ป้องกัน 'สุขภาพเพศ' ผิดปกติ ไม่สบายใจ ปรึกษาด่วน อย่าอายหมอ

ความสัมพันธ์ของคู่รัก “การมีเพศสัมพันธ์ หรือเซ็กส์” ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมทางกายเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างความใกล้ชิดระหว่างคู่รัก
KEY
POINTS
- ธุรกิจตลาดเรื่องเพศ หรือคลินิกเอกชนเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ เพิ่มขึ้นประมาณ 200 % เพราะมีความก้าวหน้าอย่างมาก
- หลักการดูแลสุขภาพเพศน อยากให้ยึดแนวคิด DEI (Diversity-ความหลากหลาย),(Equity-ความเท่าเทียม)และ (Inclusion-การเปิดรับคนทุกคน) เพราะหากทุกคนเข้าใจจะทำให้กลายเป็นความสวยงามของโลกใบนี้ และเพิ่มศักยภาพต่างๆ ในสังคม
- ผู้ใช้บริการต้องพิจารณาในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะแพทย์ ต้องดูว่าเป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ทางเพศ ด้วยการตรวสอบจากเว็บไซต์แพทยสภา ศึกษาข้อมูลของคลินิก ความปลอดภัย และอย่าเชื่อเพียงโฆษณา
"14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์" เทศกาลแห่งความรักที่หลายๆ คู่รักได้แสดงออกถึงความรักกันอย่างเปิดเผย หลายคนมีการแสดงความรักในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน ซึ่งเป็นวัยที่ให้ความสำคัญกับเพื่อน แฟน คนรัก แต่ทั้งนี้ นอกจากการแสดงความรักแบบซื้อของขวัญให้ พาไปทานข้าว ก็ยังนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์ได้
เพราะความสัมพันธ์ของคู่รัก “การมีเพศสัมพันธ์ หรือเซ็กส์” ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมทางกายเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างความใกล้ชิดระหว่างคู่รัก หากคู่รักมีมุมมองและความต้องการทางเพศที่ไม่ตรงกันนั่นย่อมหมายถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
ยิ่งปัจจุบันมีการเปิดกว้างเรื่องของความหลากหลายทางเพศ และความสัมพันธ์ที่ไม่ได้จำกัดเพียงคู่หญิงชาย แฟน คนรัก แต่อาจจะเป็นความสัมพันธ์ในรูปแบบของ ความสัมพันธ์ที่ไม่ได้จำกัดเพียงคนสองคน(Open Relationship),ความสัมพันธ์แบบไม่มีข้อผูกมัด(Friends with benefits) ,แอบแซ่บ, มีแฟนแล้ว แต่ก็หาคนคุยอยู่ (Cushioning) แฟนกันแค่วันเดียว (Cuffing season) และอีกมากมายที่สามารถพบเห็นได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
“สุขภาพเพศ” อยู่ดีมีสุขทุกมิติ เข้าใจความต่าง บนความหลากหลาย
คลินิกสุขภาพเพศธรรมศาสตร์ แก้ปัญหาสุขภาพเพศ
ด้วยความหลากหลายทั้งเรื่องของเพศ และลักษณะความสัมพันธ์ หลายคนให้ความสำคัญในการดูแลหรือแก้ปัญหาสุขภาพเพศมากขึ้น “คลินิกสุขภาพเพศ” จึงเกิดขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้คน
“หมอเอ้” หรือ รศ.ดร.นพ.อติวุทธ กมุทมาศ แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ทางเพศ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ”ว่าคลินิกสุขภาพเพศ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นคลินิกเฉพาะทางที่ให้การบริการแบบเวชศาสตร์ทางเพศครบวงจร ตั้งแต่การบำบัด การรักษา การให้คำปรึกษาปัญหาทางเพศอย่างเป็นระบบครอบคลุมในทุกเรื่อง เพื่อให้คนไทยได้มีสุขภาพเพศที่ดีขึ้น และมีความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาวะทางเพศ ลดความเครียดความวิตกกังวล และแก้ไขปัญหาครอบครัว ปัญหาการหย่าร้าง และปัญหาสังคมที่เกิดจากเรื่องเพศ
ในแต่ละเพศจะมีปัญหาสุขภาพเพศต่างกัน โดยผู้ชายจะมีปัญหาเรื่องความหย่อนสมรรรถทางเพศชาย ความหลั่งเร็ว และหลังจากสมรสเท่าเทียมมองว่าประเด็นเหล่านี้จะกลายเป็นปัญหาอีกจำนวนมาก เนื่องจากมีหลักการทางกฎหมายที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ ส่วนผู้หญิง จะมีปัญหาเรื่องขาดอารมณ์ทางเพศ สอดใส่ยาก มีความเจ็บ และอาจจะมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์มากขึ้น
ขณะที่ กลุ่มความหลากหลายทางเพศ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้มีการสนับสนุนยาฮอร์โมนบำบัดสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ ซึ่งจะมาคลินิกสุขภาพเพศมากขึ้น และหลังจากนี้ 2-3 ปี จะมีปัญหาเรื่องของการมีลูกของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ เพราะต้องรอกฎหมายให้มีความชัดเจน
ยึดแนวคิด DEI เข้าใจเพศอย่างสวยงาม
“คลินิกสุขภาพเพศธรรมศาสตร์ เปิดบริการโดยรับจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น และเปิดทุกวัน เพราะปัญหาสุขภาพเพศมีการยอมรับมากขึ้น แต่ส่วนหนึ่งก็ยังมีปัญหาเรื่องการตีตราและการกีดกั้น ทำให้หลายคนยังมีภาวะซึมเศร้า ซึ่งคลินิกสุขภาพเพศธรรมศาสตร์ จะมีทีมจิตแพทย์คอยให้คำแนะนำ ปรึกษาอย่างชัดเจน โดยเน้นการเปิดใจ ไม่ตัดสิน ไม่ตีตรา ไม่กีดกั้น และดูแลแบบองค์รวมทั้งร่างกาย จิตใจ สังคม ความเชื่อ และความสัมพันธ์”
นอกจากนั้น พ่อแม่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการดูแลเกี่ยวกับสุขภาพเพศของลูกๆ ซึ่งถ้าพ่อแม่เข้าใจลูกจะเป็นปราการปกป้องทางเพศแก่ลูก โดยพ่อแม่ต้องปรับทัศนคติ เปิดใจให้กว้างถึงความหลากหลาย ทั้งเพศสภาพ เพศวิถี รูปแบบความสัมพันธ์ที่หลากหลาย รวมถึงครู โรงเรียนต้องสอนเพศศึกษารูปแบบใหม่ ไม่ใช่ห้ามพูดแต่ต้องสอนให้ตรงกับอายุของเด็ก
“หลักการดูแลสุขภาพเพศนั้น อยากให้ทุกคนยึดแนวคิด DEI (Diversity-ความหลากหลาย),(Equity-ความเท่าเทียม)และ (Inclusion-การเปิดรับคนทุกคน) เพราะหากทุกคนมีความเท่าเทียม ความเสมอภาค การเปิดรับในความหลากหลายทั้งเพศสภาพ เพศวิถี หรือเพศสัมพันธ์ ทุกคนมีความเข้าใจจะทำให้กลายเป็นความสวยงามของโลกใบนี้ และเพิ่มศักยภาพต่างๆ ในสังคมได้”
ดูแลแบบองค์รวม มีแพทย์เฉพาะทาง
คลินิกสุขภาพเพศธรรมศาสตร์ นอกจากให้บริการทางการแพทย์ ดูแลแบบองค์รวมแล้ว จะมีการเปิดหลักสูตรระยะสั้น เวชศาสตร์ทางเพศ สอนแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ และบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถให้คำปรึกษาได้ และ 5 ปีต่อมาได้หารือร่วมกับราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย เพื่อเปิดหลักสูตรวุฒิบัตร อนุสาขาเวชศาสตร์ทางเพศ เป็นการศึกษาต่อเฉพาะทาง 2 ปี
ปัจจุบันจึงเริ่มจำนวนแพทย์เฉพาะทางด้านนี้มากขึ้น ส่งผลให้คลินิกสุขภาพเพศธรรมศาสตร์ เปิดให้บริการทุกวัน และรับผู้ป่วยมากขึ้น ให้บริการครอบคลุมในทุกเรื่องทั้งเพศชาย เพศหญิง และเพศหลากหลาย ที่มีปัญหาเรื่องเพศสัมพันธ์ เช่น การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือปัญหาเพศวิถี เพศสภาพ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นต้น
ไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางผ่าตัดแปลงเพศ
หมอเอ้ เชื่อว่า ไทยเป็นศูนย์กลางของการผ่าตัดแปลงเพศ เพราะตอนนี้มีผู้ป่วยทั้งคนไทยและต่างชาติมาผ่าตัดที่ไทยจำนวนมาก ส่วนข้อจำกัดที่ทำให้ไทยยังไม่บูมเท่าที่ควร มาจากจำนวนแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งหรือศัลยศาสตร์ตกแต่งที่จะผ่าตัดมีเพียงหลักสิบคนเท่านั้น ทั้งที่แพทย์ไทยมีศักยภาพ มีความเชี่ยวชาญเป็นยอมรับของทั้งผู้ป่วยในไทยและต่างประเทศ และราคาที่ค่อนข้างสูง
ถ้าเป็นโรงพยาบาลรัฐบาล แปลงเพศจากชายเป็นหญิง ราคาประมาณ แสนกว่าบาท ส่วนโรงพยาบาลเอกชน ประมาณ 4-5 แสนกว่าบาท ส่วนหญิงเป็นชาย โรงพยาบาลรัฐ ประมาณ 3 แสนกว่าบาท ส่วนโรงพยาบาลเอกชน ประมาณ 6-8 แสนกว่าบาท คนไทยหลายคนอาจอยากผ่าแต่ติดเรื่องของราคา หากเปรียบเทียบกับต่างประเทศของไทยจะถูกกว่า
คลินิกเอกชนสุขภาพทางเพศ เพิ่มขึ้น 200 %
“ธุรกิจตลาดเรื่องเพศ หรือคลินิกเอกชนเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ เพิ่มขึ้นประมาณ 200 % เพราะมีความก้าวหน้าอย่างมาก ดังนั้น ตอนนี้จึงมีคลินิกสุขภาพเพศจำนวนมาก ผู้ใช้บริการต้องพิจารณาในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะแพทย์ ต้องดูว่าเป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ทางเพศ ด้วยการตรวสอบจากเว็บไซต์แพทยสภา ศึกษาข้อมูลของคลินิก ความปลอดภัย และอย่าเชื่อเพียงโฆษณา”
“สมรสเท่าเทียม”ไม่ก่อปัญหาสุขภาพเพศ
สำหรับสมรสเท่าเทียมถือเป็นเรื่องใหม่ในสังคมไทย แต่โดยส่วนตัวหมอเอ้ มองว่าไม่น่าจะทำให้มีปัญหาเรื่องสุขภาพเพศเพิ่มมากขึ้น เพราะจริงๆ แล้ว ปัญหาสุขภาพเพศมีมาโดยตลอด แต่การที่สังคมเกิดความตระหนักรู้ เข้าใจ และมีการพูดถึงเรื่องของเพศมากขึ้นเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากหลายคนกล้ามาพบแพทย์ หรือมาพูดคุยของคำปรึกษามากขึ้น ตอนนี้จึงมีคลินิกสุขภาพเพศ เปิดจำนวนมาก
ส่วนความหลากหลายของรูปแบบความสัมพันธ์ ไม่ได้ทำให้ปัญหาเรื่องเพศมากขึ้นหรือน้อยลง เพียงแต่ทำให้คนกล้าตัดสินใจเข้าคลินิก ดูแลตัวเอง ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเพศ ซึ่งดีกว่าการที่พวกเขาศึกษาหาความรู้และเชื่อข้อมูลจากโลกอินเทอร์เน็ตอย่างเดียว
“1-2 ปีที่ผ่านมา สังคมตระหนักรู้เรื่องเพศและมองว่าเป็นหนึ่งในปัญหาที่พวกเขาไม่ควรมองข้าม สามารถหาหมอได้ ไม่ต้องอายหมอ โดยปัญหาสุขภาพเพศของผู้ชาย ผู้หญิง หรือกลุ่มความหลากหลายทางเพศจะมีความแตกต่างกัน แต่ทุกปัญหาสามารถรักษาหรือบำบัดได้ขอเพียงมาพบแพทย์”