'5 เมนูสุขภาพ' บอกรักพ่อผ่านรสชาติอาหารแสนอร่อย ทำง่าย กินง่ายมีประโยชน์

Keypoint:

• เมนูอาหารของพ่อ ต้องจัดเตรียมอาหารที่รับประทานง่าย เคี้ยวง่าย ในกรณีที่คุณพ่อสูงวัยไม่สามารถเคี้ยวได้ อาจจะให้ทานอาหารประเภทซุป โจ๊ก ข้าวต้ม
• ควรพาผู้สูงอายุไปตรวจสุขภาพเหงือกและฟัน เป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อรักษาปัญหาที่เกิดขึ้นได้ตรงจุด
• ปรับรสชาติอาหารให้พอดีกับความชอบของผู้สูงอายุ และคิดเมนูใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร

ด้วยสุขภาพคุณพ่อสูงวัย ย่อมมีปัญหาเรื่องความเสื่อมถอยของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น การสูญเสียฟัน ฟันผุและรากฟันผุ เหงือกอักเสบ เป็นแผลและมะเร็งช่องปาก ฟันสึก ภาวะน้ำลายแห้ง ซึ่งส่งผลต่อการบดเคี้ยวอาหารภายในปาก ทำให้รู้สึกเจ็บปวดเวลาทานอาหาร

อีกทั้งบางรายประสบปัญหาเรื่องความสามารถในการรับรสบนลิ้น การแยกแยะรสหวาน เค็ม เปรี้ยว ขม และการรับกลิ่น ที่เสื่อมถอยเมื่ออายุมากขึ้น ก็จะรู้สึกว่าไม่อร่อย ทำให้ไม่อยากอาหาร รวมถึงปัญหาสุขภาพจิต รู้สึกเครียด ซึมเศร้า วิตกกังวล กับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวัยสูงอายุ

นอกจากนั้น คุณพ่อบางท่าน ยังมีปัญหาเรื่องท้องผูก การย่อย และการดูดซึม เพราะน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กมีน้อยลง จึงทำให้อาหารถูกย่อยได้ไม่สมบูรณ์ รวมถึงกล้ามเนื้อควบคุมการบีบคลายตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ทำงานไม่ปกติ ทำให้ย่อยอาหารได้ยาก เมื่ออาหารถูกย่อยได้ไม่สมบูรณ์ ก็จะเกิดการสะสมแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ และปล่อยก๊าซออกมาทำให้ท้องอืด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ตรวจสุขภาพอายุ 30++ ก็ทำได้ ไม่ต้องรอถึงวันพ่อ!!

ชวนฉลองวันพ่อ 'คุณพ่อทานฟรี' และ 'บุฟเฟ่ต์นานาชาติ'

 

บอกรักคุณพ่อผ่านเมนูสุดพิเศษ 

วันนี้ ‘กรุงเทพธุรกิจ’ ชวนเหล่าคุณลูกมาเติมเต็มความรักให้คุณพ่อ คุณแม่ และครอบครัว ด้วยเซ็ตเมนูสุขภาพ เมนูอาหารเพื่อต้อนรับวันพ่อโดยเฉพาะ ภายใต้บรรยากาศอันแสนสบายและอบอุ่น ใช้ช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันกับคุณพ่อ พูดคุยกันตามประสาพ่อลูก เริ่มด้วย 

1.ไข่พระอาทิตย์ของพ่อ

เป็นเมนูที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงประกอบอาหารให้สมเด็จพระเทพฯ เมื่อทรงพระเยาว์ และโปรดเกล้าให้กรมการค้าต่างประเทศนำสูตร ไข่พระอาทิตย์ ไปตีพิมพ์ในหนังสือ 'สูตรอาหารต้นตำหรับข้าวหอมมะลิไทยในครัวนานาชาติ' เมนูนี้ถือว่าเป็นเมนูที่ทำง่ายมาก ๆ โดยใช้วัตถุดิบเพียงแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น และที่เรียกว่าไข่พระอาทิตย์ เพราะว่าเมื่อทอดออกมาเสร็จแล้วจะมีสีเหลืองทอง คล้ายพื้นผิวของพระอาทิตย์นั่นเอง

ส่วนผสม 

1. ข้าวสวย 3 ถ้วย
2. ไข่ไก่ 8 ฟอง
3. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำมัน 3 ช้อนโต๊ะ
5. ผักชี (สำหรับตกแต่ง)

วิธีทำ

1. เตรียมส่วนผสมไข่พระอาทิตย์

• ตีไข่ไก่ให้เข้ากัน จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา แล้วคนให้เข้ากันอีกทีหนึ่ง
• เติมข้าวสวยลงไป แล้วคนให้เข้ากัน

2.ทอดไข่พระอาทิตย์

• ตั้งกระทะให้ร้อนจัด ใส่นำ้มันลงไป
• เมื่อน้ำมันร้อนแล้วให้ใส่ส่วนผสมของไข่ลงไป แล้วเบาไฟลง จากนั้นทอดจนเหลืองกรอบ
• แล้วพลิกด้านไข่ด้วยตะหลิว โดยใช้ตะหลิวสองอันช่วยประคองในการพลิก

 3.จัดเสิร์ฟ

• เสิร์ฟไข่พระอาทิตย์ร้อน ๆ คู่กับพริกน้ำปลา หรือซอสพริกตามใจชอบ หรือจะรับประทานเปล่า ๆ ก็ได้เช่นกัน

วิธีทำไข่พระอาทิตย์นอกจากจะใช้วัตถุดิบเพียงเล็กน้อยแล้ว วิธีทำยังแสนง่ายอีก แถมวัตถุดิบทั้งหมดยังหาได้ในบ้านเรา ทั้งไข่ไก่ และข้าวซึ่งเป็นผลผลิตที่สำคัญมากต่อเศรษฐกิจไทย ดังนั้นเราควรส่งเสริมอาชีพเพาะปลูกในประเทศไทยต่อไป

 

แชร์เมนูสุขภาพแสนอร่อย เคี้ยวง่าย ประโยชน์เพียบ 

ต่อด้วยเมนูกับข้าวเพื่อสุขภาพ ย่อยง่ายๆ กินง่าย เคี้ยวง่ายด้วย

2. แกงจืดเต้าหู้สอดไส้เนื้อปลา

แกงจืดเต้าหู้สอดไส้เนื้อปลาที่เต็มไปด้วยโปรตีนจากเต้าหู้ ย่อยง่าย ๆ แถมยังสอดไส้เนื้อปลาปรุงรส กินง่าย เคี้ยวง่าย และย่อยง่าย ซดร้อน ๆ อร่อยสุด ๆ เป็นสูตรจาก คุณบ่งบ๊ง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ส่วนผสม

1. เต้าหู้ขาวแบบนิ่ม
2. กระเทียม และ กระเทียมเจียว
3. พริกไทย และ พริกไทยป่น
4. รากผักชี
5. เนื้อปลาอินทรีย์บด หรือเนื้อปลากรายบด
6. แตงกวาหรือมะระสด (คว้านเมล็ดออก)
7. เห็ดหอมสับ
8. ผงซุปไก่
9. กระเทียมเจียว
10. ผักชี-ต้นหอม หั่นเป็นท่อน
11. น้ำเปล่า

วิธีทำ

1. แบ่งเต้าหู้ขาวเป็น 4 ชิ้น แล้วผ่าครึ่งเตรียมไว้สำหรับสอดไส้

2. โขลกกระเทียม พริกไทย และรากผักชีให้ละเอียด แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเนื้อปลา

3. นำเนื้อปลาที่ปรุงรสยัดไส้ไปในเต้าหู้และแตงกวา

4. ต้มน้ำให้เดือด ใส่ผงซุปไก่ลงไป เมื่อน้ำเดือดจัด ใส่เต้าหู้และแตงกวายัดไส้ลงไป ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว หรือน้ำปลา หรือเกลือป่น รอจนเต้าหู้และแตงกวาลอยขึ้นมา แบ่งใส่ต้นหอมและผักชีบางส่วนลงไป

5. ตักใส่ชาม ก่อนเสิร์ฟโรยต้นหอม ผักชี พริกไทย และกระเทียมเจียว

3. แซลมอนย่างใบชะพลู

สำหรับคุณพ่อท่านไหนที่ดื่มแอลกอฮอล์จัด ๆ หรือทำงานหนักจนกินข้าวไม่เป็นเวลา และลูก ๆ ก็กลัวว่าจะเสียสุขภาพ ลองมาทำแซลมอนย่างใบชะพลูจานนี้ดู เพราะเมนูสุขภาพนี้จะสามารถช่วยปรับสมดุลในร่างกายได้ นำแซลมอนหมักเครื่องแล้วไปห่อด้วยใบชะพลูกลิ่นหอม ๆ กินคู่กับน้ำจิ้มสูตรเด็ด เลอค่าจริง ๆ

ส่วนผสม

1. เนื้อปลาแซลมอนหั่นเป็นชิ้นยาว 3 นิ้ว จำนวน 200 กรัม
2. ใบชะพลู 20 ใบ
3. น้ำมันพืช เล็กน้อย
4. เกลือป่น เล็กน้อย
5. พริกไทยดำบดหยาบ เล็กน้อย
6. น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
8. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
9. น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
10. พริกขี้หนูหั่นแว่น 2 เม็ด

วิธีทำ

1. โรยเกลือและพริกไทยดำบนเนื้อปลาแซลมอน จากนั้นห่อด้วยใบชะพลู เสียบไม้แล้วนำย่างบนกระทะที่ใส่น้ำมันเล็กน้อยจนเนื้อปลาสุก

2. ทำน้ำจิ้มโดยผสมน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ เกลือ และน้ำเข้าด้วยกัน ต้มจนเดือด ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น ใส่พริกขี้หนู ชิมรสตามชอบ เสิร์ฟพร้อมปลาแซลมอนย่าง

4. บัวลอยน้ำขิง

เชื่อว่ามีคุณพ่อหลายท่านคงจะชื่นชอบบัวลอยน้ำขิงถ้วยนี้แน่ ๆ ขนมไทยโบราณ เนื้อบัวลอยสอดไส้งาดำเหนียวนุ่ม ตักเข้าปากพร้อมกับน้ำขิงเผ็ดซ่า กินแล้วโล่งจมูกดีจริง ๆ สูตรจาก คุณ Three days before Valentine's สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ส่วนผสม ไส้บัวลอย

1. งาดำป่น 1 ถ้วย
2. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
3. เนยถั่วชนิดหยาบ 170 กรัม

ส่วนผสม แป้งบัวลอย

1. แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
2. แป้งถั่วเขียว 3 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย

ส่วนผสม น้ำขิง

1. น้ำเปล่า 5 ถ้วย
2. ขิงแก่เผาไฟ 3 - 4 ชิ้น
3. น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
4. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำบัวลอยน้ำขิง

1. ผสมงาดำป่น น้ำตาลทราย และเนยถั่วให้เข้ากัน ปั้นเป็นลูกกลม ๆ จากนั้นนำไปแช่แข็ง เตรียมไว้

2. ผสมแป้งข้าวเหนียวกับแป้งถั่วเขียวเข้าด้วยกัน เติมน้ำลงไป นวดผสมจนแป้งเนียน เตรียมไว้

3. ต้มน้ำให้เดือด ใส่ขิงเผา และน้ำตาลปี๊บลงไป ต้มให้เดือดประมาณ 5 นาที ปิดไฟ เตรียมไว้

4. นำไส้ขนมออกจากตู้เย็น ห่อด้วยแป้งบัวลอยบาง ๆ ให้มิดแล้วนำไปคลุกกับแป้งข้าวเหนียวบาง ๆ ทำจนหมด เตรียมไว้

5. เปิดไฟต้มน้ำขิงให้เดือด จากนั้นใส่บัวลอยลงต้มจนลอยขึ้น ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

5. น้ำหมักผลไม้

ด้วยสูตรน้ำหมักจากธรรมชาติ (Infused Water) เพื่อสุขภาพของคุณพ่อนักดื่ม ลูก ๆ ก็ลองชวนคุณพ่อมาเลือกส่วนผสมกันได้ตามใจชอบ ทำง่าย ๆ รสชาติถูกปากเพราะมาจากวัตถุดิบที่คุ้นเคยของคนไทย เป็นสูตรมาจาก Facebook Easy Cooking เมนูอร่อยใครว่าทำยาก

สิ่งที่ต้องเตรียม

1. น้ำแร่ หรือน้ำสะอาด
2. น้ำแข็ง (ถ้าหมักข้ามวันไม่ต้องใส่)
3. เหยือกแก้ว หรือขวดพลาสติกที่มีฝาปิด
4. ส่วนผสมผักและผลไม้ตามชอบ

วิธีทำ

1. ล้างผักหรือผลไม้ที่เลือกไว้ให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นหรือเด็ดเป็นใบตามชอบ

2. นำผักและผลไม้ที่เตรียมไว้ใส่ลงในขวดหรือแก้ว ใช้ช้อนยาว ๆ บดส่วนผสมเล็กน้อยเพื่อให้น้ำผลไม้และน้ำมันหอมระเหยออกมา

3. ใส่น้ำแข็งลงไปตามด้วยน้ำสะอาด นำไปแช่เย็นก่อนดื่ม หมักอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนดื่ม

เคล็ดไม่ลับเตรียมอาหารให้คุณพ่อสูงวัย

• จัดเตรียมอาหารที่รับประทานง่าย เคี้ยวง่าย ในกรณีที่ผู้สูงอายุไม่สามารถเคี้ยวได้ อาจจะให้ทานอาหารประเภทซุป โจ๊ก ข้าวต้ม
• ควรพาผู้สูงอายุไปตรวจสุขภาพเหงือกและฟัน เป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อรักษาปัญหาที่เกิดขึ้นได้ตรงจุด
• หลังรับประทานอาหารควรแปรงฟัน หรือบ้วนปากในกรณีที่มีปัญหากับการแปรงฟันทุกครั้ง
• ปรับรสชาติอาหารให้พอดีกับความชอบของผู้สูงอายุ การปรุงอาหารที่มีรสเค็ม หรือรสเปรี้ยวอ่อน ๆ จะช่วยกระตุ้นการขับน้ำย่อย และน้ำลาย ทำให้เกิดความรู้สึกเจริญอาหารมากขึ้น
• คิดเมนูอาหารใหม่ ๆ เพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร
• หากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด สร้างความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง
• ให้ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง ทางร่างกายของผู้สูงอายุ ความรู้เรื่องอนามัย และความรู้อื่น ๆ ในการดูแลสุขภาพกาย และใจของตนเองแก่ผู้สูงอายุ

• ควรจัดเตรียมอาหารที่เหมาะสม โดยอาหารต้องอ่อนนุ่มหรือปรุงให้นิ่ม หลีกเลี่ยงอาหารที่ย่อยยาก และต้องมีสารอาหารครบถ้วน 5 หมู่ และทานในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
• ปริมาณอาหารของแต่ละมื้อควรจะลดลง แต่กินให้บ่อยขึ้นเพื่อช่วยให้การย่อยอาหารสะดวก อาจจัดเป็น 4 – 5 มื้อก็ได้
• กินอาหารขณะที่ยังร้อน ๆ จะช่วยกระตุ้นน้ำย่อยอาหาร ทำให้กินอาหารได้มากขึ้นและการย่อยอาหารดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุด ต่อให้ไม่ใช่วันพ่อ หรือวันแม่ หรือวันครอบครัว แต่ทุกครอบครัวควรหาเวลาทานอาหารกับผู้สูงอายุเป็นประจำ หากเป็นไปได้ควรกินข้าวด้วยกันทุกวัน และในช่วงที่ลูก ๆ ไปทำงาน หากมีผู้ดูแลอยู่ด้วย อาจให้ผู้ดูแลกินข้าวพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่ จะทำให้ท่านไม่รู้สึกโดดเดี่ยว

อ้างอิง: kapook ,