ซัพพอร์ต ‘คนทำงานดูแลผู้สูงอายุ’ ลดอุปสรรค แก้ปัญหาภาวะหมดไฟ

ซัพพอร์ต ‘คนทำงานดูแลผู้สูงอายุ’ ลดอุปสรรค แก้ปัญหาภาวะหมดไฟ

ธรรมศาสตร์ จับมือ อบจ.ปทุมธานี ลดอุปสรรค - แก้ปัญหา ‘ภาวะหมดไฟ’ ใน อสม.- care giver พร้อมพลิกโฉม รพ.สต. เป็นศูนย์การแพทย์ปฐมภูมิ

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.ปทุมธานี) เปิดเวทีรับฟังความต้องการและเสียงสะท้อนจากผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าในการดูแลผู้สูงอายุ จ.ปทุมธานี ประกอบด้วย อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ผู้ให้การดูแล (Caregiver) ตลอดจนตัวแทนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ภายใต้โครงการ “TU Care & Ageing Society ธรรมศาสตร์เพื่อนร่วมทางสังคมสูงวัย” โดยจะนำข้อมูลที่ได้จากเวทีไปวิเคราะห์ และกำหนดเป็นโจทย์การทำงานร่วมกันระหว่างธรรมศาสตร์ กับ อบจ.ปทุมธานี เพื่อสนับสนุนการจัดบริการ ลดอุปสรรคและอำนวยความสะดวกในการดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่ต่อไป

สำหรับเสียงสะท้อนของผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าที่น่าสนใจ อาทิ ความต้องการการสนับสนุนบุคลากรเพื่อสำรวจและจัดทำฐานข้อมูลผู้สูงอายุรายครัวเรือน การฝึกอบรมทักษะโดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีและการสื่อสาร การศึกษาทำวิจัยหาแนวทางให้ อสม. เป็นหนึ่งเดียว ไม่ต่างฝ่ายต่างสังกัดแบบที่ผ่านมา การสร้างหลักสูตรอบรมเสริมพลังให้คนทำงาน การนำนักศึกษาเข้าไปฝึกงานและสร้างประโยชน์ให้ผู้สูงอายุในชุมชน ซึ่งไม่เฉพาะแค่คณะที่เกี่ยวข้องกับด้านสาธารณสุขเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคณะอื่นๆ เช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ ก็สามารถเข้ามาฝึกงานด้วยการนำองค์ความรู้มาออกแบบนวัตกรรมช่วยดูแลผู้สูงวัย รวมไปถึงการสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมกีฬาที่จะส่งผลให้ผู้สูงอายุติดสังคมมีพื้นที่การออกกำลังกายไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหรือห่อเหี่ยวจากการที่ต้องอยู่ลำพังในที่พักอาศัย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

'ธรรมศาสตร์' ปลดแอก 'เดอะแบก'! ปั้นนวัตกรรมรับมือสังคมสูงวัย

'TU Care & Ageing Society' ธรรมศาสตร์กำแพงพิงหลัง ‘สังคมสูงวัย’

ดูแลผู้สูงอายุในชุมชนมีประสิทธิภาพ ขึ้นอยู่กับผู้ปฎิบัติงาน

รศ. ดร.อรรถสิทธิ์ พานแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ของประเทศไทย มีศักยภาพสูง มีความใกล้ชิดและเข้าใจสภาพปัญหา ตลอดจนความต้องการของประชาชนในพื้นที่ นั่นทำให้ อปท. กลายมาเป็นที่พึ่งพิงของประชาชน โดยเฉพาะในสถานการณ์สังคมสูงวัยและบรรยากาศการกระจายอำนาจการจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิให้กับท้องถิ่น เป็นเหตุให้ท้องถิ่นถูกประชาชนคาดหวังมากขึ้น

ดังนั้น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีจิตวิญญาณเรื่องการรับใช้สังคมและประชาชน จึงจัดโครงการ “TU Care & Ageing Society” ขึ้น เพื่อสนับสนุน อปท. ในการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ผ่านการให้บริการวิชาการ การให้บริการสังคม การฝึกอบรมพัฒนาทักษะ และการสื่อสารสังคม

รศ. ดร.อรรถสิทธิ์ กล่าวว่า การดูแลผู้สูงอายุในชุมชนจะมีประสิทธิภาพหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าเป็นสำคัญ ทั้ง อสม. และ caregiver คือหัวใจของการทำงาน ดังนั้นทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันกำหนดนโยบายมุ่งเป้า เพื่อลดอุปสรรคและสนับสนุนผู้ปฏิบัติงานให้ทำงานได้อย่างคล่องตัวและมีความสุขมากที่สุด ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างสุขภาวะดีให้กับผู้สูงอายุในจังหวัดปทุมธานีต่อไป

อย่างไรก็ตาม จากการรับฟังเสียงสะท้อนพบว่า มีผู้ปฏิบัติงานบางส่วนรู้สึกเหนื่อยล้าและอยู่ในภาวะหมดไฟในการทำงาน ซึ่งธรรมศาสตร์จะกลับไปออกแบบกระบวนการทำงานเพื่อให้เกิดการสร้างขวัญกำลังใจและปลุกไฟคนทำงานให้มีพลังในการดูแลผู้สูงอายุต่อไป

ซัพพอร์ต ‘คนทำงานดูแลผู้สูงอายุ’ ลดอุปสรรค แก้ปัญหาภาวะหมดไฟ

ดันจ.ปทุมธานี พลิก รพ.สต. เป็นศูนย์การแพทย์ปฐมภูมิ

พล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า มีบางท่านอาจแสดงความคิดเห็นว่าการถ่ายโอน รพ.สต. คือการสร้างภาระให้แก่ อบจ. เพราะการเป็นส่งมอบโดยไม่ให้งบประมาณมาด้วย แต่ส่วนตัวขอยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เป็นภาระและ อบจ.ปทุมธานี ยินดีที่จะรับการถ่ายโอน รพ.สต. เข้ามา และจะพยายามทำให้ จ.ปทุมธานี กลายเป็นจังหวัดแรกในประเทศไทยที่มีการพัฒนา รพ.สต. ไปสู่ศูนย์การแพทย์แบบปฐมภูมิ ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มต้นดำเนินการไปแล้ว 

ทั้งนี้ ส่วนตัวให้ความสำคัญกับประเด็นสุขภาพและการดูแลผู้สูงอายุอย่างจริงจัง และในอนาคตอันใกล้ยังมีอีกหลายสิ่งที่กำลังจะดำเนินการ อาทิ การสนับสนุนอุปกรณ์การตรวจวัดความดันและเบาหวานให้กับ อสม. โดยส่งมอบให้กับ รพ.สต. ที่อยู่ในสังกัด อบจ.ปทุมธานี และให้ อสม. สามารถมาเบิกใช้ได้ รวมไปถึงการร่วมมือกับสถานบันการศึกษาอย่างวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานีเพื่อซ่อมกายอุปกรณ์ที่เสียหายให้กลับมาใช้งานได้และส่งคืนให้กับผู้ป่วย สิ่งเหล่านี้คือความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการดูแลสุขภาพให้กับประชาชนในพื้นที่

ซัพพอร์ต ‘คนทำงานดูแลผู้สูงอายุ’ ลดอุปสรรค แก้ปัญหาภาวะหมดไฟ

พล.ต.ท. คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า ภาพความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะไม่ใช่แค่กิจกรรมที่เกิดขึ้นในวันนี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงอนาคตด้วย โดยที่ผ่านมาธรรมศาสตร์กับ อบจ.ปทุมธานี มีการประสานการทำงานร่วมกันมาอย่างดีเยี่ยม และไม่เพียงแค่การดูแลผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังรวมไปการดูแลเด็กและเยาวชนไม่ให้เสียชีวิตจากการจมน้ำ และปัญหาอื่นๆ ในทุกช่วงวัย

รศ. ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ บริพัตร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ประเทศไทยอาจเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรกๆ ที่ก้าวสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอด ทิศทางของธรรมศาสตร์ภายใต้สถานการณ์นี้คือการผลักดันให้มหาวิทยาลัยกลายเป็นสถาบันผู้สูงอายุ เพื่อให้การสนับสนุนทางองค์ความรู้และตอบสนองความต้องการของประเทศผ่านการทำงานวิจัยเชิงสังคม สำหรับรูปแบบการทำงานที่เกิดขึ้นในวันนี้ จึงจะเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการพัฒนาต่อยอดความร่วมมือการดูแลสุขภาพให้แก่ผู้สูงอายุใน จ.ปทุมธานี 

ซัพพอร์ต ‘คนทำงานดูแลผู้สูงอายุ’ ลดอุปสรรค แก้ปัญหาภาวะหมดไฟ

โครงการ TU Care & Ageing Society เป็นกลไกที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มุ่งหวังจะเป็นแพลตฟอร์มสนับสนุนการดูแลผู้สูงอายุทั้งการให้บริการวิชาการ การให้บริการสังคม การฝึกอบรมพัฒนาทักษะต่างๆ และการสื่อสารสังคม โดยจะระดมทรัพยากรและใช้วิธีทำงานแบบข้ามสายงาน ตามค่านิยม ONE TU เพื่อให้เกิดศักยภาพสูงสุดในการทำงาน

สำหรับปี 2568 ซึ่งเป็นเฟสแรกจะทำงานร่วมกับ จ.ปทุมธานี โดยในระดับนโยบายมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะจัดบริการวิชาการให้กับท้องถิ่นในภาพใหญ่ และโฟกัส อบจ.ปทุมธานี เพื่อแสวงหาความต้องการและ Pain Point การดูแลผู้สูงอายุระดับชุมชน จากนั้นจะตกผลึกเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายให้กับ อบจ.ปทุมธานี และเป็นโจทย์ให้ธรรมศาสตร์นำทรัพยากรเข้าไปสนับสนุนการแก้ไขปัญหาต่อไปส่วนในระดับพื้นที่ จะนำองค์ความรู้ คณาจารย์ และงานวิจัย เข้าไปสร้างคน สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่ทำหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุใน จ.ปทุมธานี ต่อไป

ซัพพอร์ต ‘คนทำงานดูแลผู้สูงอายุ’ ลดอุปสรรค แก้ปัญหาภาวะหมดไฟ

ซัพพอร์ต ‘คนทำงานดูแลผู้สูงอายุ’ ลดอุปสรรค แก้ปัญหาภาวะหมดไฟ

ซัพพอร์ต ‘คนทำงานดูแลผู้สูงอายุ’ ลดอุปสรรค แก้ปัญหาภาวะหมดไฟ