'Pet Parent' เลี้ยงสัตว์เป็นลูก ดันตลาดโต 6.6 หมื่นล้าน ปี 2026

'Pet Parent' เลี้ยงสัตว์เป็นลูก ดันตลาดโต 6.6 หมื่นล้าน ปี 2026

เทรนด์การเลี้ยงสัตว์เป็นลูก เสมือนคนในครอบครัว หรือ 'Pet Parent' กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดสัตว์เลี้ยงเติบโต มีการคาดการณ์ว่าในปี 2026 ทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 217,615 ล้านเหรียญสหรัฐ

Key Point : 

  • เทรนด์การเลี้ยงสัตว์ที่เปรียบเสมือนคนในครอบครัว หรือ Pet Parent ทำให้ตลาดสัตว์เลี้ยงเติบโต ไม่ว่าจะข้าวของเครื่องใช้ และบริการต่างๆ รวมถึงการส่งเสริมสุขภาพ
  • มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2026 ตลาดสัตว์เลี้ยงทั่วโลก จะมีมูลค่าสูงถึง 217,615 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ไทย คาดโตเฉลี่ยปีละ 8.4% มูลค่าตลาดราว 66,748 ล้านบาท
  • ปัจจุบันมีโรงพยาบาลสัตว์ที่จดทะเบียนทั่วประเทศมากกว่า 3,500 แห่ง อีกทั้ง การพัฒนาเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงกับคน รวมถึงการดูแลสุขภาพ รักษา ป้องกันโรค ที่เฉพาะทาง เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่รักสัตว์เลี้ยงเหมือนคนในครอบครัว

 

ในยุคที่ผู้คนนิยมเลี้ยงสัตว์เป็นลูกหรือเปรียบเป็นสมาชิกครอบครัว ทำให้บทบาทของโรงพยาบาลสัตว์ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นในการสนับสนุนส่งเสริมสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี และความสุขของสมาชิกครอบครัวหลากพันธุ์ ด้วยบริการทางการแพทย์ซึ่งปรับให้เหมาะสมกับความต้องการ ตั้งแต่การตรวจสุขภาพ การฉีดวัคซีน ไปจนถึงการรักษา การผ่าตัดเฉพาะทาง ฯลฯ

 

ข้อมูลจาก Euromonitor พบว่า ในปี 2021 ธุรกิจสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยงมีมูลค่ากว่า 60,691 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมีมูลค่า 156,960 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้ง คาดการณ์ว่า ในปี 2026 ตลาดสัตว์เลี้ยงของโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 217,615 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 7.2% โดยธุรกิจสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยงมีมูลค่าราว 60,691 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมีมูลค่า 156,960 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

\'Pet Parent\' เลี้ยงสัตว์เป็นลูก ดันตลาดโต 6.6 หมื่นล้าน ปี 2026

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

 

 

ในขณะที่ข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ประเทศไทย ในปี 2021 ธุรกิจสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยงมีมูลค่า 3,954 ล้านบาท และ ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมีมูลค่า 40,638 ล้านบาท คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงของไทยจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 8.4% มาอยู่ที่ 66,748 ล้านบาทในปี 2026 ได้แก่ ธุรกิจสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยงมูลค่า 6,253 ล้านบาท และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมีมูลค่า 60,495 ล้านบาท 

 

สถานการณ์การเปิดโรงพยาบาลสัตว์ในไทย มีการขอขึ้นจดทะเบียนในปี 2566 รวมประมาณ 800 แห่ง เพิ่มขึ้นจากในปี 2565 มีการขอขึ้นทะเบียน 500-600 แห่ง ปัจจุบันมีโรงพยาบาลสัตว์ที่จดทะเบียนทั่วประเทศมากกว่า 3,500 แห่ง 

 

\'Pet Parent\' เลี้ยงสัตว์เป็นลูก ดันตลาดโต 6.6 หมื่นล้าน ปี 2026

 

เทรนด์ Pet Parent เลี้ยงเป็นลูก

 

สพ.ญ. มนัสนันท์ ริปุญชัยพงศ์ Marketing Director โรงพยาบาลสัตว์พญาไท 7 หนึ่งผู้ก่อตั้ง ให้สัมภาษณ์ กรุงเทพธุรกิจ ว่า สังคมปัจจุบันเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น ไม่มีลูก รวมถึงกลุ่ม LGBTQ+ ทำให้คนนิยมเลี้ยงสัตว์เป็นลูกแทน ประกอบกับ ช่วงโควิดที่ผ่านมายิ่งกระตุ้นตลาดจากการอยู่บ้านมากขึ้น คนมองหาสัตว์เลี้ยง กลายเป็นเทรนด์ Pet Parent เลี้ยงเป็นลูก เจ้าของยอมจ่ายค่าเลี้ยงดูที่สูงขึ้นในเชิงป้องกัน (Preventive) เช่น ฉีดวัคซีน ตรวจสุขภาพ ป้องกันเห็บหมัดประจำปี รวมถึง เรื่องของ Wellbeing สปา อาบน้ำ ตัดขนที่มีความพรีเมียมมากขึ้น การดูแลเฉพาะสายพันธุ์ เลือกซื้ออาหารตามสายพันธุ์ให้เฉพาะเจาะจง รวมถึงการมีแพทย์เฉพาะทางที่ดูแลได้ครอบคลุม ความต้องการสูงขึ้นเนื่องจากอยากเลี้ยงสัตว์เลี้ยงให้เหมือนลูกจริง

 

\'Pet Parent\' เลี้ยงสัตว์เป็นลูก ดันตลาดโต 6.6 หมื่นล้าน ปี 2026

 

“ทั้งนี้เมื่อดูการใช้จ่ายต่อครั้งในการพาสัตว์เลี้ยงมาที่ รพ. จะอยู่ที่ประมาณ 2,000 – 2,500 บาท และยังมีการตรวจสุขภาพปีละ 2 ครั้ง เพราะฉะนั้น ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ราว 10,000 บาทต่อปีเฉพาะรักษา หากรวมอาหารที่ต้องซื้อตลอด จะอยู่ที่ราว 15,000 บาทต่อปี ยิ่งตัวใหญ่ค่าใช้จ่ายก็จะสูง และขึ้นอยู่กับเจ้าของจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไหน” 

 

สำหรับประเภทของ รพ.สัตว์ หากแบ่งตาม กรมปศุสัตว์ จะแบ่งเป็น รพ.สัตว์ที่ไม่มีที่พักสัตว์ป่วย และ มีที่พักสัตว์ป่วยน้อยกว่า 10 ที่ และ มากกว่า 10 ที่ และหากจำแนกโดยทั่วไปจะมีตั้งแต่ ขนาดเล็ก ตึกแถวมีหมอและผู้ช่วย ดูแลทั่วไป เป็นคลินิกรักษาสัตว์ ถัดมา คือ ขนาดกลาง มีเครื่องเอกซเรย์ อุปกรณ์ที่จำเป็นพื้นฐาน แต่ไม่มีแล็บ เริ่มมีจำนวนหมอเพิ่มขึ้นมาราว 2 คนต่อเวร และสุดท้าย คือ ขนาดใหญ่ มีหมอเฉพาะทางหลายโรค มีที่พักสัตว์มากกว่า 10 ที่ มีอุปกรณ์ ตรวจเลือดแล็บ

 

\'Pet Parent\' เลี้ยงสัตว์เป็นลูก ดันตลาดโต 6.6 หมื่นล้าน ปี 2026

 

สพ.ญ. มนัสนันท์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมธุรกิจ รพ.สัตว์ สัดส่วนที่เยอะที่สุด คือ ขนาดเล็ก ราว 60 % และ ขนาดกลาง 30 % และ ขนาดใหญ่ราว 10 % ซึ่งส่วนใหญ่อยู่หัวเมืองจังหวัด กทม. และปริมณฑล การแข่งขันถือว่าค่อนข้างสูงมาก เนื่องจากตลาดสัตว์เลี้ยงค่อนข้างโตขึ้น เวลาไปพาสัตว์เลี้ยงไปหาหมอ เจ้าของอาจจะเริ่มจากไปหาใกล้บ้านก่อน เพราะฉะนั้น พื้นที่ไหนที่ไม่มี ก็จะมีการเปิดขึ้นมาในจำนวนที่ค่อนข้างเยอะและถี่ในขนาดเล็กและขนาดกลาง แต่ขนาดใหญ่ยังไม่เยอะมาก แต่การแข่งขันก็สูงเช่นกัน เนื่องจากเจ้าของจะตามหารพ.ที่เหมาะกับสัตว์เลี้ยงและความเฉพาะทาง 

 

เทคโนโลยีใกล้เคียงกับรักษาคน

 

สำหรับเทคโนโลยีการวินิจฉัยและรักษาสัตว์ยุคใหม่ มีการพัฒนามากยิ่งขึ้น จากเดิมจะเป็นแค่การเอกซเรย์ ก็เริ่มมี CT scan อัลตร้าซาวด์ และเครื่อง MRI ซึ่งสมัยก่อนจะต้องปรับใช้อุปกรณ์ของคนมาใช้กับสัตว์ แต่ปัจจุบันมีอุปกรณ์สำหรับสัตว์โดยเฉพาะมากขึ้น เหมาะสมกับขนาดตัว อีกทั้ง เทคโนโลยีการรักษา มีการผ่าตัดส่องกล้อง ส่องกล้องตรวจภายใน เทคโนโลยีการวางยาสลบสัตว์ให้ปลอดภัยที่สุด มีเครื่องมอนิเตอร์เหมือนคน และใช้ยาสลบที่ใกล้เคียงกับคนเพื่อความปลอดภัย

 

จะเห็นว่า เทคโนโลยีเริ่มพัฒนาใกล้เคียงกับการรักษาคนมากขึ้น ส่งผลให้การวินิจฉัยได้ลึกและค้นหาโรคซับซ้อนได้มากขึ้น นอกจากนี้ การรักษาสัตว์ยังมีหมอเฉพาะทาง เช่น หัวใจ ไต ผิวหนัง เนื้อเยื่อประสาท ฟัน เป็นต้น อีกทั้ง ปัจจุบัน มีคลินิกโรคแมวโดยเฉพาะ เนื่องจากแมวมีเอกลักษณ์ของตัวเอง โรคบางโรคจะไม่เหมือนสุนัข 

 

\'Pet Parent\' เลี้ยงสัตว์เป็นลูก ดันตลาดโต 6.6 หมื่นล้าน ปี 2026

 

ขณะเดียวกัน การจัดสภาพแวดล้อมในคลินิกหรือโรงพยาบาล ยังเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสัตว์เลี้ยงและส่งผลต่อจิตใจเจ้าของ เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับสุนัขอาจจะไม่เหมาะกับแมว หากสถานที่ที่มารับการรักษาแยกส่วน โดยที่แมวมีสภาพแวดล้อมที่เงียบกว่า ไม่ได้ยินเสียงเห่าและไม่มีกลิ่นสุนัขปะปนจะทำให้ความเครียดของแมวน้อยลง 

 

ในส่วนของ สัตว์แปลก (Exotic Pet) หากไม่ได้ยินเสียงไม่ได้กลิ่นของสัตว์ผู้ล่า เช่น สุนัข ความเครียดก็อาจจะน้อยกว่า รวมถึงบรรยากาศที่ส่งผลต่อความรู้สึกเจ้าของ ความทุกข์จากการที่สัตว์ป่วย ดังนั้น สไตล์การตกแต่งที่สร้างให้รู้สึกสบายใจ อบอุ่น เหมือนเป็นการรักษาจิตใจเจ้าของและสัตว์ไปด้วย

 

\'Pet Parent\' เลี้ยงสัตว์เป็นลูก ดันตลาดโต 6.6 หมื่นล้าน ปี 2026

 

เทรนด์เลี้ยงสัตว์กับการเติบโต

 

เทรนด์การเลี้ยงสัตว์จะมาในทางเลี้ยงแมวมากขึ้น เลี้ยงสัตว์ตัวเล็กๆ มากขึ้น เริ่มเห็นว่า รพ.สัตว์เฉพาะทางแมว อย่างเดียวมีมากขึ้น รพ.สัตว์เอ็กโซติกส์ มีมากขึ้นเนื่องจากความต้องการในการเลี้ยงที่ไม่ใช่เฉพาะสุนัข ถึงแม้ประชากรสุนัขจะเป็นสัดส่วนที่เยอะอยู่ก็ตาม แต่สัดส่วนแมวมีแนวโน้มเยอะขึ้น และความต้องการเฉพาะสายพันธุ์ก็จะเยอะขึ้น เช่น อาหารสัตว์ ของใช้ ฯลฯ 

 

“ความต้องการที่เฉพาะมากขึ้นในปัจจุบัน จึงส่งผลทำให้มี รพ.สัตว์ที่เฉพาะมากขึ้น เช่น รพ.สัตว์เอ็กโซติกส์ รพ.แมว หรือหากเป็น รพ.สัตว์ขนาดใหญ่ ก็ต้องมีศูนย์เฉพาะทางเพิ่มขึ้น เพื่อตอบโจทย์คนเลี้ยง มีหมอเฉพาะทางมากขึ้น ต่อไปน่าจะเห็นอีกเยอะ มาเป็นเทรนด์แน่นอน” สพ.ญ. มนัสนันท์ กล่าว

 

สำหรับเทรนด์การเลี้ยงสัตว์แปลก (Exotic Pet) ข้อมูลจาก วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU)  พบว่า ปัจจุบันได้มีการแบ่งออกเป็น 6 ประเภทหลัก ได้แก่

1.กลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน เช่น อีกัวน่า กิ้งก่า มังกรเครา งู หรือเต่า

2.กลุ่มสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เช่น กบลูกศรพิษ กบโกไลแอท ซาลาแมนเดอร์

3.กลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น ด้วง หรือแมงมุมทารันทูล่า

4.กลุ่มสัตว์ปีก เช่น นกคอกคาเทล นกแก้วมาคอร์ นกเหยี่ยว หรือนกยูง

5.กลุ่มปลาแปลก เช่น ปลาปักเป้าฟาฮากา หรือปลาเทพา และ

6.กลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น แฮมสเตอร์ สุนัขจิ้งจอก ชูการ์ไกลเดอร์

 

\'Pet Parent\' เลี้ยงสัตว์เป็นลูก ดันตลาดโต 6.6 หมื่นล้าน ปี 2026