ปี 2024 โอกาสทอง 'ธุรกิจการแพทย์' ป้องกัน ฟื้นฟู รักษา รับเทรนด์สุขภาพ

ปี 2024 โอกาสทอง 'ธุรกิจการแพทย์' ป้องกัน ฟื้นฟู รักษา รับเทรนด์สุขภาพ

ส่องโอกาส ธุรกิจทางการแพทย์ จากการผลักดันนโยบาย Medical Hub สู่การดึง Medical Tourism ศักยภาพสูง เทคโนโลยี นวัตกรรม การแพทย์ น่าจับตา รวมถึง ธุรกิจ Wellness ที่มีโอกาสเติบโตหลังจากนี้

Key Point : 

  • ปี 2024 นับเป็นโอกาสทองของประเทศไทยและธุรกิจสุขภาพการแพทย์ เพราะสุขภาพและการแพทย์เกี่ยวข้องกับคนตั้งแต่เกิดจนเสียชีวิต
  • ขณะเดียวกัน ประเทศไทยมีนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ครบครัน ส่วนหนึ่งมาจากรายได้ Medical Tourism ดังนั้น Medical Tourism เป็นโอกาสดีมากของไทย และโอกาสนี้จะต่อเนื่องต่อไป
  • ทั้งนี้ เรื่องของเทคโนโลยีทางการแพทย์ เทคโนโลยีชีวภาพ ที่พัฒนาไปมาก รวมถึงธุรกิจ Wellness ยังถือเป็นโอกาสที่น่าจับตามอง

 

ประเทศไทยมีการผลักดันสู่ ศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) ของโลก ขณะที่ Medical Tourism ทำรายได้ให้กับประเทศไทยมหาศาล ในปี 2019 มีผู้ที่เดินทางมารักษาตัวและใช้จ่ายในประเทศไทย 2,600 ล้านดอลลาร์ ในปี 2020 ที่เกิดโควิด-19 ลดลงราว 900 ล้านดอลลาร์ และ ปี 2021 ลดลงมา 8 ล้านดอลลาร์ แต่ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา ขึ้นมาเป็น 2,400 ล้านดอลลาร์ ล่าสุด ปี 2023 คาดการณ์ว่าอย่างน้อยไทยจะมีรายได้ 2,900 ล้านดอลลาร์ โดยเฉลี่ย Medical Tourism จะใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป 3 – 5 เท่า

 

การแพทย์พัฒนารับโลกเปลี่ยน

ศ.เกียรติคุณ ดร.นพ.สมอาจ วงษ์ขมทอง ประธานคณะกรรมการ หลักสูตรโอกาสธุรกิจสุขภาพและการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง (WHB) เผยว่า โอกาสทางการแพทย์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ Medical Tourism เพียงอย่างเดียว เพราะในช่วงหลัง เรื่องของเทคโนโลยีทางการแพทย์ เทคโนโลยีชีวภาพพัฒนาไปมาก เราจะได้ยินคำว่า 'การตรวจยีน การตรวจพันธุกรรม' สมัยก่อนแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะยุ่งยากซับซ้อนใช้เงินมากเป็นหลักล้าน แต่ปัจจุบันเริ่มตั้งแต่ 7,000 บาท สามารถตรวจได้มากกว่า 20,000 ยีน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

 

อีกทั้ง มีเรื่องของ 'การแพทย์แม่นยำ หรือการแพทย์เฉพาะบุคคล' พอตรวจยีนได้ ก็จะรู้ว่าแต่ละคนมีข้อบกพร่องอย่างไร แพ้อาหารหรือไม่ แพ้ยาตัวใด ผลข้างเคียงของยา จากการตรวจยีนจะรู้ว่าควรให้ยาเท่าไร และมีประโยชน์หรือไม่ แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่มาแรงมาก คือ 'เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ' และสิ่งที่ฮือฮามากที่สุด คือ การค้นพบ กลไกต้นน้ำแห่งความชรา และความเสื่อมของเซลล์ ซึ่งเป็นปัจจัยเบื้องต้นที่นำไปสู่การเป็นโรคสมองเสื่อม โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคเบาหวาน และโรคกล้ามเนื้อลีบทั่วร่างกายและอื่นๆ

 

"ปัจจุบันมีการค้นพบ เทโลเมียร์ ดีเอ็นเอ เซลล์ต้นกำเนิด ค้นพบต้นน้ำที่เป็นปัจจัยเบื้องต้นที่นำไปสู่โรคต่างๆ รวมกับปัจจัยส่วนบุคคล ก่อให้เกิดโรคสมองเสื่อม มะเร็ง เบาหวาน ฯลฯ นับเป็นความท้าทายทางการแพทย์”

 

Digital Health & Telemedicine

ศ.เกียรติคุณ ดร.นพ.สมอาจ กล่าวต่อไปว่า เรื่องของดิจิทัล อุปกรณ์ต่างๆ ทำให้เราได้รับข้อมูลสุขภาพ เช่น การเต้นของหัวใจ การนอนหลับ การออกกำลัง และสามารถใช้ข้อมูลในการปรึกษาแพทย์ และต่อไปจะมี Digital Hospital โรงพยาบาลที่รับปรึกษาโรคทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งเกิดขึ้นแล้วในประเทศจีนและหลายๆ ประเทศ เป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินไป

 

อีกเรื่องที่สำคัญ คือ สังคมสูงวัย ในปี 2022 ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ โดยมีประชากรผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ราว 12.3 ล้านคน คิดเป็น 20% ของไทย หรือคิดเป็น 1 ใน 5 และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อโครงสร้างประชากรเปลี่ยน ทำให้เกิดธุรกิจต่างๆ ที่เกิดขึ้น เรียกว่าโอกาสธุรกิจในสังคมสูงวัย ได้แก่ ศูนย์ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ อุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุใช้งาน ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ ธุรกิจเนอร์สซิงโฮมส์ และ Retirement Hub รองรับสูงวัยที่เกษียณอายุหนีหนาวจากต่างประเทศ

 

ปี 2024 โอกาสทอง \'ธุรกิจการแพทย์\' ป้องกัน ฟื้นฟู รักษา รับเทรนด์สุขภาพ

 

 

นวัตกรรมการแพทย์แห่งอนาคต

สำหรับเทรนด์ของนวัตกรรม เทคโนโลยีต่างๆ มาใช้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในทางการแพทย์ในอนาคต ได้แก่ 

1.เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยใช้ทั้งในการตรวจวินิจฉัยในหลายเรื่อง ตั้งแต่เอกซเรย์ที่เอไอจะช่วยให้แพทย์มีความรอบคอบมากขึ้น และการรักษา การเลือกใช้ยาได้แม่นยำ

2.Data Breach Prevention หรือการป้องกันการละเมิดข้อมูลออนไลน์ ปัจจุบัน เทคโนโลยีล่าสุดคือการใช้ Facial recognition หรือเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า และพัฒนาเป็น Facial recognition with masks ช่วงโควิดป้องกันระบบมากขึ้น 

3.นาโนเมดิซีน เทคโนโลยีการผลิตยา ทดสอบยีน เพื่อให้ยาที่เหมาะสมคนไข้แต่ละกลุ่ม หรือ Targeted therapy ซึ่งมีการวินิจฉัยว่ายีนเพื่อบอกว่ายาตัวไหนเหมาะกับผู้ป่วย

4.Internet of Medicl Things (IoMT) ปัจจุบันเครื่องมือเริ่มเชื่อมโยงกันทั้งหมด ผ่านระบบที่กำลังพัฒนา คือ Wearable gadgets หรืออุปกรณ์ที่สวมใส่ได้อย่างสมาร์ตวอชที่วัด EKG ความดันโลหิต ระดับน้ำตาล แล้วเชื่อมต่อเข้าระบบของโรงพยาบาล โดยผู้รับบริการวัดจากที่บ้านได้

5.Teleconsultation และ Telemedicine โรงพยาบาลหลายแห่งทำทั้งการให้คำปรึกษาทางไกล (Teleconsultation) และการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ช่วยให้การดูแลมีความสะดวก ลดการเดินทางและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

6.Big Data ถ้ามีระบบฐานข้อมูลเดียวกัน เหมือนธนาคาร หรือกระทรวงมหาดไทย จะวางแผนการบริหารจัดการได้ดี และ 7.VR, AR และ Mixed Reality in Healthcare จะเข้ามาช่วยในการเรียนรู้ และฝึกอบรมบุคลากร ทำให้มีการพัฒนาการเรียนรู้ และการดูแลรักษาคนไข้ได้มากยิ่งขึ้น

 

5 ธุรกิจ Wellness มาแรง ปี 2024

หลังโควิด-19 คนตระหนักแล้วว่าการมีภูมิต้านทานที่ดีจะช่วยป้องกันความรุนแรงของโรค ศ.เกียรติคุณ ดร.นพ.สมอาจ วงษ์ขมทอง มองว่า โอกาสของธุรกิจ Wellness มากกว่าการแพทย์ 10 เท่า โดยในปี 2024 ธุรกิจที่น่าสนใจ มีด้วยกัน 5 ประเด็น ดังนี้

Wellness Clinic สมัยก่อนคลินิกรักษาโรค แต่มีคนจำนวนมากที่ต้องการตรวจสุขภาพ ต่อไปจะเห็น Wellness Clinic เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด ในโรงพยาบาลมีศูนย์ Wellness ที่ตรวจสุขภาพเชิงลึก เซลล์ปกติหรือไม่ มีภูมิต้านทานที่เหมาะสมหรือไม่ หรือขาดวิตามิน แคลเซียมหรือไม่

Wellness Retreat & Retreat Resort ชาวต่างประเทศที่มีความรู้ เวลาไปท่องเที่ยวเขามาเที่ยวและฟื้นฟูสภาพร่างกายด้วย ดังนั้น ต้องมีสถานที่ที่เขาได้ฟื้นฟูร่างกายโดยยอมจ่ายเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะอาหาร ออกกำลังกาย ดูแลสภาพจิตใจ

Wellness Tourism ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจใหม่ จากที่ประสบความสำเร็จในเรื่องของ Medical Hub ตอนนี้กำลังปรับตัวสู่ศูนย์กลางสุขภาพและการป้องกัน ซึ่งในส่วนนี้เรียกว่า Wellness Tourism โดยประเทศจีน นับเป็นโอกาสมหาศาล ข้อมูลจาก GWI เผยว่า ในปี 2021 มองว่า ประเทศไทย และ ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่คนจีนต้องการเดินทางมามากที่สุด และไทยได้เปรียบในเรื่องของ Wellness ดังนั้น Wellness Tourism จากจีนจะเดินทางมาไทยมหาศาล

Wellness Product ผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมให้สุขภาพดีที่ไม่ต้องพึ่งแพทย์ มีทั้งเรื่องของอาหาร เครื่องดื่ม วิตามิน อาหารเสริม อาหารแห่งอนาคต และอาหารเป็นยา โภชนเภสัช การดูแลตัวเอง

Wellness Hotel & Wellness Real Estate มีโรงแรงต่างๆ ทยอยอัปเกรดเป็น Wellness Hotel อสังหาริมทรัพย์ต่างๆ กำลังเปลี่ยนตัวเองจากที่อยู่อาศัยธรรมดา เป็น Wellness Real Estate ยกตัวอย่าง บีดีเอมเอส เวลเนส คลินิก ได้มีการจัดตั้งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นอกจากการลงทุนทางโรงพยาบาลแล้ว ยังลทุนในเรื่องของเวลเนสคลินิก ถนนวิทยุ ถือเป็นต้นแบบที่กำลังจะกระจายทั่วประเทศไทย และ Wellness Retreat เช่น ชีวาศรม ที่หิวหิน ซึ่งมีการเติบโตและได้รับการจัดอันดับให้เป็นสถาน Retreat ที่ดีที่สุดในโลกแทบทุกปี