'โรคมโน' ไม่ใช่แค่นิสัย แต่เป็นปัญหาสุขภาพจิตที่ต้องรักษา

หลายครั้งที่เราอาจเคยใช้คำว่า “มโน” ในความหมายทั่วไปที่แปลว่า การคิดไปเอง แต่ในทางจิตวิทยา เมื่อพฤติกรรมการจินตนาการและการพูดไม่จริงนั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนควบคุมไม่ได้ โกหกจนเป็นนิสัย
KEY
POINTS
- โรคมโน หรือ Pathological Liar คือภาวะที่บุคคลสร้างเรื่องราวเท็จได้หลากหลาย ไม่จำกัดหัวข้อ เป้าหมายหลักคือการทำให้ตัวเองดูดี เป็นที่น่าสนใจ หรือเป็นที่น่าเห็นใจ
- ภาวะการโกหกที่ควบคุมไม่ได้ หรือ มโน ไม่ใช่แค่ลักษณะนิสัยที่ไม่ดี แต่เป็นปัญหาทางสุขภาพจิตอย่างหนึ่ง
- การช่วยเหลือที่ดีที่สุดไม่ใช่การจับผิด แต่คือการเข้าใจและสนับสนุนให้ผู้ที่มีอาการได้เข้ารับการประเมินและรักษาจากจิตแพทย์
หลายครั้งที่เราอาจเคยใช้คำว่า “มโน” ในความหมายทั่วไปที่แปลว่า การคิดไปเอง แต่ในทางจิตวิทยา เมื่อพฤติกรรมการจินตนาการและการพูดไม่จริงนั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนควบคุมไม่ได้ และดูเหมือนไม่มีเหตุผลชัดเจน
สิ่งนี้อาจไม่ใช่แค่ลักษณะนิสัย แต่เป็นสัญญาณของ “โรคมโน” ซึ่งเป็นภาวะทางสุขภาพจิตที่ซับซ้อน ผู้ที่มีภาวะนี้มักสร้างเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นมาจนบางครั้งก็หลอกตัวเองไปด้วย การทำความเข้าใจภาวะนี้จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการช่วยเหลือตัวผู้ป่วยและคนรอบข้างให้ก้าวสู่โลกความจริงได้อย่างเหมาะสม
โรคมโน (Pathological Liar) ภาวะทางสุขภาพจิต
พญ.อภิสรา สุวรรณประทีป จิตเวชผู้ใหญ่ โรงพยาบาลแบงค็อก เมนทัล เฮลท์ (BMHH) อธิบายว่าโรคมโน เป็นภาวะการโกหกที่ควบคุมไม่ได้ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Pathological Liar, Pseudologia Fantastica หรือ Mythomania จัดเป็นภาวะทางสุขภาพจิตที่บุคคลคนหนึ่งมีแนวโน้มที่จะพูดโกหกอย่างต่อเนื่องจนเป็นนิสัย โดยอาจโกหกเพื่อหนีปัญหา ดึงดูดความสนใจ เสริมภาพลักษณ์ หรือเติมเต็มสิ่งที่รู้สึกขาดในชีวิต สิ่งที่น่าสนใจคือ ผู้ป่วยมักจะเชื่อในเรื่องราวที่ตนเองสร้างขึ้น จนกระทั่งแยกแยะระหว่างความจริงและจินตนาการไม่ได้
ภาวะนี้พบได้บ่อยในกลุ่มวัยรุ่นตอนปลายไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น และอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางสังคม การทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาการอาจดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงวัยสูงอายุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ป่วยใจ ป่วยจิต ระดับไหน? อย่าปล่อยไว้ ต้องรีบพบแพทย์ ก่อนสาย
กลัวอะไรกันอยู่? 'โรคกลัว Phobia' อาการทางจิตที่ส่งผลต่อชีวิต
ความต่าง Pathological Liar VS Erotomania
แม้ทั้งสองคำจะเกี่ยวข้องกับ “การมโน” แต่ก็เป็นภาวะที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
โรคมโน หรือ Pathological Liar คือภาวะที่บุคคลสร้างเรื่องราวเท็จได้หลากหลาย ไม่จำกัดหัวข้อ เป้าหมายหลักคือการทำให้ตัวเองดูดี เป็นที่น่าสนใจ หรือเป็นที่น่าเห็นใจ เรื่องราวที่สร้างขึ้นอาจเกี่ยวกับความสำเร็จ ความเจ็บป่วย หรือวีรกรรมต่าง ๆ
ในขณะที่ Erotomania เป็นอาการหลงผิดประเภทหนึ่งที่ผู้ป่วยมีความเชื่ออย่างรุนแรงว่ามีบุคคลอื่นกำลังตกหลุมรักตนเอง เหมือนที่ตนเองก็ตกหลุมรักพวกเขาเช่นกัน โดยที่ไม่มีความจริงอยู่เลย
สาเหตุของโรคมโนเกิดจากอะไรได้บ้าง?
- ประสบการณ์วัยเด็กที่ขาดการยอมรับ หรือความรักจากครอบครัว
- ความต้องการหนีจากความจริงที่ไม่อยากเผชิญ
- การเติมเต็มสิ่งที่ขาดผ่านจินตนาการในแบบที่อยากให้เกิดขึ้น
- ปัญหาบุคลิกภาพ เช่น ต่อต้านสังคม หรือขาดความมั่นใจในตัวเอง
นอกจากนี้ โรคมโนมักพบเป็นอาการร่วมกับภาวะทางจิตเวชอื่น ๆ เช่น โรควิตกกังวล (Anxiety Disorder) โรคขาดความยับยั้งชั่งใจ (Impulse Control Disorder) หรือภาวะซึมเศร้า (Depression)
อาการแบบไหนเข้าข่ายโรคมโน
การสังเกตพฤติกรรมของคนใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญ หากมีลักษณะหลายข้อต่อไปนี้ อาจเป็นสัญญาณของภาวะโรคมโน
- โกหกในเรื่องที่ทำให้ตนเองดูน่าสนใจ มีเสน่ห์ หรือน่าประทับใจ
- มักพูดในทางที่ทำให้ตนเองดูดี ถูกต้อง และเหนือกว่าผู้อื่น พร้อมกับพูดในทางลบเกี่ยวกับคนอื่นเพื่อเปรียบเทียบ
- โกหกอย่างต่อเนื่องจนเป็นนิสัย ในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่
- เรื่องราวที่โกหกมีความซับซ้อน มีรายละเอียดมาก เชื่อมโยงกันไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ
- เมื่อถูกจับได้ว่าโกหก จะไม่แสดงความรู้สึกผิด แต่อาจจะโกรธ หรือสร้างเรื่องโกหกเรื่องใหม่ขึ้นมากลบเกลื่อน
การวินิจฉัยในทางการแพทย์
จิตแพทย์จะทำการวินิจฉัยโดยการประเมินสภาวะทางจิตใจอย่างละเอียด ซักประวัติเชิงลึกจากผู้ป่วยและอาจรวมถึงคนใกล้ชิดเพื่อประเมินหารูปแบบพฤติกรรมและค้นหาภาวะทางจิตเวชอื่น ๆ ที่อาจเป็นต้นตอของอาการ เช่น โรคบุคลิกภาพผิดปกติ (Personality Disorder) โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder) หรือภาวะซึมเศร้า (Depression)
วิธีรักษาโรคมโน
- จิตบำบัด (Psychotherapy)
เป็นการปรับพฤติกรรม ความคิด และอารมณ์ ผ่านการพูดคุย การใช้ศิลปะบำบัด หรือดนตรีบำบัด ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยได้สำรวจถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ต้องโกหก เรียนรู้ที่จะยอมรับความจริง และพัฒนาวิธีแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ
- การรักษาด้วยยา
จิตแพทย์อาจพิจารณาให้ยาเพื่อรักษาภาวะอื่น ๆ ที่เกิดร่วมด้วย เช่น ยาต้านเศร้า หรือยาคลายกังวล เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีสภาพจิตใจที่มั่นคงและพร้อมสำหรับการทำจิตบำบัดมากขึ้น
- การช่วยเหลือจากคนรอบข้าง
เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ควรหลีกเลี่ยงการตำหนิตรง ๆ เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยยิ่งสร้างกำแพงและโกหกมากขึ้น ควรใช้การสื่อสารที่แสดงความห่วงใยในตัวตนของเขา และสนับสนุนให้เขาได้พบจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยา เพื่อรับความช่วยเหลือที่ถูกต้อง
โรคปัญหาทางสุขภาพจิตที่ต้องรักษาอย่างถูกต้อง
โรคมโน หรือภาวะการโกหกที่ควบคุมไม่ได้ ไม่ใช่แค่ลักษณะนิสัยที่ไม่ดี แต่เป็นปัญหาทางสุขภาพจิตอย่างหนึ่ง การช่วยเหลือที่ดีที่สุดไม่ใช่การจับผิด แต่คือการเข้าใจและสนับสนุนให้ผู้ที่มีอาการได้เข้ารับการประเมินและรักษาจากจิตแพทย์ เพื่อให้พวกเขาสามารถกลับมาเผชิญหน้ากับความจริงและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง
สำหรับผู้ที่กำลังเผชิญกับปัญหาโรคมโน หรือมีคนใกล้ตัวที่มีอาการดังกล่าว Bangkok Mental Health Hospital (BMHH) โรงพยาบาลที่ดูแลปัญหาทางจิตใจในเครือโรงพยาบาลเวชธานี มีทีมจิตแพทย์และนักจิตวิทยามากประสบการณ์ พร้อมประเมินหาสาเหตุที่แท้จริงและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้
อ้างอิง: โรงพยาบาลแบงค็อก เมนทัล เฮลท์ (BMHH)







