"Jurassic World" ภาคใหม่ มาแรง! ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดในสหรัฐ

"Jurassic World" ภาคใหม่ มาแรง!  ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดในสหรัฐ

"Jurassic World: Dominion" เปิดตัวบนบ็อกซ์ ออฟฟิศสหรัฐในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยรายได้ 143 ล้านดอลลาร์ แซงรายได้เปิดตัวของ “Top Gun: Maverick” ที่เข้าฉายเมื่อเดือนที่แล้ว สวนกระแสคำวิจารณ์ของนักวิจารณ์และผู้ชม ที่บอกว่าภาคนี้สนุกน้อยที่สุด

"Jurassic World: Dominion" บทสรุปไตรภาคของภาพยนตร์ผจญภัยในโลกไดโนเสาร์ ทำรายได้เปิดตัวในสุดสัปดาห์แรกบนบ็อกซ์ ออฟฟิศสหรัฐด้วยรายได้ 143 ล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่ารายได้เปิดตัวในสหรัฐของ "Jurassic World: Fallen Kingdom" (2561) ภาพยนตร์ภาคก่อนหน้า ที่ทำรายได้ไป 148 ล้านดอลลาร์ แต่ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนไม่กล้าที่จะโรงภาพยนตร์เหมือนแต่ก่อน 

รายได้ 143 ล้านดอลลาร์ของ Jurassic World: Dominion ก็สามารถขึ้นแท่นอันดับ 2 ของภาพยนตร์ที่ทำรายได้สุดสัปดาห์เปิดตัวสูงสุดในสหรัฐประจำปีนี้เป็นที่เรียบร้อย เป็นรองเพียง “Doctor Strange in the Multiverse of Madness” ด้วยรายได้ 187 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่า “Top Gun: Maverickที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนที่แล้วด้วยรายได้ 124 ล้านดอลลาร์ และ “The Batman” เวอร์ชันนำแสดงโดย โรเบิร์ต แพตทินสัน ที่ทำรายได้ 134 ล้านดอลลาร์ 

ขณะที่รายได้ทั่วโลกของ Jurassic World: Dominion นั้นทำไปได้ 245 ล้านดอลลาร์ ทำให้รายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 389 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีหลายประเทศที่เข้าฉายก่อนสหรัฐ เช่นเดียวกับประเทศไทย ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในไทยตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ภาพยนตร์ฮอลลีวูดไม่กี่เรื่องที่ได้ฉายในจีน

ในแต่ละปี มีภาพยนตร์ใหม่ของฮอลลีวูดที่ได้เข้าฉายในจีนเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น ซึ่ง Jurassic World: Dominion เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่มีกำหนดฉายในจีนเรียบร้อยแล้ว โดย The Hollywood Reporter คาดการณ์ว่า จะทำรายได้เปิดตัวในจีนได้ 52 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะกลายเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ทำรายได้สูงสุดในปีนี้ แซงหน้า The Batman ที่ทำรายได้ไปเพียง 12 ล้านดอลลาร์ เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา 

ขณะที่ภาพยนตร์โกยรายได้สูงในปีนี้อย่าง Top Gun: Maverick และ Doctor Strange in the Multiverse of Madness ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าฉายในจีน เนื่องจากเหตุผลทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Jurassic World: Dominion ถูกคาดการณ์ว่า จะทำรายได้ได้มากที่สุดในจีน แต่ก็น้อยกว่า Jurassic World: Fallen Kingdom ภาคก่อนที่ทำไว้ 111 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่โควิด-19 ในจีนนั้นยังไม่สู้ดีนัก แม้ว่าหลายเมืองใหญ่ รวมถึงนครเซี่ยงไฮ้จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่โรงภาพยนตร์ประมาณ 23% ทั่วประเทศยังคงปิดทำการ เนื่องจากมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุขและยังมีคำสั่งห้ามไม่ให้ประชาชนทำกิจกรรมหลาย

"Jurassic World" ภาคใหม่ มาแรง!  ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดในสหรัฐ

โปสเตอร์ภาพยนตร์ Jurassic World: Dominion เวอร์ชันจีน

รายได้ที่สวนทางกับคำวิจารณ์

"Jurassic World: Dominion" เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 6 ในแฟรนไชส์ “Jurassic” ที่ภาคแรกเข้าฉายตั้งแต่ปี 2536 และเป็นบทสรุปไตรภาคภาพยนตร์ชุด “Jurassic World” โดยภาคนี้นอกจากจะได้ “คริส แพตต์” และ “ไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด” มารับบทนำเหมือนเดิมแล้ว ยังมีนักแสดงนำจากภาค Jurassic Park ทั้ง “แซม นีล” “ลอร่า เดิร์น” และ “เจฟฟ์ โกลด์บลูม” กลับมาร่วมแสดงด้วย

นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผู้ชมและแฟนหนังต้องการตีตั๋วเข้าไปชม Jurassic ภาคนี้ แต่ตัวภาพยนตร์อาจจะไม่ได้ดีอย่างที่คิด เนื่องจากคำวิจารณ์ตั้งแต่รอบพรีวิวเป็นไปในทิศทางไม่ดีนักจากสื่อหลายสำนัก

ปีเตอร์ แบรดชอว์ จาก The Guardian กล่าวว่า “หนังเต็มไปด้วยความครึ่ง ๆ กลาง ๆ ดูประดิษฐ์ ไร้ชีวิตชีวา และไร้แก่นสาร หนังสนุกได้เพราะนักแสดงรุ่นเก๋าอย่างเดิร์นและนีลเข้าขากันได้ดี ส่วนโกลด์บลูมเล่นได้ตลก ขณะที่แพรตต์และฮาวเวิร์ด พระนางของเรื่อง เหมือนกับพึ่งรู้จักกันในงานปาร์ตี้แถวแอลเอ แล้วก็ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น” 

ขณะที่ แคลรีส ลาวรีย์ จาก The Independent รีวิวไว้ว่า “นี่เป็นจุดจบของไตรภาคที่ไร้ประโยชน์ ไม่รู้เลยว่าหนังกำลังเล่าอะไรอยู่ เหมือนกับกำลังมองพ่อครัวที่กำลังพยายามแก้รสชาติของอาหารที่ปรุงเสร็จแล้ว ด้วยการสาดเครื่องปรุงที่มีลงไป แล้วก็ตู้ม! เละกว่าเดิม”

ด้านรีวิวของ The Times โดย เควิน มาเฮอร์ ตั้งคำถามกับภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “มันยากแค่ไหนกันเชียว ที่จะทำให้ไดโนเสาร์มันดูน่ากลัว? นี่เป็นภาคที่ 6 แล้ว และยาวที่สุด เกือบ 2 ชั่วโมงครึ่ง แต่ไม่มีความน่ากลัว ความสยดสยอง หรือแม้แต่ความน่าเกรงขามของไดโนเสาร์เลยสักนิด มีแต่ความเฉื่อยชา และซ้ำไปซ้ำมา”

ขณะที่ แดนนี ลีห์ จาก Financial Times กล่าวว่า “แฟรนไชส์ไดโนเสาร์น่าจะใกล้สูญพันธุ์แล้ว ภาคนี้เป็นอะไรที่น่าเบื่อ มีแต่การไล่ล่าดาด ๆ ทั่วไป จริงอยู่ที่มันฉากวิ่งหนีจากไดโนเสาร์หลายฉาก ทั้งบนน้ำแข็งที่กำลังแตกร้าว ฉากพุ่งออกจากเครื่องบิน หรือการไล่ล่าสไตล์เจมส์ บอนด์ มันฟังดูน่าสนุกนะ แต่อย่าไปตั้งความหวัง แม้แต่ช่วงเวลาที่น่าสนุกที่สุดของหนัง ยังได้แต่ขำแห้งเลย”

เดวิด เฟียร์ จาก นิตยสาร Rolling Stone รีวิวไว้ว่า “ตอนนั้นเราเลยบอกว่า Fallen Kingdom (ภาคก่อนหน้า) เป็นหนังที่ห่วยที่สุดในแฟรนไชส์ แต่ต้องนี้ต้องกลับคำและขอโทษหนังเรื่องนั้นแล้ว เพราะ Dominion มันแย่กว่า นี่มันไม่ใช่หนัง แต่เป็นเหตุการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของแฟรนไชส์ ที่ส่วนดี ๆ อันน้อยนิดของหนังชุดนี้ปลิวหายวับ เหมือนเหล่าสเตโกซอรัสผู้โชคร้ายที่สูญพันธุ์ไป”

นอกจากนี้ Jurassic World: Dominion ยังได้คะแนนจากนักวิจารณ์ในเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ไปเพียง 30% เท่านั้น ซึ่งต่ำที่สุดในภาพยนตร์ทุกเรื่องของแฟรนไชส์นี้ ขณะที่คะแนนของผู้ชมจาก IMDb เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลภาพยนตร์ได้ไปเพียง 6 คะแนน (ข้อมูล ณ วันที่ 13 มิ.ย.) 

 

อนาคตของโลกไดโนเสาร์

อันที่จริงในตอนนี้อาจจะเร็วเกินไปที่จะพูดถึงอนาคตของแฟรนไชส์ Jurassic แต่ แฟรงค์ มาร์แชล โปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์ชุดนี้ ได้ให้สัมภาษณ์กับ Collider เว็บไซต์ข่าววงการบันเทิง เมื่อเดือน พ.ค. 2563 ไว้ว่า Jurassic World: Dominion จะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ ที่มนุษย์จะต้องปรับตัวเพื่ออยู่อาศัยกับเหล่าไดโนเสาร์ให้ได้ และเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เขากล่าวว่า อาจจะมีภาพยนตร์ในแฟรนไชส์อีกหลายเรื่อง แต่เราต้องนั่งรอดูสถานการณ์ในอนาคตก่อนว่าจะเป็นอย่างไร

ขณะที่ทั้งนักแสดงและผู้กำกับของภาพยนตร์ไตรภาค “Jurassic World” ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่าง ๆ ว่าอาจจะไม่กลับมาร่วมงานในภาพยนตร์ภาคต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น คอลิน เทรวอร์โรว์ ผู้กำกับของ Jurassic World ทั้ง 3 ภาค ให้สัมภาษณ์ว่า คงจะไม่กลับมามีส่วนร่วมกับภาพยนตร์ชุดนี้อีก เนื่องจากเขาใช้เวลาอยู่กับมันมานานกว่า 9 ปี ยกเว้นตำแหน่งที่ปรึกษาที่จะยังพอมีโอกาสเป็นไปได้ นอกจากนี้ยังเผยว่ามีอีกหลายตัวละครในไตรภาคของเขาที่สามารถนำกลับมาใช้ได้

ส่วนนักแสดงนำอย่าง แพรตต์ และ ฮาวเวิร์ด ก็ไม่คิดว่าตนเองจะได้กลับมารับบทนำในภาคต่อไป เช่นเดียวกับ 3 นักแสดงนำใน “Jurassic Park” ทั้งนีล, เดิร์น และ โกลด์บลูม ที่กล่าวว่า Jurassic World: Dominion น่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของพวกเขาในแฟรนไชส์นี้แล้ว

 

ที่มา: BBC, CNBC, CNN, Slash FilmThe Hollywood Reporter