'รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์' ทุ่ม50 ลบ. บริการเช็กอัพร่างกาย รองรับผู้ป่วย

ผลการสำรวจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของกลุ่มตัวอย่างในเอเชียกว่า 4,000 คน จากประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และประเทศไทย จัดทำโดยฟิลิปส์เปิดเวว่า กว่า 94% ของกลุ่มตัวอย่าง ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และกว่า 30% มีการใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพส่วนบุคคลในการตรวจวัดสุขภาพของตัวเอง เพิ่มขึ้นกว่าก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19

แสดงให้เห็นว่า ผู้คนในเอเชียเล็งเห็นถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีด้านการดูแลสุขภาพส่วนบุคคลมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และกว่า 66% ของกลุ่มตัวอย่าง ต้องการอุปกรณ์และเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพส่วนบุคคลที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของพวกเขาแต่ละคนได้

นอกจากนี้ กว่า 53% มีความเห็นว่าปัจจัยหลักที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกอุปกรณ์ดูแลสุขภาพส่วนบุคคล คือความสามารถในการปรับแต่งอุปกรณ์ให้เข้ากับเป้าหมายด้านสุขภาพของแต่ละคน รวมถึงปัจจัยเกี่ยวกับความแม่นยำของข้อมูล 70% ราคา 65% มีพารามิเตอร์ตรวจวัดสุขภาพ 60% และทนทาน 48%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ส่อง 3 "เทรนด์ดูแลสุขภาพ" ปี 66 บริการไหนตอบโจทย์คนยุคใหม่

WARRIX ลุยตลาด 'Healthcare' รับเทรนด์รักสุขภาพครบวงจร

จับตา 6 มิติ ดูแลสุขภาพ "เชิงป้องกัน" เคลื่อนอนาคต Health & Wellness

 

'MRI ' เครื่องมือแพทย์ ตรวจไว แม่นยำ วินิจฉัยเร็ว

พล.ต.ท.นพ. วิฑูรย์ นิติวรางกูร ประธานบริษัท รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่าเอ็ม อาร์ ไอ ถือเป็นเครื่องมือการแพทย์ที่มีบทบาทสำคัญให้แพทย์และบุคลากรสามารถวินิจฉัยอวัยวะภายในได้อย่างละเอียด ปัจจุบันบริการเอ็ม อาร์ ไอ ในประเทศไทย ส่วนใหญ่อยู่ในโรงเรียนแพทย์หรือโรงพยาบาลขนาดใหญ่

อีกทั้งยังอาศัยบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการแปลผล และอาจมีระยะเวลารอคิวพบแพทย์ยาวนานหลายเดือน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งในประเทศไทย ที่ล่าสุดปี 2566 มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นราว 140,000 คน รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์ (Rachvipa MRI Center) ในฐานะศูนย์ตรวจวินิจฉัยร่างกายด้วยเครื่องเอ็ม อาร์ ไอ ที่ได้การรับรองมาตรฐานสากล ISO 9001:2008 และ JCI 

ได้ลงทุนกว่า 50 ล้านบาท เปิดตัว 'MAGNETOM Altea' เครื่อง MRI รุ่นล่าสุดจากบริษัทซีเมนส์ เฮลท์ธิเนียร์ส ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วของการวินิจฉัยด้วย MRI ลดเวลาการรอคอย

"ในฐานะส่วนหนึ่งของระบบสาธารณสุขไทย จึงมีบทบาทในการแบ่งเบาการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยจากสถานพยาบาลอื่น ๆ ด้วยบริการตรวจยืนยันโรคโดยเทคโนโลยีเอ็ม อาร์ ไอ ที่ทันสมัยเพื่อการวินิจฉัยที่รวดเร็วและแม่นยำจากบุคลากรทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ให้ผู้ป่วยได้รับการตรวจที่ทันการพร้อมลดระยะเวลาการรอคิวพบแพทย์ที่โรงพยาบาลจากหลายเดือนเป็นได้ตรวจทันที"พล.ต.ท. นพ. วิฑูรย์ กล่าว

พร้อมทั้ง รองรับจำนวนผู้เข้าใช้บริการได้มากยิ่งขึ้น สอดรับกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่ให้ความสำคัญกับการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมทางการแพทย์ครบวงจรในระดับนานาชาติ (Medical Hub) 

 

เปิดบริการตรวจเช็กร่างกาย รับเทรนด์สุขภาพเชิงป้องกัน            

ด้าน นพ. ดั่งดำริ นิติวรางกูร ผู้อำนวยการศูนย์ รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์ กล่าวว่า สำหรับก้าวต่อไปของรัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์ นอกจากการตรวจวินิจฉัยโรคให้แก่ผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที เพื่อให้ได้เข้ารับการรักษาที่เฉพาะเจาะจง โดยไม่ต้องรอคิวนาน 

"ปัจจุบัน ยังตอบโจทย์การดูแลสุขภาพและตรวจคัดกรองโรคตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม ด้วยบริการ MRI Check-up ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่ใส่ใจสุขภาพของตนเอง จากการเติบโตของเทรนด์การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันก่อนเกิดโรค"นพ. ดั่งดำริ กล่าว

โดยเทคโนโลยีMRI ที่ศูนย์ฯ สามารถวินิจฉัยระบบอวัยวะภายในได้เกือบทุกส่วนในร่างกาย ทำให้สามารถตรวจพบโรคร้ายแรงต่าง ๆ ที่พบได้บ่อย เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็งตับ ข้อเสื่อม ไปจนถึงโรคหมอนรองกระดูกเสื่อมได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการ ซึ่งโรคเหล่านี้มักไม่แสดงสัญญาณความผิดปกติในระยะแรก เพื่อให้สามารถรักษาอย่างตรงจุดได้ทันการก่อนพัฒนาไปยังระยะลุกลาม นอกจากนี้ จากการที่กระบวนการตรวจด้วยMRI เป็นการวินิจฉัยด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ผู้สนใจจึงมาตรวจด้วยเครื่อง MRI รุ่น MAGNETOM Altea ได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องกังวลถึงปริมาณรังสีสะสม

“ผู้ที่ใช้สิทธิ์ 30 บาทรักษาทุกโรค ประกันสังคม ประกันชีวิต หรือสิทธิ์ข้าราชการ สามารถใช้สิทธิ์ดังกล่าวเพื่อรับการตรวจที่รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์ได้ ในกรณีที่แพทย์จากโรงพยาบาลที่ใช้สิทธิ์ออกใบส่งตรวจมายังศูนย์ฯ ซึ่งจะทำให้สามารถใช้บริการวินิจฉัยด้วยเอ็ม อาร์ ไอ ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม” นพ. ดั่งดำริ กล่าว

รู้จัก MRI รุ่น 'MAGNETOM Altea' แม่นยำสูง

นายบีเยิร์น โบเด็นสไตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีเมนส์ เฮลท์ธิเนียร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า ซีเมนส์เฮลท์ธิเนียร์ส ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมทางการแพทย์จากประเทศเยอรมันที่มีเป้าหมายในการบุกเบิกนวัตกรรมการดูแลสุขภาพเพื่อผู้คนทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

โดยเครื่อง MRI รุ่น 'MAGNETOM Altea' ที่รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์ โดยเครื่องรุ่นนี้ มีการผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่จะเปลี่ยนโฉมการบริการด้านรังสีการแพทย์ และส่งมอบการตรวจวินิจฉัยความแม่นยำสูงที่รวดเร็ว พร้อมเพิ่มความพึงพอใจของผู้รับการสแกนจากเทคโนโลยีที่ออกแบบโดยมีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง

จุดเด่นของเครื่องเอ็ม อาร์ ไอ รุ่น MAGNETOM Altea ประกอบไปด้วย

• ความแม่นยำของเทคโนโลยี AI: มีการใช้เทคโนโลยี BioMatrix และเทคโนโลยีอินเตอร์เฟซ Select&GO ปรับการสแกนตามกายวิภาคของผู้รับการสแกนอย่างอัตโนมัติ นอกจากนี้เครื่องรุ่นดังกล่าวยังมาพร้อม Tim 4G และ Dot ซอฟต์แวร์ที่ช่วยสร้างความคงที่ในมาตรฐานการสแกน พร้อมเพิ่มจำนวนรอบการสแกน ทำให้ได้ภาพทางการแพทย์คุณภาพสูง ลดความซับซ้อนในกระบวนการสแกน พร้อมลดความจำเป็นในการสแกนซ้ำได้
• ความรวดเร็ว: ด้วยนวัตกรรม Turbo Suite ที่ประกอบด้วยแอปพลิเคชันกระชับระยะเวลาการสแกนและกระบวนการต่าง ๆ จะทำให้ลดเวลาสแกนได้มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับเครื่องเอ็ม อาร์ ไอ รุ่นทั่วไป โดยได้ภาพการสแกนคุณภาพและรายละเอียดสูงตามเดิม
• ความสะดวกสบายสำหรับผู้รับการสแกน: ด้วยเทคโนโลยีที่ออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ป่วยเป็นหลัก อย่างการลดความวิตกกังวลและความอึดอัดขณะทำการสแกนด้วยดีไซน์อุโมงค์เครื่องตรวจขนาดกว้าง 70 เซนติเมตร และสั้นเพียง 157 เซนติเมตร พร้อมระบบการทำงานที่เงียบลดเสียงรบกวน นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ยังทำให้ผู้รับการสแกนไม่ต้องกลั้นหายใจเป็นระยะเวลานาน เทียบกับเครื่องรุ่นก่อน

"MRI รุ่นดังกล่าว นอกจากมีประสิทธิภาพการสแกนที่น่าพึงพอใจและระยะเวลาการสแกนที่รวดเร็วแล้ว ได้มีการออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ลดข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยและผู้เข้ารับการวินิจฉัยสามารถใช้บริการตรวจด้วยเครื่องเอ็ม อาร์ ไอ ได้มากยิ่งขึ้น"นายบีเยิร์น กล่าว

อย่างไรก็ตาม ซีเมนส์ เฮลท์ธิเนียร์ส เชื่อมั่นว่า MAGNETOM Altea จะเสริมประสิทธิภาพการทำงานแก่บุคลากร และอำนวยความสะดวกให้ผู้รับการวินิจฉัยที่รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์ ตลอดจนบุกเบิกการเข้าถึงนวัตกรรมทางการแพทย์