'ไข่มุกป๊อป' ไข่มุกสมุนไพร นวัตกรรมอาหารจาก 'นาอีฟฯ' สตาร์ตอัปรุ่นใหม่

นาอีฟ อินโนว่าฯ สตาร์ตอัปรุ่นใหม่ คว้ารางวัล “The First Runner-up" ในเวที Thai Kitchen 2025 จาก NIA โชว์ "ไข่มุกป๊อป"จาก 5 สมุนไพรไทย นวัตกรรมอาหาร ลดพฤติกรรมเด็กไทยติดหวาน ลดโรคNCDs
KEY
POINTS
- "ไข่มุกป๊อป" ผลิตภัณฑ์สารสกัดจากสมุนไพรหลัก 5 ชนิด ขมิ้นชัน สาหร่ายสีแดง (แอสต้าแซนทีน) พลูคาว เปลือกผลเมล็ดกาแฟ และชาเขียว
- นาอีฟฯ สตาร์ตอัปรุ่นใหม่ ผลักดันการใช้สมุนไพรในผลิตภัณฑ์อาหาร ส่งเสริมเกษตรกรไทยและลดการนำเข้า
- "ไข่มุกป๊อป"ช่วยลดพฤติกรรมติดหวาน ลดโรค NCDs ต่อต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ผ่อนคลายความเครียด บำรุงลำไส้ และสมอง
“จุลินทรีย์ดี เท่ากับสมองสดใส ลำไส้ดี เท่ากับภูมิคุ้มกันแข็งแรง” เจาะกระแสใหม่ของคนรักสุขภาพ กับ “ไข่มุกป๊อป” หรือ “ไข่มุกสมุนไพร” ที่ไม่ได้มีดีเพียง “อร่อย” แต่ยัง “ดีต่อร่างกาย” ผลิตภัณฑ์จากบริษัทสตาร์ตอัปจากรั้วจามจุรี “บริษัท นาอีฟ อินโนว่า จำกัด” ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี Encapsulation เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงการบริโภคสารสกัดจากธรรมชาติ โดยเฉพาะสมุนไพรไทย
ล่าสุดได้รับรางวัล “The First Runner-up" ซึ่งมอบให้แก่ผู้ประกอบการในโครงการ โครงการ Thai Kitchen 2025 : Crafted FoodTech Accelerator Program จาก สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) เวทีที่ให้ผู้ประกอบการนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอาหารจำนวน 10 บริษัท ได้แสดงศักยภาพต่อหน้านักลงทุน ผู้ส่งออก ตัวแทนจากภาครัฐและเอกชนชั้นนำ เพื่อสร้างโอกาสขยายการเติบโตอย่างเป็นรูปธรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
4 สตาร์ตอัปพลิกเกม! โชว์นวัตกรรมสุดล้ำ ดันอาหารไทยสู่ตลาดโลก
NIA เปิดโปรแกรม Thai Kitchen 2025 ปั้นอาหารไทยเป็นฮีโร่ส่งออก
รู้จัก "ไข่มุกป๊อบ"จากสมุนไพรไทย
“นัยพัช นิตยสุทธิ์” นักวิจัย บริษัท นาอีฟ อินโนว่า จำกัด สตาร์ทอัปน้องใหม่ กล่าวว่ารู้สึกดีใจอย่างมากที่ได้รับรางวัลจาก NIA ในครั้งนี้ เพราะการเข้าร่วมในโครงการดังกล่าว ทำให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมสามารถต่อยอดและเข้าสู่ตลาดได้จริงๆ ที่สำคัญทุกคนจะได้เห็นถึงศักยภาพและร่วมผลักดันสมุนไพรไทยที่เกษตรกรปลูกกันมากแต่ขาดตลาด สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างแพร่หลายและมีมูลค่าในตลาดมากขึ้น
“จากการเข้าร่วมโครงการ Thai Kitchen 2025 และได้ร่วมกิจกรรม อบรมกับทาง NIA ส่งผลให้ได้รับการตอบรับที่ดี มีลูกค้าเข้ามาค่อนข้างมาก รวมถึงมองเห็นแนวทางในการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์มากขึ้นด้วยการใช้นวัตกรรม มุมมองด้านการตลาดที่มีหลากหลายมากขึ้น เพื่อให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้นและรองรับความต้องการของผู้บริโภค และได้คู่ค้าใหม่ๆ ดังนั้น หลังจากได้รับทุนจาก NIA จะนำไปต่อยอดด้านการทำมาร์เก็ตติ้ง เนื่องจากทางบริษัทมีเทคโนโลยีพร้อมแล้วแต่ยังขาดความรู้ความสามารถด้านการตลาด และนำไปใช้ในการพัฒนาแพลตฟอร์มให้มีความแข็งแกร่ง สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างแท้จริง”
แก้เด็กไทยติดหวาน ลดผลเสียต่อสุขภาพ
อย่างที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันธุรกิจชานมไข่มุกเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายในทุกช่วงวัยมากขึ้น ตั้งแต่เด็กไปจนผู้สูงอายุต่างก็นิยมชมชอบเครื่องดื่มชนิดนี้ที่มีการผสมส่วนประกอบต่างๆ นานา โดยเฉพาะเมื่อเพิ่มท็อปปิ้ง ลูกเล่นใหม่ๆ อาทิ เพิ่มชีส ช็อคโกแลต หรือบราวน์ชูก้า ที่กำลังมาแรงที่สุด และแน่นอนว่าการดื่มชานมไข่มุกมากเกินปริมาณที่แนะนำต่อวันอย่างต่อเนื่อง ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพของทุกช่วงวัย โดยเฉพาะวัยเด็ก
นักโภชนาการหลายท่านออกมาเตือนการบริโภคชานมไข่มุกมีภัยต่อสุขภาพมากกว่าเรื่องน้ำหนักเกิน เพราะว่าเด็กอาจมีพฤติกรรมติดหวาน ส่วนผสมแฝงทั้งปริมาณน้ำตาลสูงและอาจมีสารกันบูด เป็นภัยต่อสุขภาพกายและอาจสร้างปัญหาขาดสารอาหาร
ด้วยปัญหาดังกล่าว “บริษัท นาอีฟ อินโนว่า จำกัด” Spin-off จากรั้วจามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยการรวมตัวของทีมนักวิจัยจากจุฬาฯในการดำเนินการพัฒนา เทคโนโลยี Encapsulation ซึ่งเป็นการนำสารสกัดจากธรรมชาติมาทำให้อยู่ในรูปแบบนาโนพาร์ติเคิล (nano particles) หรือการห่อหุ้มสารทำให้สารออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น ดูดซึมได้ดีขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อใช้กับร่างกาย โดยสามารถส่งต่อเทคโนโลยีนี้ให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (pitch care)
ดัน 5 สมุนไพรไทยสู่ผลิตภัณฑ์อาหาร
"ไข่มุกป๊อป หรือมุกป๊อป" เป็นผลิตภัณฑ์สารสกัดจากสมุนไพรหลัก 5 ชนิด ได้แก่ ขมิ้นชัน สาหร่ายสีแดง (แอสต้าแซนทีน) พลูคาว เปลือกผลเมล็ดกาแฟ และชาเขียว โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงมุมมองการบริโภคสมุนไพรให้กินง่ายขึ้น เนื่องจากสมุนไพรทั่วไปมีรสขม กลิ่นไม่หอม และไม่เป็นที่นิยมในกลุ่มเด็กหรือวัยรุ่น การนำมานวัตกรรมมาใช้เป็นมุกป๊อป ห่อหุ้มสารสกัดสมุนไพรในรูปแบบเม็ดมุกป๊อป เพื่อลดกลิ่นและรสชาติที่ไม่พึงประสงค์ของสมุนไพร แต่ยังคงสรรพคุณของสมุนไพรไว้ครบถ้วน”นัยพัช กล่าว
สารสกัดสมุนไพรทั้ง 5 ชนิดมาจากประเทศไทยทั้งหมด เพื่อส่งเสริมเกษตรกรไทยและลดการนำเข้าโดยเน้นคุณสมบัติด้านการต่อต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ซึ่งสำคัญต่อสุขภาพของคนไทยที่กำลังเผชิญกับมลภาวะทั้งสิ่งแวดล้อมและคุณภาพอากาศที่ไม่ดี รวมถึงช่วยผ่อนคลายความเครียด บำรุงลำไส้ และสมอง
ส่งเสริมเด็ก-คนไทยดูแลสุขภาพด้วยไข่มุกป๊อป
นัยพัช กล่าวต่อไปว่าอยากให้คนไทย เด็กไทยหันมาดูแลสุขภาพด้วยการลองทางสมุนไพรผ่านรูปแบบทั่วไปที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย แถมมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก เพราะไข่มุกป๊อป จะไม่ผสมแป้ง ไม่มีไม่มีน้ำตาล ไม่มีสารกันเสียแต่ต้องเก็บไว้ในที่เย็น เหมาะกับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่อยากลองกินสมุนไพรแต่กังวลเรื่องรสชาติ
ระยะเวลา 4-5 เดือนในการเปิดตัว “ไข่มุกป๊อป” อยู่ในช่วงทดลองตลาดและหา Early Adopter (ลูกค้ากลุ่มแรกๆ) ซึ่งมีช่องทางจัดจำหน่ายทาง Line Official เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นส่วนผสมที่ลูกค้าสามารถนำไปใส่ในเครื่องดื่มหรือท็อปปิ้งได้ ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพและ Wellness ที่กำลังมาแรง โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ไม่นิยมอาหารหวานหรือแป้งมากนัก รวมถึงมีแผนเจาะตลาด Mass Product เช่น ไอศกรีม หรือเยลลี่ เพื่อนำเสนอทางเลือกที่ Healthy มากขึ้น
ทุนนวัตกรรมจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่
“การสนับสนุนจากภาครัฐและหน่วยงานงานที่เกี่ยว อย่าง NIA มีความสำคัญอย่างมาก เพราะการให้ทุนนวัตกรรม ทุนสนับสนุน และบ่มเพาะสตาร์ตอัป เป็นการเปิดโอกาสให้แก่สตาร์ตอัป และ SME ที่ทุนอาจจะยังไม่เพียง ต้องมีการศึกษางานวิจัย และคิดค้นนวัตกรรมอีกมาก เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์อาหารไทย สมุนไพรไทยสู่ตลาดโลกมากขึ้น” นัยพัช กล่าว
การสร้างเครือข่ายให้แก่สตาร์ทอัป ในการพบปะเพื่อนร่วมงาน รวมถึงกลุ่มสตาร์ทอัปด้วยกัน จะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนทั้งด้านนวัตกรรม และองค์กรความรู้ รวมถึงการทำมาร์เก็ตติ้ง เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น
นัยพัช กล่าวด้วยว่าNIA มีการเปิดกว้างและสร้างสรรค์ชุมชนนวัตกรรมอาหารที่ดี มีเวที หรือกิจกรรมให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้แสดงนวัตกรรม ศักยภาพ แนวทางในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งการมาร่วมในโครงการ Thai Kitchen 2025 ได้สร้างโอกาสในการจับคู่ (matching) ระหว่างผู้ประกอบการรุ่นใหม่กับคู่ค้าที่มีความชัดเจนและตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น อีกทั้งได้รับมุมมอง คำแนะนำ และข้อคิดเห็นจากกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย
“อยากฝากผู้ประกอบการรุ่นใหม่เปิดโอกาสให้ตัวเอง มองหาโอกาสและไอเดียใหม่ๆ จากกิจกรรมในโครงการต่างๆ กล้าที่จะส่งแผนธุรกิจหรือแนวคิดของตนเอง ต้องขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติมและทำความเข้าใจตลาดอยู่สม่ำเสมอ ยิ่งในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะทุกกระบวนการของการเรียนรู้ทำให้เราพัฒนาและแข็งแกร่งขึ้น”นัยพัช กล่าวทิ้งท้าย
ยกระดับผลิตภัณฑ์ด้านอาหารของไทย
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ NIA กล่าวว่าได้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจากผู้ประกอบการฐานนวัตกรรมอาหารไทยทั้ง 10 บริษัท ที่ไม่ใช่เพียงแค่เป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมด้านอาหาร แต่เป็นการยกระดับความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยในการแก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการของตลาดโลก ผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย
โครงการ Thai Kitchen: Crafted FoodTech Accelerator Program เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ 4G ของ NIA คือ Groom-Grant – Growth - Global ที่มุ่งสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็งก่อน แล้วจึงให้การสนับสนุนทางการเงิน พัฒนาการเติบโต และขยายสู่ตลาดสากล
สิ่งที่ทำให้ภาคภูมิใจคือ ผู้ประกอบการเหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ยังนำวัตถุดิบและเทคโนโลยีของไทยมาใช้ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม สามารถนำเสนอ 'เทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของคนไทย' สู่ตลาดโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ ไม่ว่าจะเป็นการใช้วัตถุดิบจากช่อดอกมะพร้าว มะขาม หรือสมุนไพรไทย รวมถึงการประยุกต์เทคโนโลยีในการแปรรูปอาหารคิดค้นด้วยฝีมือคนไทย
3 สตาร์ตอัปรุ่นใหม่ รับรางวัลธุรกิจด้านอาหาร
สำหรับกิจกรรมในวันนี้ คณะกรรมการได้ประกาศผลรางวัลให้แก่ผลงานที่มีศักยภาพโดดเด่นจาก 10 นวัตกรรมที่พร้อมจะเปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรมอาหารไทย โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่
รางวัล The Best Performance Award มอบให้แก่ผู้ประกอบการที่มีการนำเสนอและแสดงศักยภาพทางธุรกิจได้โดดเด่นที่สุด ได้แก่ Molly Ally - Plant-Based Ice Cream ไอศกรีมแพลนต์เบสสูตรพิเศษจากพืชหลายชนิด
รางวัล The First Runner-up ได้แก่ Naive Innova - QminiX Herbal Popping Beads ไข่มุกสมุนไพรด้วยเทคโนโลยีเจลาตินไลซ์
รางวัล The Popular Vote มอบให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับความนิยมสูงสุดตัดสินโดยผู้ร่วมงาน ได้แก่ Eggyday - Egg White Noodles and Rice เส้นไข่ขาวและข้าวไข่ขาวโปรตีนสูง
ทั้งนี้ ยังมีอีก 7 นวัตกรรม ได้แก่
- Chiwadi - Fruii Coconut Gummies เยลลี่น้ำมะพร้าวฟังก์ชันดัชนีน้ำตาลต่ำ เคี้ยวเพลินจากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารกันเสีย ไม่เพิ่มน้ำตาล ตอบโจทย์กลุ่มคนรักสุขภาพที่กำลังเติบโต และเจาะตลาดเวลเนสมูลค่าสูงด้วยผลิตภัณฑ์คลีนเลเบล
- Kemkon Foods - PlantKraprow กะเพราแพลนต์เบสเข้มข้นพร้อมทาน เหมาะสำหรับร้านอาหาร โรงครัวกลาง Quick Service Restaurant - QSR) และการส่งออก นำเสนอรสชาติไทยแท้แบบวีแกนสู่ตลาดอาหารโลก
- AVAGAN - Plant-Based Cheese ผู้บุกเบิกชีสแพลนต์เบสจากเมล็ดมะม่วงหิมพานต์และถั่วเหลือง เนื้อนุ่ม
กลมกล่อม ละลายได้ ไร้แลคโตส ไร้คอเลสเตอรอล เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพและผู้บริโภคที่แพ้แลคโตส - SWP - Mallkam Tamarind Concentrate น้ำมะขามเปียกเข้มข้นที่ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีผสมผสาน ซึ่งช่วยคงรสชาติ กลิ่นหอม และคุณค่าทางโภชนาการได้ใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด
- ASI - Starry Snacks ผลไม้อบแห้งและขนมไทยฟรีซดราย รสชาติไทยแท้ เก็บได้นาน พร้อมส่งออก คงรสชาติและความหอมด้วยเทคโนโลยีฟรีซดรายพิเศษ เช่น ข้าวเหนียวมะม่วงและผลไม้กรอบ พร้อมรับผลิต OEM
- Molly Ally - Plant-Based Ice Cream ไอศกรีมแพลนต์เบสสูตรพิเศษจากพืชหลายชนิด ละมุน เนื้อสัมผัสและรสชาติเหมือนไอศกรีมจากนมวัว ไม่มีคอเลสเตอรอล น้ำตาลต่ำ มีรสชาติให้เลือกมากมาย
- Eggyday - Egg White Noodles and Rice เส้นไข่ขาวและข้าวไข่ขาวโปรตีนสูง พร้อมทาน ไม่ต้องแช่เย็น เหมาะสำหรับผู้รักสุขภาพ ผู้สูงอายุ และกลุ่มฟิตเนส ด้วยโปรตีนสูง ไขมันต่ำ
- Plant Origin - Exx Egg Replacer ผงทดแทนไข่จากรำข้าวไฮโดรไลซ์ โปรตีนย่อยง่ายสำหรับสายคลีน ทดแทนไข่ ทำอาหารได้หลากหลายชนิด ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ เหมาะสำหรับการทำเบเกอรี่และอาหารสำหรับผู้สูงอายุ
- Naive Innova - QminiX Herbal Popping Beads ไข่มุกสมุนไพรด้วยเทคโนโลยีเจลาตินไลซ์ คงคุณประโยชน์และสารสำคัญจากสมุนไพรไทย ปรับแต่งได้ตามต้องการ เพิ่มมูลค่าให้เครื่องดื่มสุขภาพ คาเฟ่ และร้านชา
- Foodle Noodle - Thai Rice Noodles เส้นข้าวไทยสูตรที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ใยอาหารสูง โปรตีนจากพืช จากข้าวไทย 100% ฉลากสะอาด (Clean Label) ปราศจากกลูเตน ส่งออกได้ทั่วโลก เหมาะกับตลาดสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าว สะท้อนถึงการสนับสนุนจาก NIA ที่ไม่ได้เพียงแค่ให้เงินทุน แต่ครอบคลุมถึงโอกาสและทิศทางการขับเคลื่อนนวัตกรรม โดยมีทั้งการให้คำปรึกษาทางธุรกิจ การพัฒนาทักษะการตลาด การเชื่อมโยงเครือข่าย และการสร้างโอกาสการเข้าถึงตลาด
โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐาน การปรับปรุงกระบวนการผลิต การสร้างแบรนด์ที่เข้มแข็ง และการเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายตลาด หลายรายสามารถเพิ่มรายได้และขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ การเข้าร่วมโครงการยังช่วยให้ผู้ประกอบการได้สร้างเครือข่ายกับนักลงทุน ผู้ส่งออก และพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต







