'CheCKD now' เช็กไตด่วน! คุมความดันสูง คัดกรองเชิงรุก ป้องกันไตวาย

เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ ผนึกกำลังสมาคมความดันโลหิตสูง เปิดตัวโครงการ 'CheCKD now' เสริมสร้างการตรวจคัดกรองไตในผู้ป่วยความดันสูง ป้องกันแต่เนิ่นๆ
โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease หรือ CKD) นับเป็นหนึ่งในปัญหาสาธารณสุขสำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวานและความดันโลหิตสูง ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจากระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ในปีงบประมาณ 2567 ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังกว่า 1.12 ล้านคน และโรคนี้ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงถึง 1.6 ล้านล้านบาทต่อปี การเผชิญหน้ากับปัญหาดังกล่าวจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการ เพื่อสร้างระบบป้องกันและดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน
ข้อมูลสถิติบ่งชี้ว่าในแต่ละวัน มีผู้เสียชีวิตจากโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายเฉลี่ยถึง 20-30 ราย มิเพียงแต่บั่นทอนคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างมหาศาลจากการต้องเข้ารับการบำบัดทดแทนไต หากแต่ยังสร้างภาระทางเศรษฐกิจและจิตใจอย่างมากกับผู้ป่วย และครอบครัว
สิ่งที่น่ากังวลคืออุบัติการณ์ของโรคไตเรื้อรังในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในระยะเริ่มต้น โรคมักไม่แสดงอาการใดๆ ที่ชัดเจน ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากไม่รับรู้ถึงอันตรายของโรคนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
หมั่นดูแลไต ใส่ใจคัดกรอง ป้องกันโรคไต รับวันไตโลกปี 2568
รพ.รามาฯ ปลูกถ่ายไตด้วยหุ่นยนต์ แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว ลดภาวะแทรกซ้อน
"CheCKD Now" คัดกรองผู้ป่วย ตระหนักรู้ไตเรื้อรัง
บริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ (ไทย) จำกัด ร่วมกับ สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย ลงนามบันทึกความร่วมมือในโครงการ “CheCKD Now” เพื่อยกระดับความรู้ ความเข้าใจ และการตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคไตเรื้อรังในกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคความดันโลหิตสูง โดยเน้นการตรวจคัดกรองตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ส่งเสริมการดูแลสุขภาพตนเองอย่างเหมาะสม และลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะไตวายเรื้อรังในระยะยาว พิธีลงนามจัดขึ้น ณ สำนักงานใหญ่ ของบริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ (ไทย) จำกัด
โครงการ CheCKD Now มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงตระหนักถึงการทำงานของไตและเข้าใจถึงความเสี่ยงของโรคไตเรื้อรังมากยิ่งขึ้น โดยเน้นให้เกิดการคัดกรองตั้งแต่ระยะแรกเริ่มเพื่อให้ประชาชนเข้าใจในการทำงานของไต และเข้าพบแพทย์เพื่อรับการแนะแนวทางการดูแลตนเองเพื่อชะลอความเสื่อมของไต และลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนในอนาคต ในความร่วมมือครั้งนี้ บริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ (ไทย) จำกัด จะสนับสนุนชุดตรวจคัดกรองไมโครอัลบูมินในปัสสาวะ ซึ่งเป็นวิธีการตรวจคัดกรองการทำงานของไตในระยะเริ่มต้นที่สะดวกและประหยัดในการตรวจหาโปรตีนอัลบูมินในปัสสาวะที่ถูกพบในกลุ่มคนที่มีภาวะการทำงานของไตเสื่อมแก่สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย เพื่อกระจายไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ
เพิ่มศักยภาพ ส่งเสริมผู้ป่วยดูแลตนเองอย่างถูกต้อง
ศ.นพ.อภิชาต สุคนธสรรพ์ นายกสมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หนึ่งในพันธกิจหลักของสมาคมฯ คือการลดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะโรคไตเรื้อรัง ซึ่งในระยะเริ่มแรกมักไม่แสดงอาการใด ๆ แต่สามารถก่อให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย รวมถึงสร้างภาระทางเศรษฐกิจในระดับประเทศ การคัดกรองและเฝ้าระวังตั้งแต่ต้นจึงถือเป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันโรคดังกล่าว
ความร่วมมือในโครงการ ‘CheCKD Now’ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการคัดกรองผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังส่งเสริมผู้ป่วยได้ขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ในการดูแลตนเองอย่างถูกต้อง ทั้งด้านโภชนาการ การออกกำลังกาย และการควบคุมค่าความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ สมาคมฯ มีความตั้งใจให้โครงการนี้เป็นต้นแบบของความร่วมมือระหว่างภาควิชาการและภาคเอกชน ที่สามารถขยายผลอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและลดจำนวนผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม
ความดันโลหิตสูง...ภัยเงียบที่ต้องเฝ้าระวัง
ความน่ากลัวของโรคความดันโลหิตสูงอยู่ที่การมักไม่แสดงอาการที่ชัดเจน ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเวียนศีรษะหรือปวดหัวเพียงเล็กน้อย เมื่อค่าความดันตัวบน (Systolic) สูงเกิน 160 มิลลิเมตรปรอท แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ป่วยมักไม่ทราบถึงภาวะความดันโลหิตสูงของตนเอง จนกระทั่งเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น เส้นเลือดในสมองแตกหรือภาวะหัวใจล้มเหลว
เกณฑ์ที่บ่งชี้ว่าความดันโลหิตเริ่มสูงคือค่า 130/80 มิลลิเมตรปรอท ขึ้นไป หากตรวจวัดได้ค่าดังกล่าว ควรให้ความสนใจและเข้ารับการตรวจวัดซ้ำอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งประเมินปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจมีร่วมด้วย เช่น ภาวะน้ำหนักเกิน ภาวะอ้วน หรือภาวะไขมันในเลือดสูง
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่การเกิดโรคความดันโลหิตสูงนั้นมีหลายประการ ได้แก่:
- อายุ: ความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันโลหิตสูงจะเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น
- น้ำหนักตัวเกินและภาวะอ้วน: น้ำหนักที่มากเกินไปจะเพิ่มภาระให้กับหัวใจในการสูบฉีดเลือด และทำให้หลอดเลือดทำงานหนักขึ้น
- ประวัติครอบครัว: หากมีบุคคลในครอบครัวสายตรง (เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง) เป็นโรคความดันโลหิตสูง จะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคสูงขึ้น
- พฤติกรรมสุขภาพ: การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินไป และการไม่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ
- มลพิษทางอากาศ: โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฝุ่น PM 2.5 มีงานวิจัยในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย พบความเชื่อมโยงที่ชัดเจนกับการเพิ่มขึ้นของอุบัติการณ์ของโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานในพื้นที่ที่มีระดับมลพิษสูง นอกจากนี้ มลพิษทางอากาศยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนไทย โดยมีสัดส่วนสูงกว่าโรคมะเร็งอย่างน่าตกใจ
ดูแลสุขภาพเชิงรุก ตรวจคัดกรองตั้งแต่ระยะแรก
นายริคาร์เต้ เซลวานเดส ริเวร่า ผู้จัดการทั่วไป และหัวหน้าฝ่ายเภสัชภัณฑ์สำหรับมนุษย์ บริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า การดูแลสุขภาพเชิงรุกคือหัวใจสำคัญของการป้องกันโรคและการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย โครงการ ‘CheCKD Now’ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนภาครัฐ และการแพทย์ในการควบคุมโรคไม่ติดต่อในประเทศไทย
ความร่วมมือสมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการส่งเสริมให้ผู้ป่วยเข้าถึงการตรวจคัดกรองโรคไตได้ตั้งแต่ระยะแรก ซึ่งจะนำไปสู่การรักษาที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เราเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับความร่วมมือในอนาคตที่จะสร้างคุณค่าทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน และระบบสาธารณสุขโดยรวม
ความร่วมมือในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะยกระดับการดูแลสุขภาพของประชาชนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่ต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง โครงการ “CheCKD now” จึงนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการส่งเสริมสุขภาพเชิงรุก ที่ไม่เพียงลดภาระด้านการรักษา แต่ยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในระยะยาวอย่างแท้จริง







