ดำเนินชีวิตประจำวันอย่างไร จึงจะเป็น Super Ager (3)

ดำเนินชีวิตประจำวันอย่างไร จึงจะเป็น Super Ager (3)

ข้อสรุปที่สำคัญที่สุดของหนังสือ Super Ager โดย นพ.โทโพล คือการค้นพบว่า คนที่จะมีอายุยืนถึง 90 หรือ 100 ปี โดยปราศจากโรคภัยไข้เจ็บนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับยีนแต่ขึ้นอยู่กับการดำเนินชีวิต

ดังนั้น การจะเป็น Super Ager จึงเป็นสิ่งที่เราเลือกจะทำให้เกิดขึ้น หรือไม่ทำให้เกิดขึ้นก็ได้ 

ประเด็นคือ เราจะนำความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการหลีกเลี่ยงโรคภัยไข้เจ็บที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้สูงวัยมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร? นพ.โทโพลได้ให้คำแนะนำที่ชัดเจนและสามารถปฏิบัติได้จริงดังนี้

๐ การออกกำลังกายแบบ “Super Ager”

การออกกำลังกายเป็น “ยา” ที่ทรงพลังที่สุดในการต่อต้านการแก่ชรา แต่แนวทางเปลี่ยนไปจากเดิม ที่มักจะเน้นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก เพื่อป้องกัน การเป็นโรคหัวใจ (ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อ) และการทำให้ปอดแข็งแรง มาเป็นการให้ความสำคัญที่เท่าเทียมกันกับการออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Resistance Training หรือ Weight Training) ซึ่งเป็นการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อให้สามารถเอาชนะแรงต้านจากน้ำหนัก ด้วยการใช้ดัมเบล การยกเวท ใช้ยางยืด หรือแม้แต่การใช้น้ำหนักจากร่างกายของเราเอง

การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมีความสำคัญมากกว่าที่เคยคิด การวิจัยเชิงระบบในปี 2565 พบว่า การทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับการลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ และช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกที่ลดลงตามอายุ กล่าวคือ ผู้สูงอายุกล้ามเนื้อจะเสื่อมและอ่อนแรง ทำให้เสี่ยงกับการหกล้ม และหากกระดูกไม่แข็งแรง กระดูกก็จะหัก ทำให้ร่างกายพิการได้โดยง่าย

นพ.โทโพลแนะนำการออกกำลังกายที่บ้าน (ค่อยๆ ทำ ไม่หักโหม โดยอาจเริ่มเพียงครั้งละ 15-20 นาที แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลา ไปจนถึง 45-50 นาทีต่อครั้งและ 3 ครั้งต่อสัปดาห์) เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง เช่น

- แพลงค์ (planks) เป็นการออกกำลังกาย กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core muscle)

- ท่าออกกำลังกายที่บริหารต้นขา (lunges) เพื่อให้ต้นขาแข็งแรง

 

- สควอท (squats) เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาทั้งหมดตั้งแต่ส่วนสะโพก ส่วนต้นขาด้านหน้า ต้นขาด้านหลัง รวมถึงกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวและกล้ามเนื้อหลัง

- ซิตอัป (sit up) บนลูกบอลยาง เพื่อบริหารกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวโดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่หน้าท้อง

- การใช้ยางยืดออกกำลังกายกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของแขน

- การฝึกสมดุลบนแผ่นโฟม

แรงบีบมือ (grip strength) เป็นค่าบ่งชี้ถึงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมือ ซึ่งบอกถึงสภาพความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ของร่างกาย งานวิจัยพบว่า แรงบีบของมือเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดของการมีสุขภาพที่ดีและการมีอายุที่ยืนยาว

มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า การออกกำลังกาย 1 นาทีจะช่วยทำให้มีชีวิตที่มีสุขภาพดี 5 นาที และสำหรับการออกกำลังกายแบบระยะสั้นแต่เข้มข้นสูง (High Intensity Interval Training หรือ HIIT) จะช่วยทำให้มีชีวิตที่มีสุขภาพดี 7 นาที

๐โภชนาการแบบ “Lifestyle Plus”

การกินอาหารของ Super Ager ไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งที่กิน แต่รวมถึงเวลาที่กิน การหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปสูง และสิ่งแวดล้อมด้วย

“อาหารแปรรูปขั้นสุด” หรือ Ultra-Processed Food (UPF) คืออาหารถูกทำให้มีรสชาติดี กินง่าย สะดวก แต่แทบไม่มีสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย อาหารแปรรูปสูงเป็นภัยอันตรายต่อการแก่ตัวอย่างมีสุขภาพดี นพ.โทโพลจึงเน้นการเลือกอาหารที่ผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด การได้รับสารอาหารจากอาหารธรรมชาติย่อมจะดีกว่าการกินอาหารเสริม ยกเว้นในบางกรณีเช่นการขาดวิตามินดี หรือการขาดวิตามินบีบางประเภทสำหรับผู้ที่กินอาหารมังสวิรัติ

การควบคุมเวลาการกินส่งผลต่อการนอนหลับและการฟื้นฟูร่างกาย นพ.โทโพลพบว่า การกินมื้อใหญ่หรือการออกกำลังกายในช่วงเย็นส่งผลเสียต่อการนอนหลับของเขา จึงแนะนำให้ควบคุมการกินแบบจำกัดเวลา (Time-Restricted Eating) เช่น การกินอาหารในช่วงเวลา 7:00 ถึง16:00 ของทุกวัน เป็นต้น หากทำได้ลำบากก็ขอให้กินอาหารเย็นให้เร็วที่สุดและจำกัดปริมาณให้น้อยที่สุด การดื่มน้ำส่วนใหญ่ในช่วงต้นวันจะช่วยลดการตื่นกลางคืน ส่งผลให้นอนหลับได้ดีขึ้น

การมีสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ คือการหลีกเลี่ยงมลพิษและสารเคมี เช่น มลพิษทางอากาศ ไมโครพลาสติกในอาหารและน้ำดื่ม สารเคมี “Forever chemicals” (PFAS) ที่ไม่ย่อยสลายและการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและเครื่องสำอางที่ปลอดภัย

การสัมผัสกับธรรมชาติมีผลต่อสุขภาพจิตและการลดความเครียด ซึ่งส่งผลโดยตรงในการทำให้จิตใจเบิกบานและร่างกายแข็งแรง นอกจากนั้น การนอนหลับที่มีปริมาณเพียงพอและมีคุณภาพก็จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง สืบเนื่องจากการค้นพบระบบ glymphatic ซึ่งเป็นระบบชำระล้างที่ทำงานเฉพาะในช่วงของการนอนหลับลึก (deep sleep) เพื่อชะล้างของเสียออกจากสมอง

การเป็น Super Ager ไม่ใช่เรื่องของความโชคดีหรือพันธุกรรมที่ดี แต่เป็นเรื่องของการเลือกใช้ชีวิตอย่างมีสติและยึดมั่นในหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ การจะกำหนดชีวิตให้ยืนยาวและมีสุขภาพดีนั้น เราเป็นผู้ลิขิตเอง ไม่มีเวลาไหนที่สายเกินไปสำหรับการเริ่มต้น ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ คุณสามารถเปลี่ยนแปลงเส้นทางสุขภาพของตนเองได้ด้วยการปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตให้ถูกต้องตั้งแต่วันนี้ การจะเป็น “Super Ager” เป็นสิ่งที่เข้าถึงได้สำหรับคนทุกวัย