ลุยวิจัยสู้ 'โรคหัวใจ-เมแทบอลิก' ลดภาระสุขภาพ พบแนวโน้มผู้ป่วยพุ่ง

ลุยวิจัยสู้ 'โรคหัวใจ-เมแทบอลิก' ลดภาระสุขภาพ พบแนวโน้มผู้ป่วยพุ่ง

ผนึกกำลังวิจัยครั้งสำคัญ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ คณะแพทยศาสตร์ มธ. ร่วมกับ โนโว นอร์ดิสค์ MOU ขยายงานวิจัยทางคลินิก มุ่งจัดการ ‘โรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก’ ลดภาระสุขภาพในประเทศไทย

KEY

POINTS

  • รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ คณะแพทยศาสตร์ มธ. และโนโว นอร์ดิสค์  MOU ขับเคลื่อนงานวิจัยทางคลินิกในการสร้างนวัตกรรมดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจ หลอดเลือดและโรคทางเมแทบอลิก
  • ธรรมศาสตร์มีความพร้อมด้านบุคลากร มีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และดำเนินการตามจริยธรรม ความร่วมมือพัฒนางานวิจัย ช่วยคนไทยเข้าถึงยาและนวัตกรรมทางการแพทย์มากขึ้น
  •  ปีพ.ศ. 2562 - 2566 โนโว นอร์ดิสค์ได้ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเป็นเงิน 370 ล้านบาท ในการจัดการกับภาวะสุขภาพที่ซับซ้อน เช่น โรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก

“โรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก”เป็นปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง โดยข้อมูลจากสมาพันธ์วันหัวใจโลก (World Heart Federation) ระบุว่า โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นสาเหตุอันดับ 1 การเสียชีวิตทั่วโลก โดยในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดมากถึง 20.5 ล้านคน และ 1 ใน 5 เป็นการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรที่สามารถป้องกันได้ จากระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ (HDC) ปี 2568 ประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสมโรคหัวใจและหลอดเลือดมากถึง 2.6 แสนคน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละปี

ขณะที่ โรคเมแทบอลิก (หรือภาวะดื้ออินซูลิน) เป็นกลุ่มความผิดปกติที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด  และภาวะอ้วนลงพุง (central obesity) ซึ่งโรคเมแทบอลิกเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหลอดเลือดสมอง 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ลดอ้วน สยบเบาหวาน น้ำหนักลด 10-15% ช่วยป้องกันโรคร้ายได้

โภชนาการ ตัวช่วยสู้ 'เบาหวาน' ปรับอาหาร ลดอ้วน ลดน้ำหนัก 10%

MOU วิจัยคลินิก ลดเบาหวาน-อ้วน ต้นเหตุโรคหัวใจ 

วันนี้ (11 พ.ย.2568) โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อขยายขอบเขตงานวิจัยทางคลินิก ภายในโรงพยาบาล โดยต่อยอดจากความสำเร็จของความร่วมมือเดิมที่พัฒนาการดูแลโรคอ้วนและโรคเบาหวานอย่างครบวงจรของโรงพยาบาลฯ บันทึกความตกลงกฉบับนี้มีเป้าหมายหลักในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในการบริหารจัดการและการรักษา โรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก ในประเทศไทย

โดยการลงนามฉบับใหม่  จัดขึ้นภายใต้ชื่อ“Together Towards Tomorrow: Shaping the Future of Cardio-Metabolic Care Through Clinical Research” หรือ “ก้าวไปด้วยกันสู่วันพรุ่งนี้: กำหนดอนาคตการดูแลโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิกผ่านงานวิจัยทางคลินิก” จัดขึ้นที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นสถาบันชั้นนำที่ตั้งอยู่ในเขตปริมณฑลของกรุงเทพมหานคร นับเป็นการขยายความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างสององค์กร

ทั้งนี้ การลงนามความร่วมมือเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีประชากรมากกว่าร้อยละ 45 ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน และอย่างน้อย 6.1 ล้านคนที่เป็นโรคเบาหวาน ปัญหาดังกล่าวไม่เพียงสร้างภาระด้านสุขภาพ แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วประเทศ

ลุยวิจัยสู้ 'โรคหัวใจ-เมแทบอลิก' ลดภาระสุขภาพ พบแนวโน้มผู้ป่วยพุ่ง

"ธรรมศาสตร์" เน้นดูแลผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง

รศ. นพ. ดิลก ภิยโยทัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า MOU ฉบับนี้แสดงให้เห็นถึงก้าวสำคัญในการผนึกกำลังและความพยายามอันยาวนานของเราเพื่อพัฒนาการดูแลโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก ในประเทศไทย  ซึ่งโรคดังกล่าว ถือเป็นปัญหาสาธารณสุขของไทย และรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มีหลักในการดูแลผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง และการดูแลรักษา ป้องกันโรค มีความจำเป็นต้องอาศัยงานวิจัย และเทคโนโลยีใหม่ๆ รพ.มีความพร้อมด้านบุคลากรทางการแพทย์ที่มีศักยภาพ และมีการศึกษางานวิจัยใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างนวัตกรรมในการดูแลรักษา ป้องกันโรค และความปลอดภัยให้แก่ผู้ป่วย

“ความพยายามของทางโรงพยาบาลในการรับมือกับโรคเบาหวานและโรคอ้วนได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการร่วมมือกันวิจัยเพื่อสร้างคุณค่าที่สำคัญในการจัดการกับสองโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) นี้ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติมั่นใจที่จะยกระดับความเชี่ยวชาญในสาขานี้ ในขณะที่เราก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นการมอบการดูแลแบบองค์รวมที่ดีและปลอดภัยยิ่งขึ้นแก่ประชาชน"

ลุยวิจัยสู้ 'โรคหัวใจ-เมแทบอลิก' ลดภาระสุขภาพ พบแนวโน้มผู้ป่วยพุ่ง

สร้างอนาคตที่ดีกว่าในการดูแลผู้ป่วย

รศ. พญ. อัจฉรา ตั้งสถาพรพงษ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเพิ่มพูนและต่อยอดองค์ความรู้ผ่านงานวิจัยทางคลินิก เพื่อนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก ที่กำลังเป็นที่น่ากังวลได้อย่างตรงจุด พร้อมกันนี้ ยังเป็นการยกระดับมาตรฐานและสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้แก่ประชากรในประเทศ ด้วยความร่วมมือและทำงานร่วมกันในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างอนาคตที่ปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องเผชิญกับโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิกได้

"ความร่วมมือดังกล่าว เป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัยทางคลินิกในการสร้างนวัตกรรมดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจ หลอดเลือดและโรคทางเมแทบอลิกที่มีแนวโน้มร้ายแรงมากขึ้น ดังนั้น การพัฒนางานวิจัย นวัตกรรมให้ได้มาตรฐานสากล และช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงยา นวัตกรรมทางการแพทย์ในการรักษาโรคหัวใจ หลอดเลือด  และโรคทางเมแทบอลิก โรคอ้วน เบาหวานมีความสำคัญอย่างมาก"

ธรรมศาสตร์มีศูนย์วิจัยทางคลินิกที่มีความพร้อมด้านบุคลากร มีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และดำเนินการตามจริยธรรม มาตรฐานสากลอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน  คณะแพทยศาสตร์ มธ. มีความเร่วมมือใกล้ชิดกับรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นรพ.ขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพสูง มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย  และเมื่อทางบริษัทโนโว นอร์ดิสค์ ถือเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนางานวิจัย และนวัตกรรมในการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก  ความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการดูแลรักษาผู้ป่วย อันนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในวงกว้างอย่างยั่งยืน

ลุยวิจัยสู้ 'โรคหัวใจ-เมแทบอลิก' ลดภาระสุขภาพ พบแนวโน้มผู้ป่วยพุ่ง

ลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาในไทยถึงร้อยละ 25 ต่อปี 

นายจิฮาน เซอร์ดาร์ คิซิลจิก ผู้จัดการทั่วไปของโนโว นอร์ดิสค์ กล่าวว่า โนโว นอร์ดิสค์ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการวิจัยและพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทดลองทางคลินิก เนื่องจากเรามุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่ดีขึ้น โดยในช่วงปี พ.ศ. 2563 - 2566 โนโว นอร์ดิสค์ มีการเติบโตในการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาในประเทศไทย ถึงร้อยละ 25 ต่อปี และระหว่างปีพ.ศ. 2562 - 2566 บริษัทได้ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเป็นเงิน 370 ล้านบาท ในการจัดการกับภาวะสุขภาพที่ซับซ้อน เช่น โรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก

การวิจัยทางคลินิกเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่ขยายองค์ความรู้ร่วมกัน แต่ยังรวมถึงการรับรองความปลอดภัยของผู้ป่วยอีกด้วย เรามั่นใจว่าความร่วมมือครั้งนี้จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทยทุกคน

“การวิจัยทางคลินิก ถือเป็นรากฐานสำคัญของการดูแลสุขภาพ เพื่อให้สามารถนำวิธีการรักษาและระบบการให้ยาแบบใหม่ไปสู่ผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการประเมินทั้งด้านความปลอดภัยและประสิทธิผล การวิจัยทางคลินิกยังสร้างคุณค่าให้แก่ภาคส่วนทางการแพทย์และอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงนวัตกรรมการรักษาที่ล้ำสมัย และสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจผ่านการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและการสร้างงานในท้องถิ่น”

ลุยวิจัยสู้ 'โรคหัวใจ-เมแทบอลิก' ลดภาระสุขภาพ พบแนวโน้มผู้ป่วยพุ่ง

"โรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก" (Cardio Metabolic Diseases) จัดเป็นโรคที่มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดและเป็นสาเหตุของกันและกัน เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง โรคทางหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคไขมันพอกตับ และโรคไตเรื้อรัง การวิจัยทางคลินิกจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการค้นหาวิธีการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อจัดการกับกลุ่มโรคที่มีความซับซ้อนนี้ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว

ฉะนั้น  ความร่วมมือระหว่าง โนโว นอร์ดิสค์ และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ถูกกำหนดให้เป็นกลไกขับเคลื่อนการวิจัยทางคลินิกต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นการค้นหาวิธีการรักษาและการจัดการที่โรคมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับผู้ป่วยที่กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านสุขภาพที่รุนแรง องค์กรทั้งสองมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความรู้ทางการแพทย์และปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสุขภาพผ่านงานวิจัยที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์และนวัตกรรม

ทั้งนี้  ภายในงานยังมีการนำเสนอผลการวิจัยทางคลินิกที่ดำเนินการโดย โนโว นอร์ดิสค์ และนิทรรศการเชิงโต้ตอบที่ให้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการวิจัยโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก เพื่อสร้างความตระหนักรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก

ลุยวิจัยสู้ 'โรคหัวใจ-เมแทบอลิก' ลดภาระสุขภาพ พบแนวโน้มผู้ป่วยพุ่ง