เทรนด์สุขภาพ 2024 ดูแลสุขภาพแบบรายบุคคล

เทรนด์สุขภาพ 2024  ดูแลสุขภาพแบบรายบุคคล

Global Wellness Institute(GWI)คาดการณ์ว่า ปี 2568 'เศรษฐกิจเพื่อสุขภาพทั่วโลก' (Global Wellness Economy) จะมีมูลค่าประมาณ 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 230 ล้านล้านบาท

Keypoint:

  • 'การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ' กลายเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ภาครัฐสนับสนุน สอดคล้องกับการเดินหน้าสู่ Medical Hub ของไทย
  • ทำความรู้จัก 5 เมกะเทรนด์ คาดการณ์เชิงกลยุทธ์ด้านอนาคต หลักประกันสุขภาพของไทย
  • Health & Wellness ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เน้นการป้องกันควรใช้เป็นพื้นฐานเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ 

อีกทั้ง ยังคาดการณ์ด้วยว่า ตั้งแต่ปี 2563-2568 ธุรกิจสปาจะมีการเติบโตเฉลี่ยต่อปี อยู่ที่อัตรา 17.2 % ส่วนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จะเติบโตเฉลี่ยที่อัตรา 20.9%

ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ และ 'การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ' กลายเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ภาครัฐสนับสนุน สอดคล้องกับการเดินหน้าสู่ Medical Hub ของไทยที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ความสำคัญกับการทำ Marketing ที่มีค่าใช้จ่ายสูงอย่าง Medical Tourism และHealth &Wellness Tourism ซึ่งมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นและเป็นกลุ่มที่มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 80,000 - 120,000 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

โรคร้าวๆ เมื่อรองเท้าคู่โปรด ไม่เหมาะกับรูปเท้า พร้อมวิธีป้องก้น

'เมดิคัลฮับ' รายรับเพิ่ม 47 % Post-COVID 19 โอกาสของไทย

 

5 เมกะเทรนด์สุขภาพ

'รายงานการคาดการณ์เชิงกลยุทธ์ด้านอนาคตหลักประกันสุขภาพของประเทศไทย' ที่ใช้เป็นข้อมูลจัดทำแผนปฏิบัติราชการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)ระยะที่ 5 พ.ศ.2566-2570 แบ่งออกได้เป็น 5 เมกะเทรนด์ประกอบไปด้วย

1) Internet of Healthระบบบริการสุขภาพเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีและระบบออนไลน์ ส่งผลต่อแนวทางและกรอบระเบียบการเงินเพื่อสุขภาพ ทั้งระบบสุขภาพแบบเชื่อมต่อออนไลน์ การนำ AR/VR เทคโนโลยีข้อมูล และระบบการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์มาใช้ เพื่อคัดกรองโรค ลดความแออัดในสถานพยาบาล พร้อมกับเสริมศักยภาพด้านแพลตฟอร์มการดูแลรักษาและป้องกันด้านสุขภาพ

ทั้งการคัดกรอง ให้คำปรึกษา และแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อดูแลสุขภาพ รวมถึงการตอบโจทย์การจ่ายเงินผ่านสังคมไร้เงินสด เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องใหม่ๆ เข้ามาในระบบนิเวศน์สุขภาพ

เทรนด์สุขภาพ 2024  ดูแลสุขภาพแบบรายบุคคล

2) Human Dynamic for Well-beingการตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงเชิงประชากรผ่านนโยบายสุขภาพของประเทศ ครอบคลุม ทั้งสุขภาพกายและใจ ทั้งบริการสุขภาพแบบรายบุคคล คือ การบริหารจัดการด้านสุขภาพเพื่อตอบโจทย์การรักษาแบบรายบุคคลที่มีปัจจัยพื้นหลังด้านสถานะทางเศรษฐกิจสังคมที่หลากหลาย ทั้งช่วงกลุ่มวัย อัตลักษณ์ทางเพศและความเท่าเทียม เชื้อชาติ ลักษณะการทำงาน เพื่อตอบโจทย์การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ครอบคลุมทั้งสุขภากายและสุขภาพจิต เพื่อไปสู่สุขภาวะที่ดี

ขณะเดียวกัน ความหลากหลายของประชาชนในอนาคต มีบทบาทจากเศรษฐกิจสังคมที่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากสภาวะสังคมสูงอายุแนวทางการขับเคลื่อนที่เน้นการดุงดูดแรงงานมีทักษะฝีมือ เพื่อช่วยเป็นเกณฑ์การตัดสินใจ ย้ายมาเพื่อช่วยขับเคลื่อนประเทศ อาจนำไปสู่การพัฒนารูปแบบประกันสุขภาพเป็นแพคเกจที่เข้าถึงและตอบโจทย์ความหลากหลาย

 

ตระหนักดูแลป้องกันสุขภาพ บริหารจัดสรรการเงิน

3) An Era of New Risk Frontiers ทิศทางของความเสี่ยงรูปแบบใหม่ๆ ที่เพิ่มสูงขึ้นและส่งผลต่อแนวทางการบริหารจัดการงบประมาณสุขภาพ ทั้งความเสี่ยงสุขภาพโรคภัยที่เกิดขึ้นจากโรคอุบัติใหม่ ภัยธรรมชาติ และผลกระทบทางตรงและทางอ้อมจากภาวะสงครามและวิกฤติโลก

พฤติกรรมและวิถีชีวิตแบบใหม่ สะท้อนปัญหาสุขภาพ ที่ต้องใช้แนวทางและเวลาในการดูแลรักษาแตกต่างไป และ การลงทุนด้านทรัพยากรบุคคลและงบประมาณ วิจัยความเสี่ยงใหม่ๆ ต่อสุขภาพ เพื่อนำไปสู่การเปิดช่องกลไกด้านการจัดการงบประมาณด้านสุขภาพ

4) People Centric Prosumerการดูแลสุขภาพที่ให้ความสำคัญกับประชาชน ผ่านการส่งเสริมป้องกัน มีส่วนร่วมและเสริมพลังของประชาชน / ชุมชนในพื้นที่ ทิศทางรูปแบบใหม่ Prosumer ของผู้รับบริการสุขภาพในฐานะผู้รับบริการ (บริโภค) และ ดูแล (ผลิต) สุขภาพของตนเองและสมาชิกในชุมชน

การสร้างความตระหนักรู้เรื่องการดูแลป้องกันสุขภาพ รู้เท่าทันและเข้าถึงสิทธิประโยชน์ผ่านช่องทางการส่งสารในฐานะผู้สื่อสารในช่องทางทั้งภายในและภายนอกหน่วยงานสุขภาพ การตื่นรู้ของปราชนในการตรวจสอบบริการภาครัฐ ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ทางโซเชียลมีเดีย

ขณะเดียวกัน บทบาทอนาคตของชุมชนในฐานะผู้ให้บริการ มีส่วนร่วมในการดูแลโรคภัยและสุขภาพ อาทิ กลุ่มการดูแลแบบประคับประคอง หรือกลุ่มที่มีค่าใช้จ่ายสุงและสามารถพักรักษาตัวที่บ้าน ตอบโจทย์การรักษาที่ใช้เวลาพักรักษาในตัวสถานพยาบาลน้อยลง

เทรนด์สุขภาพ 2024  ดูแลสุขภาพแบบรายบุคคล

5) Decentralized financing modelทิศทางการบริหารจัดสรรการเงินเพื่อสุขภาพรูปแบบใหม่สะท้อนการกระจายอำนาจและเสริมแรงจูงใจ โดยแนวทางการบริหารจัดการด้านการเงินแบบกระจายอำนาจและเสริมความคิดรูปแบบดูแลรักษาสุขภาพ และเสริมแรงจูงใจ นำไปสู่การดูแลสุขภาพโดยเน้นคุณค่า

อีกทั้ง ประเด็นทิศทางค่าใช้จ่ายด้านรักษาพยาบาลที่สูงขึ้น เนื่องด้วยสภาวะสังคมสูงวัย และภาระจากลุ่มโรคติดต่อไม่เรื้อรัง การสำรวจแนวทางแหล่งที่มาใหม่ๆ ของงบประมาณผ่านรูปแบบการเงินในอนาคต อาทิ ภาษีจากการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพในชุมชน

การระดมทุนรูปแบบใหม่ เช่น พันธบัตรระดับองค์กรหรือเมือง หรือร่วมพันธมิตรในการพัฒนาสนับสนุนสุขภาพและสุขภาวะประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้บรรลุการมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าตามเป้าประสงค์เพื่อมุ่งให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีที่เป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs)

เทรนด์สุขภาพ 2024  ดูแลสุขภาพแบบรายบุคคล

Health&Wellnessเน้น'ป้องกัน'

ขณะที่ จากการสำรวจโดยแมคคินซี แอนด์ คอมพานี (Mckinsey & Company) พบว่าปัจจุบันมี 6 มิติของการดูแลสุขภาพที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ Self-Care จึงเป็นมิติที่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม Health & Wellness ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ควรใช้เป็นพื้นฐานเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ ประกอบด้วย

Better Health มีสุขภาพที่ดี เป็นยุคที่ผู้บริโภคสามารถกำหนดเรื่องการดูแลสุขภาพได้ด้วยตัวเอง โดยใช้แอปพลิเคชันเพื่อช่วยในการนัดหมายแพทย์ มีแนวโน้มการสั่งซื้ออุปกรณ์การแพทย์ไปใช้เองที่บ้านมากขึ้น และการเข้าถึงยาได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องรอแพทย์

Better Fitness  มีสมรรถภาพร่างกายที่ดี คนหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ทำให้คอร์สออกกำลังกายออนไลน์และแอปพลิเคชันสุขภาพต่างๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค มีการเติบโตเป็นอย่างมากในปีที่ผ่านมา

Better Nutrition มีโภชนาการที่ดี ผู้บริโภคมีความต้องการอาหารที่ไม่เพียงแค่รสชาติดี แต่ต้องดีต่อสุขภาพด้วย ทำให้การใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันด้านโภชนาการ โปรแกรมควบคุมอาหาร และน้ำผลไม้ล้างพิษ ของผู้บริโภค 1 ใน 3 ทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง

เทรนด์สุขภาพ 2024  ดูแลสุขภาพแบบรายบุคคล

Better Appearance มีรูปลักษณ์ที่ดี ผู้บริโภคยังคงให้ความสนใจกับการดูแลรูปลักษณ์ และต้องการนำเสนอความเป็นตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุด ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา บริการเสริมความงามในรูปแบบไม่ต้องผ่าตัดอย่างการทำเลเซอร์ได้รับความนิยมอย่างมาก และคาดว่าในปี 2573 จะเกิดบริการด้านความงามที่เพิ่มมากขึ้นในรูปแบบต่างๆ

Better Sleep  มีการนอนหลับที่ดี ผู้บริโภคทั่วโลกต่างมีความต้องการผลิตภัณฑ์ และบริการที่ส่งเสริมการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ ปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่รองรับการรักษาการนอนหลับ อาทิ แอปพลิเคชันสำหรับติดตามการนอนหลับ เซ็นเซอร์ที่วางไว้ใต้ที่นอนเพื่อบอกการเคลื่อนไหวขณะนอนหลับ หรือคำนวณเวลาขณะนอนหลับ

Better Mindfulness  มีสติหรือความสงบทางใจที่ดี จากสถานการณ์ที่ทำให้คนทั่วโลกมีความตึงเครียดมากขึ้น ผลิตภัณฑ์และบริการที่ส่งเสริมความสงบทางใจ จึงได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันเพื่อฝึกการทำสมาธิหรือบริการเพื่อความผ่อนคลาย กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยม

โดยในปี 2573 เทคโนโลยีและอุปกรณ์สวมใส่ที่เชื่อมโยงกับความเครียดจะมีความสำคัญมากขึ้น อย่างคลาสโยคะออนไลน์ อุปกรณ์แจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาสงบนิ่ง และทำสมาธิ เป็นต้น

เทรนด์ย้อนวัยมาแรง

ขณะที่ อุตสาหกรรมศัลยกรรมความงามในไทยปัจจุบัน มีการเติบโตและเป็นที่นิยมอย่างมาก คาดว่าจะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 40,000 ล้านบาท โดยการศัลยกรรมที่ครองอันดับ 1 ยังคงเป็นการเสริมจมูก ส่วนศัลยกรรมย้อนวัยเป็นหนึ่งในเทรนด์ของโลกที่กำลังมาแรง ไม่จำกัดเพศ อายุ อาชีพ เนื่องจากเทคนิคและเทคโนโลยีที่พัฒนามากขึ้นทำให้คนเริ่มเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและผลการรักษา

ข้อมูลโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ระบุเทรนด์ศัลยกรรมที่ได้รับความนิยม 5 อันดับ ในประเทศไทย ได้แก่ 

อันดับ1 การเสริมจมูกทั้งการเสริมใหม่และแก้เปลี่ยนสไตล์  

อันดับ2 การทำตาไม่ว่าจะเป็นการทำตาสองชั้น เปิดหัวตา เปิดหางตา 

อันดับ 3 ดูดไขมันส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณท้อง ขา และแขน 

อันดับ 4 การส่องกล้องยกคิ้วซึ่งมาแรงในปีนี้ 

อันดับ 5 การทำหน้าอกจากเดิมจะเป็นเพียงการเสริม แต่ระยะหลังเริ่มมีการตัดแต่ง รวมถึงการตัดหนังหน้าท้อง

เทรนด์สุขภาพ 2024  ดูแลสุขภาพแบบรายบุคคล

Genetic Testing Laboratory  การแพทย์แม่นยำส่วนบุคคล

'นทพร บุญบุบผา' ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ ‘กรุงเทพธุรกิจ’ในอนาคตการท่องเที่ยว แบบ Wellness Tourism จะ เพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวให้มากขึ้น MP กรุ๊ป จะเป็นตัวเชื่อมเพื่อทำให้ระบบการท่องเที่ยวไทยมีความหลากหลาย และเพิ่มมูลค่า และสนับสนุนเศรษฐกิจให้ประเทศไทยมีความยั่งยืน ทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำ Wellness Hub ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแท้จริง และทำให้เกิดการนำชื่อเสียงไปสู่กลุ่มคนประเทศอื่นๆ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาไทย เพื่อดูแลรักษาตัวเอง และออกแบบให้ตรงกับเขามาเป็นอีกกลยุทธ์เพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวได้

ยกตัวอย่างเช่นการให้บริการ ตรวจ Genetic Testing Laboratory หรือตรวจยีนผ่านพันธุกรรม เป็นการแพทย์แบบเชิงป้องกัน หรือการแพทย์แม่นยำส่วนบุคคล เป็นขั้นสูงมากกว่าการตรวจเลือด เป็นการแพทย์แบบเชิงป้องกัน

วางแผนสุขภาพเชิงป้องกันแบบเฉพาะบุคคลในรูปแบบ Personalized Precision Medicine ที่เรียกว่า สแกนกรรม  เช่น การตรวจหายีนมะเร็งเต้านม BRCA1 และ BRCA2 เมื่อตรวจเจอสามารถวินิจฉัยได้ว่า 70-80 % สามารถพัฒนาเป็นมะเร็งได้หรือไม่หลัง นำไปสู่การรักษาในอนาคตบริษัทยาสามารถพัฒนายามาซ่อมในระดับยีน และจะทำให้ผู้คนมีอายุยืนยาวมากขึ้น

พบกับการสแกนกรรมได้ในงานมหกรรม Health & Wealth Expo 2023 ภายใต้แนวคิด The Journey of life จัดโดย เนชั่น กรุ๊ป ระหว่างวันที่ 9 – 12 พ.ย. 2566 เวลา 11.00 – 20.00 น. ที่ Hall 5 – 6 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่มีทั้งความรู้เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่ตอบสนองการใช้ชีวิตในแต่ละช่วงอายุอย่างครบวงจร

เทรนด์สุขภาพ 2024  ดูแลสุขภาพแบบรายบุคคล

โซน Happy Healthy ใส่ใจกับคุณภาพชีวิต และความงาม กับโรงพยาบาลชั้นนำ Health Gadget ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว จะปาฐกถาพิเศษ Road Map to Thailand Medical Hub ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ และเป็นประธานเปิดงานในวันแรกด้วย 

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีเวทีเสวนา 'เทรนด์สุขภาพ 2024' ,สมุนไพร โอกาสเศรษฐกิจไทย สร้างรายได้ตั้งแต่ฐานราก , ป้องกัน-ค้นหา-ฟื้นฟู ครบทุกมิติเรื่อง ‘มะเร็งเต้านม' รวมทั้งโอกาสทางธุรกิจสุขภาพและการแพทย์ อีกมากมาย