รพ.ขนาดกลาง 'พระรามเก้า' ปรับกลยุทธ์ดึงผู้ป่วยต่างชาติ อาหรับ CLMV

จากปัจจัยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก ทำให้ผู้ป่วยมีความระมัดระวังค่าใช้จ่ายมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยต่างชาติกลุ่มชนชั้นกลางที่มีกำลังทรัพย์ระดับหนึ่ง เลือกที่จะใช้บริการในโรงพยาบาลขนาดกลางในประเทศไทย
"โรงพยาบาลขนาดกลางในประเทศไทย" มีการรักษาพยาบาลมาตรฐานระดับโลก ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก และมีบริการที่ไม่แตกต่างกันมากนัก
“นพ. วิทยา วันเพ็ญ” รองกรรมการผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า โรงพยาบาลขนาดกลางอย่างพระรามเก้ามีการรักษาพยาบาลมาตรฐาน เข้าถึงได้ง่าย และไม่ได้มีค่าใช้จ่ายสูงมาก สามารถรองรับลูกค้ากลุ่ม Medium Class ที่มีกำลังทรัพย์ระดับหนึ่งให้เข้าถึงได้
ผู้ป่วยต่างชาติส่วนใหญ่มักจะมาเพื่อรักษากลุ่มโรคที่ยากและซับซ้อน ซึ่งอาจรักษาได้ยาก หรือต้องรอคิวนานในประเทศ โดยเฉพาะในด้านที่โรงพยาบาลเชี่ยวชาญ เช่น การปลูกถ่ายไต โรคหัวใจที่ซับซ้อน การดูแลอาการปวดและฟื้นฟู (ศูนย์ Fix & Fit) การดูแลภาวะทางจิตใจและสมอง (ด้วยเครื่อง TMS) และการผ่าตัดกระดูกสันหลัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
รพ.พระรามเก้า ลุย Expo Osaka ชูจุดแข็ง 'ปลูกถ่ายไต' แก้ปัญหาญี่ปุ่นคิวยาว
หยุด 'โรคตาขี้เกียจ' ในเด็ก บันไดขั้นแรก สู่พัฒนาการก่อนวัยเรียน
ตั้งเป้ารุกตลาดลูกค้าต่างประเทศเพิ่ม
นอกจากนี้ ยังมีการมาเพื่อตรวจสุขภาพทั่วไปและส่องกล้องด้วย การบริการที่เป็นเลิศ ความเชี่ยวชาญของบุคลากร และความสะดวกสบายของระบบการรักษา (เช่น ระบบ Home Care และ Telemedicine) ก็เป็นปัจจัยดึงดูดด้วยเช่นกัน
สำหรับผู้ป่วยต่างชาติในอดีต มีกลุ่มผู้ป่วยหลักคือ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) จีน และญี่ปุ่น ปัจจุบันกลุ่มผู้ป่วยจากตะวันออกกลาง (Middle East) ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีที่ผ่านมา และกลายเป็นกลุ่มอันดับหนึ่งในปี 2024 นี้ ตามมาด้วยเมียนมาและจีน โรงพยาบาลตั้งเป้าหมายที่จะขยายกลุ่มลูกค้าไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ทั้งในยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย โดยเน้นการให้บริการแบบครบวงจร (Integrated Service) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วยและญาติอย่างเต็มที่ สอดคล้องกับวัฒนธรรมของผู้ป่วย ปัจจุบันรายได้จากกลุ่มลูกค้าต่างชาติคิดเป็นประมาณ 20 ถึง 25% ของรายได้ทั้งหมดของโรงพยาบาล
ไตรมาสแรกของปี 2025 กลุ่มผู้ป่วยหลักเรียงตามรายได้คือ อาหรับ เมียนมา จีน ส่วนในปี 2024 เป็นกลุ่ม เมียนมา จีน กัมพูชา การเติบโตของตลาดอาหรับส่วนหนึ่งมาจากการเปิดตลาดและการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในประเทศอื่นๆ เช่น เมียนมา โรงพยาบาลเริ่มมีผู้ป่วยจากประเทศอื่นๆ เข้ามา เช่น มีเคสแรกของการปลูกถ่ายไตจากบังคลาเทศ และคาดหวังว่าในอนาคตจะมีผู้ป่วยสำหรับการปลูกถ่ายไตจากประเทศที่หลากหลายมากขึ้น เช่น อเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย
ปรับกลยุทธ์ ดึงดูดผู้ป่วยต่างชาติ
ปัจจุบันโรงพยาบาลขนาดกลางได้ปรับกลยุทธ์ในการดึงดูดผู้ป่วยต่างชาติ คือการนำเสนอศักยภาพของโรงพยาบาลที่เทียบเท่าโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในประเทศไทย และสามารถให้บริการที่ตรงกับความต้องการของผู้ป่วยแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้บริการแบบครบวงจร (Integrated Service) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วยและญาติอย่างเต็มที่ ซึ่งรวมถึงบริการล่ามที่ดูแลเฉพาะสำหรับคนไข้ญี่ปุ่นและชนชาติอื่นๆ เช่น บังกลาเทศ อาหรับ CLMV เพื่อให้ได้รับการดูแลตามวัฒนธรรมที่คุ้นชิน
โดยเฉพาะเน้นการให้บริการตามวัฒนธรรมของแต่ละชาติ มีบริการห้องละหมาดและอาหารฮาลาลสำหรับผู้ป่วยชาวอาหรับ รวมถึงเมนูอาหารของแต่ละประเทศสำหรับผู้ป่วยที่แอดมิท ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเหมือนได้รับการดูแลแบบครอบครัว อำนวยความสะดวกด้านวีซ่า และหากผู้ป่วยจำเป็นต้องขยายระยะเวลาพำนักในประเทศไทยขณะรักษา สามารถประสานงานกับสถานทูตและ ตม. เพื่ออำนวยความสะดวกในการยื่นต่อวีซ่า โดยที่ผู้ป่วยและครอบครัวไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเอง เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา Medical Tourism ที่ต้องการทางเลือกที่คุ้มค่า







