'เบโค' ปลูกฝัง Leadership DNA บ่มเพาะทรัพยากรบุคคลอย่างยั่งยืน

'เบโค' ปลูกฝัง Leadership DNA  บ่มเพาะทรัพยากรบุคคลอย่างยั่งยืน

เบโค (Beko) เผยเคล็ดลับการบริหารคนเก่ง (Talent Management) ปลูกฝัง Leadership DNA สร้างแรงบันดาลใจ พัฒนาศักยภาพพนักงาน วางแผนความสำเร็จระยะยาวร่วมกัน ชูแนวคิด ESG ครอบคลุมไปถึงการสร้างคนอย่างยั่งยืน

Key Point : 

  • การสร้างความยั่งยืนในมุมมองของ 'เบโค' ในฐานะแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากยุโรป ไม่เพียงแค่การพัฒนานวัตกรรมตอบโจทย์สังคมและสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังต้องพัฒนาคนให้เติบโตไปพร้อมกัน
  • ทั้งนี้ การบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างยั่งยืนนั้น มุ่งปลูกฝัง Leadership DNA สร้างแรงบันดาลใจ และการวางแผนสำหรับความสำเร็จระยะยาวร่วมกับพนักงาน
  • พร้อมกับให้ความยืดหยุ่นในการทำงานตอบโจทย์ความแตกต่างของเจนเนอเรชั่น เปิดโอกาสให้พนักงานเรียนรู้ พัฒนาตัวเอง เปิดโอกาสในการทำงานต่างๆ มากขึ้น

 

 

'เบโค' (Beko) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากยุโรป ภายใต้การบริหารงานของ ‘อาร์เซลิก’ (Arcelik) ซึ่งมีวิสัยทัศน์ในการเสริมสร้างสุขภาพชีวิตที่ดียิ่งกว่าให้กับผู้บริโภคในสังคมไทย โดยยึดหลักการพัฒนานวัตรรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ยั่งยืนและเทคโนโลยีที่เสริมสร้างคุณค่าทางโภชนาการและสุขอนามัยให้ดียิ่งขึ้น เพื่อยกระดับทั้งคุณภาพชีวิตผู้คนและสิ่งแวดล้อม

 

และแน่นอนว่า ไม่เพียงแค่การสร้างความยั่งยืนสู่สังคมและสิ่งแวดล้อมผ่านนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างยั่งยืน ด้วยวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของคนผ่านวัฒนธรรม 'Future Fit Talent' ในการตั้งเป้าการเติบโตไปพร้อมกัน ช่วยเหลือกัน ปลูกฝัง Leadership DNA เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และการวางแผนสำหรับความสำเร็จระยะยาวร่วมกับพนักงาน

 

\'เบโค\' ปลูกฝัง Leadership DNA  บ่มเพาะทรัพยากรบุคคลอย่างยั่งยืน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

 

แอเรียล อทากูล ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก บริษัท เบโค ไทย จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ 'กรุงเทพธุรกิจ' ว่า ปัจจุบัน พนักงานของ เบโค ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เป็นพนักงานหญิง 45% และ ผู้ชาย 55% เป็นพนักงานออฟฟิศ 350 คน พนักงานโรงงาน 870 คน ส่วนใหญ่เป็น เจน Y กว่า 70% เจน X ราว 25% เจน Z ราว 2% และ Baby Boomer ประมาณ 1% โดยเบโค ให้ความสำคัญกับเรื่องของความหลากหลาย รวมถึงมี กิจกรรมต่างๆ ที่เหมาะกับทุกเจนเนอเรชั่น โดยเฉพาะเรื่องของ Sustainability จะสำคัญมากกับกลุ่มเจน Z และ เจน Y เพราะเขาจะคิดถึงการเติบโตในอนาคต บริษัทจะเข้าไปเติมเต็มและทำให้เขามีความสุขกับการทำงาน

 

“กลยุทธ์การบริหารคนเก่ง (Talent Management) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อันดับแรก คือ การเข้าถึงผู้สมัคร ผู้ที่จะเข้ามาเป็น Talent ของบริษัท ด้วยวัฒนธรรมของเบโก คือ Leadership DNA ถัดมา คือ ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน คัดเลือก บริหารจัดการ คนเก่ง เพื่อสร้าง Talent ให้ตอบโจทย์กับความต้องการบริษัท รวมถึง การพัฒนาความสามารถ โดยเปิดโอกาสให้เรียนรู้ พัฒนาตัวเอง ใน Leadership Program พัฒนาทุกคน ให้เข้าถึงการพัฒนาตัวเองได้ อีกทั้ง มีโปรแกรมที่รวบรวมเทรนเนอร์จากหลายประเทศ เข้ามาเทรนด์เพื่อกลับไปพัฒนาประเทศตัวเองต่อ”

 

\'เบโค\' ปลูกฝัง Leadership DNA  บ่มเพาะทรัพยากรบุคคลอย่างยั่งยืน

 

5 Leadership DNA

 

ด้วยความเชื่อที่ว่า ทุกคนมีความสามารถในการพาองค์กร ไปสู่ความสำเร็จได้ ดังนั้น Leadership DNA ของเบโค จึงประกอบด้วย 5 อย่าง คือ 1. ทำงานด้วยเป้าหมาย โดยทุกคนมีส่วนร่วม 2. ผลักดันให้ทุกคนมีสมรรถนะที่จะเดินไปข้างหน้า 3.สร้างอนาคตร่วมกัน 4.การสร้างคนในองค์กรเพื่อเป็นทรัพยากรที่เหมาะสำหรับอนาคต และ 5. ทำให้ทุกคนสามารถเติบโตไปด้วยกันกับบริษัท โดยร่วมกันวางแนวทางการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่พนักงานตั้งแต่แรก โดยให้ความสำคัญกับ Culture , Value และ Leadership DNA

 

 “การให้ความสำคัญกับการสร้างทรัพยากรบุคคลที่กล่าวมาข้างต้น สะท้อนออกมาเป็น 4 เรื่องสำคัญ คือ 1. ผู้บริโภคจะได้ใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กับแบรนด์ 2. ความเป็นอยู่ที่ดี สินค้าครอบคลุมรอบด้าน ให้ผู้บริโภคได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น 3. สร้างแรงบันดาลใจ นวัตกรรมใหม่ๆ ให้ทุกคนได้ใช้งาน และ 4. สนับสนุนให้พนักงานเติบโตไปพร้อมกับบริษัท”

 

การบริหารคนในทุกประเทศ ยังเป็นไปตามกลยุทธ์หลักในระดับ Global ขณะเดียวกัน ในทางปฏิบัติ แต่ละประเทศต้องนำมาปรับเพื่อให้เข้ากับบริบทแต่ละพื้นที่ นอจากนี้ ในเรื่องของการทำงานที่มีหลากหลายเจนเนอเรชั่น เรียกว่าไม่มีปัญหา เนื่องจากมีการเทรนนิ่งเพื่อให้เข้าใจความต่างของแต่ละเจนฯ ว่าแต่ละเจนฯ มีความคาดหวังต่างกันอย่างไร และต้องเติมเต็มความคาดหวังอย่างไร กลุ่มเจน Z และ เจน Y อาจจะต้องการความสุขกับการทำงาน 

 

\'เบโค\' ปลูกฝัง Leadership DNA  บ่มเพาะทรัพยากรบุคคลอย่างยั่งยืน

 

"บริษัทก็ให้ความยืดหยุ่นค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการ Work from home โดย เบโค ไทย ให้พนักงานทำงานที่บ้านทุกวันศุกร์นอกจาก ค่าตอบแทนที่พนักงานจะได้รับแล้ว ความคาดหวังที่อยากจะให้พนักงานได้รับเมื่อก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเบโค คือ การเปิดโอกาสให้สำหรับการเรียนรู้ พัฒนาตัวเอง ซัพพอร์ต Readership Program เปิดโอกาสในการทำงานต่างๆ มากขึ้น แต่ที่สุดแล้ว ก็คือ การที่ได้มอบวัฒนธรรมองค์กร เปรียบเสมือนครอบครัว และสร้างแรงบันดาลใจในด้านความยั่งยืนให้กับพนักงาน ทั้งหมดเป็นการสร้างคน และสร้าง Talent”

 

ESG กุญแจความสำเร็จองค์กร

 

ทั้งนี้ การส่งเสริมการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างยั่งยืนในตลาดแรงงานปัจจุบัน “แอเรียล” มองว่า คำว่า Sustainability เป็นคำที่ใหญ่มาก ประกอบด้วยทั้งแง่มุมของสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล (ESG) ทั้งหมดเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จในระยะยาว ซึ่ง เบโค ให้ความสำคัญกับ ESG ครอบคลุมไปถึงการสร้างคนที่มีความยั่งยืน

 

“การสร้างคนอย่างยั่งยืน จะรวมถึงแผนระยะยาว และการพัฒนาคนในองค์กรให้สามารถเติบโต ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่พนักงาน ในฐานะที่เบโค เป็นแบรนด์เครื่องใช้ภายในบ้าน ภายใต้ ‘อาร์เซลิก’ นับเป็นปีที่ 6 อยู่ในลิสต์ Dow Jones Sustainability Index ดัชนีที่คัดเลือก “หุ้นยั่งยืนระดับโลก” สำหรับบริษัทชั้นนำที่มีความโดดเด่นในการทำธุรกิจ และคำนึงถึงประเด็นเรื่องความยั่งยืนเป็นหลัก นอกจากนี้ ปลายปี 2020 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับคะแนนสูงที่สุด จาก 46 บริษัทฯ แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน จาก S&P Global Corporate Sustainability Assessment ในการจัดอันดับผู้นำด้านความยั่งยืนอีกด้วย” แอเรียล กล่าวทิ้งท้าย

 

\'เบโค\' ปลูกฝัง Leadership DNA  บ่มเพาะทรัพยากรบุคคลอย่างยั่งยืน