สูตรลงทุน 'Well-being พนักงาน' สไตล์ SCGD ด้วย 3 หลักสู่ความยั่งยืน

สูตรลงทุน 'Well-being พนักงาน' สไตล์ SCGD ด้วย 3 หลักสู่ความยั่งยืน

ความอยู่รอดและความแข็งแกร่งขององค์กร ไม่ได้อยู่ที่การแข่งขัน หรือกำไร แต่อยู่ที่การสร้าง  "สมดุลและความยั่งยืน" ในทุกมิติ

KEY

POINTS

  • หลัก 3 ประการของ SCGD สู่องค์กรยั่งยืนที่เปรียบเสมือน 3 ด่านปราการสำคัญของชีวิต ได้แก่ 1. การออกกำลังกาย  2.อาหาร  และ3.การนอน
  • SCGD มุ่งเน้นสร้างสุขภาวะที่ดี (Well-being) ให้กับพนักงานผ่านการดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจ และเสริมความมั่นคงทางการเงิน 
  • คนวัยทำงานต้องรู้จักหน้าที่และพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และฟังเสียงร่างกาย เพราะถือเป็นสัญญาณเตือน และวิธีจัดการความเครียดที่ดีที่สุด คือการสังเกตจากร่างกาย 

ความอยู่รอดและความแข็งแกร่งขององค์กร ไม่ได้อยู่ที่การแข่งขัน หรือกำไร แต่อยู่ที่การสร้าง  "สมดุลและความยั่งยืน" ในทุกมิติ ตั้งแต่กลยุทธ์ทางธุรกิจที่เฉียบคม พร้อมรับมือการแข่งขันระดับโลก และการลงทุนในทรัพยากรที่มีค่าที่สุดอย่าง "พนักงาน" เพื่อสร้างองค์กรแห่งสุขภาวะ ด้วย ปรัชญาการใช้ชีวิตที่สมดุลของผู้บริหาร ซึ่งทำหน้าที่เป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจให้แก่คนในองค์กร

“บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD” เป็นส่วนหนึ่งของ SCG (บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)  ที่อยู่คู่สังคมไทยมากว่า 100 ปี เปิดกุญแจสำคัญของการดำเนินธุรกิจตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยปรัชญาความสมดุลตั้งแต่โรงงานผลิตไปจนถึงชีวิตส่วนตัวของผู้บริหาร พนักงาน และไม่ได้จำกัดกลยุทธ์บนกระดาษเพียงอย่างเดียว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

SCGD ลุยตลาดอาเซียนมั่นใจเติบโตสูง ตั้งเป้ารายได้ปี 2030 โต 2 เท่า

SCGD จ่อย้ายฐานผลิตซบเวียดนาม หนุนส่งออกรับมือ 'ภาษีทรัมป์'

สร้าง Well-being ให้พนักงาน

“กิตตินันท์ เนื่องจำนงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน (CFO) บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า การจะทำให้ธุรกิจมั่นคงและยั่งยืนได้นั้น จะต้องทำให้ บุคลากร พนักงานขององค์กรมีความสุขทั้งกาย ใจ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ควบคู่ไปกับกลยุทธ์ที่พร้อมรับมือทุกความท้าทายที่เกิดขึ้น เพราะความสำเร็จขององค์กรไม่ได้วัดจากตัวเลขผลประกอบการอย่างเดียว แต่คนซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดต้องได้รับการดูแลที่ดี

“SCGD เชื่อว่าการดูแลพนักงานให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี (Well-being) คือ การลงทุนเพื่อความยั่งยืนขององค์กร  บริษัทจึงได้พัฒนานโยบายและสวัสดิการต่างๆ ที่ครอบคลุมทั้งสุขภาพกาย ใจ และความมั่นคงทางการเงิน สุขภาพกายและใจ อาทิ ส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพแข็งแรงผ่านการจัดตั้งชมรมกีฬาต่างๆ และมีฟิตเนสที่เปิดให้บริการ 7 วันต่อสัปดาห์ ควบคู่ไปกับการจัดโปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อค้นหาความเสี่ยงและป้องกันปัญหาสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ”

นอกจากนั้น จะมีการจัดกิจกรรมที่ช่วยลดความเครียดจากการทำงาน เช่น การจัดให้มีบริการนวดแผนไทยโดยผู้พิการทางสายตา ซึ่งนอกจากจะช่วยให้พนักงานได้ผ่อนคลายแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนการจ้างงานผู้พิการอีกทางหนึ่ง

"หลัก 3 ประการสู่สุขภาวะที่ยั่งยืนที่เปรียบเสมือน 3 ด่านปราการสำคัญของชีวิต ได้แก่ 1. การออกกำลังกาย  2.อาหาร หากไม่ได้ออกกำลังกาย ก็ต้องยิ่งใส่ใจเรื่องอาหารให้ดี และ3.การนอน เป็นเรื่องที่ต้องทำ เพราะคือกระบวนการฟื้นฟูร่างกายที่ดีที่สุดและสำคัญที่สุด"

สูตรลงทุน 'Well-being พนักงาน' สไตล์ SCGD ด้วย 3 หลักสู่ความยั่งยืน

ดูแลสุขภาพใจ-การเงินส่วนบุคคล

กิตตินันท์  กล่าวต่อว่าผู้บริหารให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่โปร่งใสผ่านกิจกรรม MD Talk เพื่อแจ้งผลประกอบการและทิศทางของบริษัทอย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดความกังวลของพนักงาน นอกจากนี้ บริษัทยังปลูกฝังวัฒนธรรมความรับผิดชอบที่เข้มแข็ง โดยยึดหลักที่ว่า "ลูกน้องสุขภาพไม่ดี ลูกพี่ต้องรู้" ซึ่งเน้นย้ำว่าหัวหน้างานคือด่านแรกที่ต้องใส่ใจสุขภาวะของทีม สังเกตความเปลี่ยนแปลง และเข้าช่วยเหลือแต่เนิ่นๆ

ความมั่นคงทางการเงินส่วนบุคคล นอกจากการดูแลสุขภาพกายและใจแล้ว SCDG ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของสุขภาพทางการเงิน โดยมีการจัดอบรมให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถวางแผนการเงินส่วนบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ รวมถึง มีสวัสดิการเงินกู้ยืมฉุกเฉินสำหรับกรณีที่พนักงานประสบภัยพิบัติ เช่น เหตุการณ์น้ำท่วม เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า

“การดูแลพนักงานอย่างรอบด้านมีความจำเป็นในยุคสมัยนี้ เพราะพนักงาน เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร  สอดคล้องไปกับมุมมองและปรัชญาส่วนบุคคลของผู้บริหาร ซึ่งเป็นแนวทางที่น่าสนใจและคนทำงานสามารถนำไปปรับใช้เพื่อสร้างสมดุลในชีวิตของตนเองได้”

อย่างไรก็ตาม รากฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งจากการบริหารจัดการทางการเงินที่รัดกุมนี้เอง คือปัจจัยสำคัญที่เปิดทางให้ SCGD  สามารถทุ่มเททรัพยากรและพลังงานให้กับการดูแล "คน" ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตได้อย่างเต็มที่และยั่งยืน

SCGD ไม่ได้มองสวัสดิการเป็นเพียง "สิทธิประโยชน์" แต่คือการลงทุนใน "ทุนมนุษย์" (Human Capital) ที่เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนองค์กร เพราะเชื่อมั่นว่าความสำเร็จที่แท้จริงและยั่งยืนนั้นมีรากฐานมาจากการดูแลพนักงาน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่าที่สุด การลงทุนเพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีจึงไม่ใช่ค่าใช้จ่าย แต่คือการสร้างพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดจากภายใน

สูตรลงทุน 'Well-being พนักงาน' สไตล์ SCGD ด้วย 3 หลักสู่ความยั่งยืน

"รักษาคนเก่ง" ในวันที่สมองไหลเป็นเรื่องปกติ

กิตตินันท์  กล่าวอีกว่าตอนนี้การย้ายงานถือเป็นเรื่องปกติของแต่ละองค์กร ซึ่งการย้ายงานของบุคลากร SCGD ไม่มาก แต่ถือเป็นความท้าทายขององค์กร เช่นเดียวกับ การรักษาบุคลากรที่มีศักยภาพ ด้วย 2 กลยุทธ์หลัก

1. สร้างความท้าทายและการเติบโต โดยบริษัทส่งเสริมให้พนักงานที่มีศักยภาพสูงได้หมุนเวียนงานหรือรับผิดชอบโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่ท้าทายความสามารถ เพื่อให้พวกเขารู้สึกเหมือนได้ "เปิดโลกใหม่" และเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลาโดยไม่จำเป็นต้องมองหาโอกาสนอกองค์กร

2. กระบวนการประเมินผลที่สร้างสรรค์ มีการตั้งเป้าหมาย (KPI) จะไล่เรียงลงมาจากเป้าหมายใหญ่ของบริษัทสู่ระดับบุคคล แต่หัวใจสำคัญไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขเพียงอย่างเดียว แต่คือ "การพูดคุย (Dialogue)" อย่างสม่ำเสมอระหว่างหัวหน้าและทีมงาน เพื่อประเมินผลงานจากความพยายามควบคู่ไปกับผลลัพธ์ และให้ข้อเสนอแนะ เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

สูตรลงทุน 'Well-being พนักงาน' สไตล์ SCGD ด้วย 3 หลักสู่ความยั่งยืน

 Work-Life Integration สมดุลที่ไม่ใช่การแบ่งแยก

"งาน กับ ชีวิต" ในมุมมองของ "กิตตินันท์" เป็นเรื่องเดียวกัน ดังนั้น การสร้างสมดุลในชีวิตจึงเป็นแก่นแท้ที่หล่อหลอมแนวทางการทำงานและการดูแลบุคลากรให้เติบโตไปในทิศทางเดียวกัน

"Work-Life Integration เป็นความสมดุลที่ไม่สามารถแยกขาดจากกันได้ เพราะคนเราคงแยกงานกับตัวเราไม่ออก  จึงต้องเป็นสิ่งที่ผสมผสานกันอยู่  ฉะนั้น คำว่าความสมดุลจึงไม่ได้หมายถึงการแบ่งเวลา 50:50 แต่เป็นการขยับไปขยับมาอย่างยืดหยุ่น ในช่วงเวลาที่ภารกิจการงานหนักหน่วงก็ต้องทุ่มเทเต็มที่ และเมื่อภารกิจสำเร็จลุล่วง ก็ต้องกลับมาให้เวลากับครอบครัวและดูแลตัวเองอย่างเต็มที่เช่นกัน"

สร้างพลังบวก ฟังเสียงร่างกายและพัฒนาไม่หยุดนิ่ง

จากประสบการณ์ตรงของผู้บริหาร "กิตตินันท์" ได้แนะนำคนวัยทำงานที่สามารถนำไปปรับใช้เพื่อดูแลตัวเองได้อย่างยั่งยืน ว่า ต้องรู้จักหน้าที่และพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโต เช่น ครั้งแรกทีมงานใช้เวลาทำงาน 3 วัน ครั้งต่อไปต้องใช้เวลาสัก 2 วันครึ่ง การพัฒนาและบริหารการทำงานให้ดีขึ้น ใช้เวลาน้อยลง จะช่วยลดภาระของตัวเองในระยะยาวได้

นอกจากนั้น ต้องฟังเสียงร่างกายเป็นสัญญาณเตือน วิธีจัดการความเครียดที่ดีที่สุดคือการสังเกตสัญญาณเตือนจากร่างกาย เช่น อาการภูมิแพ้กำเริบ คือสัญญาณที่ฟ้องว่าร่างกายต้องการการพักผ่อนหรือออกกำลังกาย ถึงเวลาแล้วที่ต้องเบรกเพื่อฟื้นฟูตัวเอง

สูตรลงทุน 'Well-being พนักงาน' สไตล์ SCGD ด้วย 3 หลักสู่ความยั่งยืน

สูตรลงทุน 'Well-being พนักงาน' สไตล์ SCGD ด้วย 3 หลักสู่ความยั่งยืน