแส” ของเขาได้สร้างไวรัลระดับตำนานไว้มากมาย รวมถึงมีหลายคลิปที่มียอดเข้าชมมากกว่า 1 ล้านครั้งภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง พร้อมได้รับรางวัลจากสถาบันต่าง ๆ มากมายนับไม่ถ้วน จนสมาคมนักข่าวบันเทิงตั้งฉายาให้หนุ่มในปีนี้ว่า “พ่อบำบัดทุกข์

แต่ก่อนที่หนุ่ม กรรชัยจะกลายมาเป็นตัวพ่อในวงการข่าวอย่างเช่นทุกวันนี้ ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นนักแสดงมากฝีมือโลดแล่นทั้งในวงการจอแก้วและจอเงิน โดยได้รับรางวัลเมขลา สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมในปี 2544 จากละครเรื่อง “ลูกทาส” รวมถึงเป็นพิธีกรรายการทอล์กโชว์มาแล้วนับไม่ถ้วน

4. ณวัฒน์ อิสรไกรศีล

ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” หรือ “บอสณวัฒน์” ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ในฐานะผู้อำนวยการกองประกวด “มิสแกรนด์ไทยแลนด์” (Miss Grand Thailand) รวมถึงการเป็นประธานและผู้ก่อตั้งเวทีการประกวดระดับนานาชาติ “มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล” (Miss Grand International) ซึ่งเป็นหนึ่งในเวทีการประกวดนางงามที่เป็นกระแสและประสบความสำเร็จที่สุดของโลก 

อย่างไรก็ตาม ณวัฒน์อยู่ในวงการบันเทิงไทยมาอย่างยาวนาน ทั้งในฐานะผู้ผลิตรายการและพิธีกรรายการต่าง ๆ มากมาย หนึ่งในผลงานการเป็นพิธีกรที่แจ้งเกิดของเขา คือรายการ “เปิดเมืองแปลก” ที่พาท่องเที่ยวประเทศต่าง ๆ ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักทั่วโลก รวมไปถึงรายการ “ครัวคุณต๋อย” และ “ทูเดย์โชว์” ร่วมกับ “ต๋อย - ไตรภพ” “เอ๊าะ - กีรติ” และ “โก๊ะตี๋ อารามบอย” ซึ่งภายหลังเขาได้ถอนตัวออกมา

 

5. เอกกี้ - เอกชัย 

ปี 2537 “GMM Grammy” ได้เดบิวต์บอยแบนด์วงแรกของค่ายในชื่อว่า “UHT” มีสมาชิกด้วยกันทั้งสิ้น 6 คน โดยมี “เอก - เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์” เป็นหนึ่งในสมาชิก ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีเพลงดังอย่าง “นี่แหละเพื่อน” “ยังยินดีครับเพื่อน” ที่เป็นที่รู้จักมาจนถึงปัจจุบัน

จากนั้น เอกได้ผันตัวมาเป็นดีเจคลื่น Green Wave และงานพิธีกรรายการโทรทัศน์ แต่ที่โด่งดังมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้น “เดอะ สตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว” รายการเรียลลิตี้ระดับตำนานของไทย ที่กลายเป็นเวทีเปิดตัวว่าเขาเป็น LGBTQ+ โดยปริยาย นับตั้งแต่นั้นมา ทุกคนก็เรียกเขาอย่างติดปากว่า “เอกกี้” และมีงานพิธีกรเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

 

6. ตู่ - นันทิดา 

วันที่ 31 พ.ค. 2521 “ตู่ - นันทิดา แก้วบัวสาย” ได้รับรางวัลชนะเลิศนักร้องสมัครเล่นยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ทำให้เธอขึ้นแท่นเป็นซูเปอร์สตาร์ของยุคนั้นในทันที โดยได้แสดงภาพยนตร์หลายสิบเรื่อง รวมถึงออกอัลบั้มถึง 6 ชุด ซึ่งเป็นเพลงสากลและเพลงลูกทุ่ง ก่อนที่จะได้เซ็นสัญญากับ GMM Grammy และได้ออกอัลบั้มเต็มและอัลบั้มพิเศษกว่า 20 อัลบั้ม ซึ่งมีเพลงฮิตระดับอมตะมากมาย เช่น “ดีเจเสียงใส” “วิมานดิน” “ทรายกับทะเล” “ขอมือเธอหน่อย” “เขียนไว้ข้างเตียง” ฯลฯ ทำให้เธอกลายเป็นนักร้องดีว่าอันดับ 1 ของเมืองไทยที่หลายคนรัก

 

ต่อมา ปี 2563 นันทิดาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ในนาม "กลุ่มสมุทรปราการ" และชนะด้วยคะแนนนำทุกเขตเลือกตั้ง จำนวน 341,504 คะแนน ทำให้เธอจำต้องห่างหายจากวงการบันเทิงไปโดยปริยาย

 

7. เขื่อน ภัทรดนัย 

K-OTIC” เป็นบอยแบนด์วงแรกของกามิกาเซ่ ค่ายเพลงวัยรุ่นชื่อดังของไทยในยุค 2000 โดยมี “เขื่อน - ภัทรดนัย เสตสุวรรณ” เป็นหนึ่งในสมาชิก K-OTIC ถือเป็นบอยแบนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในขณะนั้น มีเพลงฮิตหลายเพลงไม่ว่าจะเป็น “รักไม่ได้หรือไม่ได้รัก” “อยู่ในช่วงปรับปรุง” “เหงาปาก” เป็นต้น

หลังจากที่ K-OTIC ยุบวงในปี 2555 เขื่อนยังคงมีผลงานอยู่ในวงการบันเทิงอยู่บ้าง ก่อนที่จะเดินทางไปเรียนต่อด้านจิตวิทยาที่สหราชอาณาจักร ทำมีโอกาสได้สำรวจตัวเองอย่างลึกซึ้ง ทั้งเรื่องรสนิยมทางเพศ และการแต่งตัว โดยระบุว่าตนเองเป็น Asexual และปัจจุบันมีอาชีพหลักเป็นนักจิตวิทยา อีกทั้งเป็นยูทูบเบอร์ทำคลิปภายใต้แนวคิดเป็น “พื้นที่ปลอดภัย” สำหรับทุกคน

 

8. เต็งหนึ่ง คณิศ 

เต็งหนึ่ง คณิศ ปิยะปภากรกูล” เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการประกวดดัชชี่บอยแอนด์เกิร์ล 2007 และได้ออกผลงานเพลงในฐานะบอยแบนด์วง B.O.Y. พร้อมกับเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดของช่อง 7 โดยได้เล่นละครเรตติ้งดีหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น “มือนาง” “พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์” และ “อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว”

เมื่อสิ้นสุดสัญญากับช่อง 7 แล้ว เต็งหนึ่งยังมีผลงานในวงการบันเทิงอยู่บ้าง โดยผลงานเด่นคือซีรีส์ “Gay OK Bangkok” ก่อนที่จะไปเรียนด้านการทำขนมสานฝันของตนเองที่ต่างประเทศ ในช่วงนั้นเอง เขามีโอกาสโกอินเตอร์ไปแสดงซีรีส์ที่ประเทศจีน แต่แล้วการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เส้นทางในวงการบันเทิงจีนของเขาจบลง และกลับประเทศไทยเปิดสตูดิโอสอนทำขนมชื่อว่า “April Trees” 

 

9. พอล ภัทรพล 

ในปัจจุบันอีกหนึ่งอาชีพที่กำลังได้รับความนิยม คือ การเป็นไลฟ์โค้ชและเปิดคอร์สสอนการลงทุน เพื่อตอบโจทย์คนที่มีฝันอยากรวยและมีชีวิตที่ดีกว่านี้ พร้อมต่อยอดการลงทุน โดยหนึ่งในไลฟ์โค้ชที่ถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงนี้ น่าจะต้องมีชื่อของ “พอล - ภัทรพล ศิลปาจารย์ที่ใช้ประสบการณ์ในการลงทุนและทำธุรกิจของตนเองมาให้ความรู้เรื่องการเงิน การลงทุน การทำธุรกิจ และการพัฒนาตัวเองให้แก่บุคคลทั่วไป

แฟนละครในช่วงยุค 2000 หลายคนคงคุ้นหน้ากับพอลเป็นอย่างดี เนื่องจากเขาเป็นนักแสดงในสังกัดโพลีพลัส และมีผลงานละครไม่ต่ำกว่า 20 เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น “ชิชา สาวน้อยมหัศจรรย์” “อมฤตาลัย” และ “แรมพิศวาส” รวมถึงเป็นดีเจ พิธีกร และเคยออกผลงานเพลงอีกด้วย ก่อนที่ออกจากวงการบันเทิงไป และหันไปทำธุรกิจส่วนตัวนั่นเอง

 

10. น้ำ รพีภัทร

น้ำ - รพีภัทร เอกพันธ์กุล” เข้าสู่วงการบันเทิงจากการประกวดดัชชี่บอยแอนด์เกิร์ล 2001 และเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 7 โดยแจ้งเกิดจากละครเรื่อง “เบญจา คีตา ความรัก” และก้าวขึ้นเป็นนักแสดงแถวหน้าของช่องในเวลาต่อมา พร้อมด้วยผลงานละครกว่า 30 เรื่อง

ขณะที่ปัจจุบัน น้ำได้ผันตัวเป็นเกษตรกร และมีฟาร์มเป็นของตัวเองชื่อว่า “รพีภัทร ฟาร์ม” ที่จังหวัดนครนายก และยังมีผลงานละครอยู่บ้าง โดยละครเรื่องล่าสุดคือ “ป้อมปางบรรพ์” พึ่งจบไปเมื่อต้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา

 

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจรวบรวม

กราฟิก: ณัชชา พ่วงพี

ย้อนอดีต 10 "คนดัง" ที่ปัจจุบันอาจลืมไปแล้ว ว่าเคยทำอะไรมาก่อน