'ของทานเล่น' ที่ควรทาน ช่วยฟื้นฟูผู้ป่วย 'ไทรอยด์ต่ำ'

อวัยวะแต่ละส่วนในร่างกายล้วนมีหน้าที่และความสำคัญต่างกันไป ‘ต่อมไทรอยด์’ ก็ถือเป็นอวัยวะสำคัญ เพราะมีหน้าที่ผลิต ฮอร์โมนไทรอยด์ ที่ควบคุมระดับการเผาผลาญ ความดันโลหิต อุณหภูมิ และอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งเปรียบเสมือนการรักษาสมดุลให้กับร่างกายอีกทีหนึ่ง หากต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติก็จะส่งผลต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายโดยเฉพาะหัวใจและสมองจนทำให้เกิดความเจ็บป่วย หรือแม้แต่ความผิดปกติของผิว ผม และเล็บ ก็สามารถเกิดขึ้นได้

โรคไทรอยด์ สาเหตุฮอร์โมนไทรอยด์ผิดปกติ

โรคไทรอยด์ คือโรคที่เกิดจากความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ 

1.ไทรอยด์ทำงานมากเกินไป (Hyperthyroidism) เป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป จนทำให้ระดับฮอร์โมนในเลือดสูงกว่าปกติ ส่งผลให้อัตราการเผาผลาญพลังงานสูงขึ้น

2.ไทรอยด์ทำงานน้อยเกินไป (Hypothyroidism) เป็นภาวะที่ฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือดอยู่ในระดับน้อยเกินไป ส่งผลให้การเผาผลาญในร่างกายช้าลง และทำให้สารอาหารและพลังงานสะสมในร่างกายมากขึ้น 

โดยทั้ง 2 ชนิดนี้ ส่งผลให้ร่างกายเกิดการอ่อนเพลีย น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างมาก จึงจำเป็นต้องได้รับการรักษา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

เช็ก 10 สัญญาณเตือน 'ไทรอยด์ผิดปกติ' ทำไมอ้วน ทำไมผอม

3 เทรนด์เปลี่ยนวงการแพทย์ 'ATMPs-ปลูกถ่ายอวัยวะข้ามสายพันธุ์- Wellness'

กินอย่างไร เมื่อป่วยเป็นโรคไทรอยด์ ?

หลายคนเมื่อมีอาการของไทรอยด์ผิดปกติ ก็มักกังวลเรื่องอาหารการกิน ซึ่งการรับประทานอาหารที่เหมาะสมนับว่ามีส่วนสำคัญในการช่วยให้อาการดีขึ้นได้ วันนี้เราจึงขอแนะนำอาหารที่เหมาะกับผู้ที่มีไทรอยด์ผิดปกติ ไปดูกันว่า เป็นไทรอยด์แบบไหน ควรกินหรืองดอาหารประเภทใดบ้าง!!อาหารส่งผลต่อภาวะไทรอยด์ทำงานน้อยอย่างไร

ต่อมไทรอยด์ของคุณต้องอาศัยสารอาหารสำคัญหลายชนิดเพื่อสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ หากขาดสารอาหารเหล่านี้ ต่อมไทรอยด์อาจทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจทำให้อาการของภาวะไทรอยด์ทำงานน้อยแย่ลงได้ ยกตัวอย่างเช่น ไอโอดีนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ในขณะที่ซีลีเนียมและสังกะสีช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเหล่านี้และเสริมสร้างสุขภาพของต่อมไทรอยด์โดยรวม อาหารที่เหมาะสมสามารถให้สารอาหารเหล่านี้ได้ และอาจช่วยบรรเทาอาการของภาวะไทรอยด์ทำงานน้อยบางอย่าง ช่วยให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและสมดุลมากขึ้น

• ไอโอดีน

เพราะไอโอดีนเป็นสารอาหารสำคัญในระบบการทำงานของต่อมไทรอยด์ ที่จะช่วยให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนต่างๆ ได้เป็นปกติ ไอโอดีนจะมากในอาหารทะเลจำพวก ปลา หอยกาบ หอยนางรม กุ้ง หรือแม้แต่อาหารประเภทอื่นๆ เช่น ไข่ กระเทียม เห็ด และเมล็ดงา ก็มีไอโอดีนมากเช่นกัน

• สังกะสี

สังกะสีเป็นธาตุที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับระดับฮอร์โมนไทรอยด์ เพราะไม่ว่าจะเป็นโรคไฮโปไทรอยด์ หรือ ไฮเปอร์ไทรอยด์ ต่างก็มีสาเหตุจากการขาดสังกะสีเหมือนกัน ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคไทรอยด์จึงควรรับประทานอาหารที่มีธาตุสังกะสีให้มากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ควรอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ ซึ่งต้องให้แพทย์เป็นผู้พิจารณา อาหารที่มีสังกะสีสูงก็มีหลากหลาย เช่น อาหารจำพวกเนื้อวัว เนื้อแกะ หอยนางรม ถั่วเหลือง ถั่ววอลนัท เมล็ดทานตะวัน และธัญพืช

• ธาตุเหล็ก

เมื่อร่างกายขาดธาตุเหล็กจะทำให้ความสามารถในการทำงานของต่อมไทรอยด์ลดลง จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องบริโภคอาหารที่มีธาตุเหล็กอย่างเพียงพอ สำหรับอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงจะเป็นอาหารจำพวกเครื่องในสัตว์ ตับ เลือด ผักโขม แครอท ฟักทอง ถั่วเหลือง ถั่วขาว รวมถึงเมล็ดฟักทองด้วย

• สารต้านอนุมูลอิสระ

สารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินเอ วิตามินอี และวิตามินซี จะช่วยให้ต่อมไทรอยด์ต่อสู้กับการถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระได้ และยังช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของต่อมไทรอยด์ได้อีกด้วย ซึ่งอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี องุ่น หน่อไม้ฝรั่ง ชาเขียว ผักกาดหอม ถั่วเปลือกแข็ง และธัญพืชชนิดต่างๆ

• วิตามินบี

วิตามินเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะวิตามินบี 2, บี 3 และบี 6 ที่มีความจำเป็นต่อร่างกายมาก โดยเฉพาะกับระบบการทำงานของต่อมไทรอยด์ นอกจากนี้วิตามินบียังมีหน้าที่สำคัญในการช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมน T4 ซึ่งเป็นฮอร์โมนไทรอยด์ชนิดหนึ่ง อาหารที่มีวิตามินบีสูง เช่น ปลา นม เห็ด ไข่แดง เครื่องในสัตว์ ตับ ถั่ว อัลมอนด์ และธัญพืชต่างๆ

ของทานเล่นที่ช่วยฟื้นฟูไทรอยด์ต่ำ

• สาหร่าย: แหล่งไอโอดีนจากธรรมชาติ ไอโอดีน

มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ และสาหร่ายทะเล ได้แก่ เคลป์ โนริ และดัลส์ เป็นหนึ่งในแหล่งธรรมชาติที่ดีที่สุด การขาดไอโอดีนเป็นสาเหตุที่พบบ่อยของปัญหาไทรอยด์ทั่วโลก ดังนั้นการเพิ่มสาหร่ายทะเลเข้าไปในอาหารของคุณจึงเป็นประโยชน์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสาหร่ายทะเลมีไอโอดีนสูง ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อหลีกเลี่ยงไอโอดีนที่มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้ปัญหาไทรอยด์รุนแรงขึ้นได้

• ถั่ว: แหล่งพลังของซีลีเนียม

ซีลีเนียมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกระตุ้นฮอร์โมนไทรอยด์ และถั่วบราซิลเป็นหนึ่งในแหล่งแร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด ซีลีเนียมยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องต่อมไทรอยด์จากการถูกทำลาย ถั่วบราซิลเพียงสองสามเม็ดต่อวันก็ให้ซีลีเนียมมากกว่าปริมาณที่แนะนำ ดังนั้นเพียงกำมือเล็กๆ ก็เพียงพอแล้ว

• โยเกิร์ต: โพรไบโอติกส์และไอโอดีน

โพรไบโอติกส์ช่วยเสริมสร้างสุขภาพลำไส้ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันมากขึ้นว่าเป็นสิ่งจำเป็นต่อสุขภาพของต่อมไทรอยด์ โยเกิร์ตเป็นแหล่งโพรไบโอติกส์ชั้นยอด อีกทั้งยังอุดมไปด้วยไอโอดีน ลำไส้ที่แข็งแรงสามารถปรับปรุงการดูดซึมสารอาหารของร่างกาย ช่วยให้ต่อมไทรอยด์ทำงานดีขึ้น

• ไข่: สารอาหารครบถ้วน

ไข่มีไอโอดีนและซีลีเนียม จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสุขภาพของต่อมไทรอยด์ โดยเฉพาะไข่แดงซึ่งเป็นบริเวณที่สารอาหารเหล่านี้เข้มข้นมากที่สุด ดังนั้นควรรับประทานไข่ทั้งฟองเพื่อประโยชน์สูงสุด

• เบอร์รี่: สารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดการอักเสบ

เบอร์รี่อย่างบลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ และราสเบอร์รี่ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยลดการอักเสบและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน การอักเสบเรื้อรังอาจทำให้อาการไทรอยด์ต่ำแย่ลง ดังนั้นการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เบอร์รี่ จึงเป็นประโยชน์

• เมล็ดฟักทอง: สังกะสีและแมกนีเซียม

เมล็ดฟักทองเป็นแหล่งสังกะสีชั้นยอด ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญในการกระตุ้นฮอร์โมนไทรอยด์และควบคุมระดับฮอร์โมน TSH (thyroid-stimulating hormone) การขาดสังกะสีอาจทำให้อาการไทรอยด์ทำงานน้อยแย่ลง ดังนั้นการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสังกะสี เช่น เมล็ดฟักทอง จึงสามารถช่วยได้

• แอปเปิ้ล: ไฟเบอร์และคุณสมบัติในการล้างพิษ

แอปเปิลเป็นแหล่งไฟเบอร์ที่ดี ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารและช่วยกำจัดสารพิษที่อาจรบกวนการทำงานของต่อมไทรอยด์ นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและง่ายต่อการเพิ่มเข้าไปในอาหารประจำวันของคุณ

อาหารที่ควรระวัง-หลีกเลี่ยงรับประทาน

อาหารบางชนิดอาจรบกวนการทำงานของต่อมไทรอยด์ โดยเฉพาะถ้ารับประทานในปริมาณมาก:

• ผักตระกูลกะหล่ำ (บรอกโคลี กะหล่ำปลี กะหล่ำดาว)

ผักเหล่านี้มีสารประกอบที่อาจรบกวนการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์หากรับประทานดิบในปริมาณมาก อย่างไรก็ตาม การปรุงอาหารจะช่วยลดผลกระทบนี้ลงได้ ดังนั้นจึงสามารถรับประทานแบบปรุงสุกได้

• ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง

ถั่วเหลืองอาจรบกวนการดูดซึมฮอร์โมนไทรอยด์ ดังนั้นจึงควรบริโภคถั่วเหลืองในปริมาณที่พอเหมาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังรับประทานยาเกี่ยวกับไทรอยด์อยู่

• อาหารแปรรูปและน้ำตาล

อาหารแปรรูปมักมีไขมันและน้ำตาลที่ไม่ดีต่อสุขภาพสูง ซึ่งอาจนำไปสู่การอักเสบและน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น การจำกัดอาหารเหล่านี้สามารถช่วยปรับปรุงการทำงานของต่อมไทรอยด์และสุขภาพโดยรวมให้ดีขึ้นได้

เคล็ดลับไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพไทรอยด์

นอกจากการรับประทานอาหารที่สมดุลแล้ว พฤติกรรมการใช้ชีวิตบางประการสามารถสนับสนุนสุขภาพต่อมไทรอยด์ได้

• การออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายสามารถกระตุ้นการเผาผลาญและช่วยจัดการกับอาการของภาวะไทรอยด์ทำงานน้อย เช่น ความเหนื่อยล้าและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น

• การจัดการความเครียด

ความเครียดเรื้อรังสามารถรบกวนการทำงานของต่อมไทรอยด์ได้ การฝึกเทคนิคการลดความเครียด เช่น การทำสมาธิ การหายใจเข้าลึกๆ และการใช้เวลาอยู่กลางแจ้ง อาจเป็นประโยชน์

• การนอนหลับเพียงพอ

การนอนหลับที่มีคุณภาพมีความสำคัญต่อการควบคุมฮอร์โมน ดังนั้นควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7-9 ชั่วโมงทุกคืน

นอกจาก ‘การดูแลเรื่องอาหารเพื่อให้ต่อมไทรอยด์ทำงานได้ดี’ แล้ว การดูแลสุขภาพก็สำคัญ เพราะถึงแม้ว่าอาหารเหล่านี้จะช่วยให้ต่อมไทรอยด์ทำงานได้ดี แต่หากเริ่มมีอาการหรือรู้สึกว่าเกิดความผิดปกติใดๆ ขึ้นในร่างกาย วิธีที่ดีที่สุดก็คือการพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับการวินิจฉัยโรคให้ชัดเจน จะได้ทำการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป

อ้างอิง: โรงพยาบาลพญาไท , Continental Hospital