Active Youth ‘Pain to Power’ เปิดพื้นที่ปลอดภัยให้เยาวชน

สสส. จัดเวที Active Youth ‘Pain to Power’ เปิดพื้นที่ปลอดภัยให้เยาวชนเล่าประสบการณ์ความเจ็บปวดจากปัจจัยเสี่ยง พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้เปลี่ยนความทุกข์เป็นพลัง
KEY
POINTS
- วัยรุ่นกำลังเผชิญกับความกดดัน ความเครียด และความเจ็บปวดที่ไม่ถูกพูดถึง ทั้งจากตัวเอง ครอบครัว โรงเรียน เพื่อน และโลกออนไลน์
- Active Youth “Pain to Power” เปลี่ยนความเจ็บปวดเป็นพลัง เปิดเวทีเสวนาเคสตัวอย่าง สร้างแรงผลักดันและกำลังใจให้เยาวชน
- เยาวชนได้รับปัจจัยเสี่ยงทั้งจากเลือกใช้เอง และคนรอบข้าง ตั้งแต่สารเสพติด บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การพนัน ความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงทางเพศ
ปัจจุบันปัญหาสุขภาพจิตในกลุ่มวัยรุ่นไทยกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น เบื้องหลังรอยยิ้มสดใส วัยรุ่นจำนวนไม่น้อยกำลังเผชิญกับความกดดัน ความเครียด และความเจ็บปวดที่ไม่ถูกพูดถึงอย่างจริงจัง ทั้งจากตัวเอง ครอบครัว โรงเรียน เพื่อน หรือแม้กระทั่งโลกออนไลน์ที่เต็มไปด้วยการเปรียบเทียบและการแข่งขัน
กลายเป็นปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่การใช้สารเสพติด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การพนัน ความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงทางเพศ
วันที่ 20 กันยายน 2568 เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง มูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมจัดกิจกรรมเนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ 2568 Active Youth “Pain to Power” เปลี่ยนความเจ็บปวดเป็นพลัง โดยมี รศ.ดร.วิทยา กุลสมบูรณ์ กรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 สสส.เป็นประธานเปิดงาน เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ ลดผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่ตามมา พร้อมเรื่องราวการแปรเปลี่ยนบาดแผลให้กลายเป็นแรงบันดาลใจ ผ่านงานศิลปะ ดนตรี และเรื่องเล่าจากเวทีเสวนา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
พลังชุมชนเปลี่ยนชีวิต... สสส.-มท.-สวร. ดัน 'CBTx' ฟื้นคนดีสู่สังคม
จุด Turning Point : Active Youth “Pain to Power”
เพราะวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยกำลังเผชิญกับความเจ็บปวดที่เริ่มสะสมจากสิ่งเล็ก ๆ เช่น ความคาดหวังจากครอบครัว สังคม ปัญหาผลการเรียน การถูกรังแก (bullying) ความรุนแรง หรือการต้องเปรียบเทียบกับ “ความสมบูรณ์แบบ” ที่เห็นในโซเชียลมีเดีย ความเจ็บปวดเหล่านี้ก่อตัวเป็นภาวะเครียด วิตกกังวล หรือซึมเศร้า จนนำไปสู่ “จุดหักเห” หรือที่เรียกว่า “ปัจจัยเสี่ยง” ในการเข้าไปมั่วสุมกับอบายมุขต่าง ๆ อย่างสารเสพติด บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การพนัน ความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงทางเพศ
“เราคงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องเยาวชนเป็นอย่างมาก เยาวชนในรุ่นนี้ได้รับผลกระทบจากปัญหาที่ถาถมมากกว่าเยาวชนในรุ่นก่อนก่อน ประสบกับความลำบากในวิถีชีวิต นอกจากตัวเลขสถิติแล้ว สิ่งที่น่าสนใจคือวิถีชีวิตของเราในขณะนี้ จะไปอย่างไร ในขณะที่บ้านเมืองมีความเปลี่ยนแปลงเยอะมาก กิจกรรมนี้จึงอยากเข้าใจธรรมชาติและความเป็นไปของวัยรุ่น ตีแผ่ปัญหาปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นของเด็กและเยาวชนเพื่อสร้างเสริมสุขภาพวะในเด็กและเยาวชนไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆทั้งบุหรี่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สารเสพติดการพนันและความรุนแรง” รศ.ดร.วิทยา กล่าว
ปัจจัยเสี่ยงและสถิติที่น่ากังวล
รศ.ดร.วิทยา ระบุว่า ผลสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุราของประชากรไทยพ.ศ. 2567 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าเยาวชนอายุ 15-24 ปีสูบบุหรี่ 11.15% และมีอัตราการดื่มแอลกอฮอล์อยู่ที่ 24.8% หรือจำนวน 20.9 ล้านคน ด้วยสาเหตุเหล่านี้นำไปสู่การดื่มแล้วขับทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ผู้ที่อยู่ในยานพาหนะได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
นอกจากนี้ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังรายงานอีกว่าข้อมูลปี 2566 พบเยาวชนอายุ 15 ถึง 25 ปีเล่นพนันออนไลน์กว่า 2.9 ล้านคน ส่วนความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงทางเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลได้เก็บข้อมูลเมื่อปี 2566 พบว่า 58% เหตุการณ์เลวร้ายเหล่านี้เกิดขึ้นกับกลุ่มอายุ 11-20 ปีโดยมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาเสพติดเป็นปัจจัยร่วมสำคัญ
สถิติต่าง ๆ เหล่านี้ชี้ให้เห็นเลยว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารเสพติดต่าง ๆ เป็นปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่ความรุนแรงและความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้นอีก หรือหากสรุปให้เข้าใจง่าย คือ เยาวชนไทยหลายรายมีความเจ็บปวดทางใจจากสาเหตุต่าง ๆ ในชีวิตอยู่แล้วเมื่อมีการเข้าไปมั่วสุมหรือยุ่งเกี่ยวเกี่ยวกับสารเสพติด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การพนันและอีกหลายปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ก็จะทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ลงไปอีก ซ้ำร้ายยังมีเยาวชนที่ไม่แม้แต่จะเกี่ยวข้องกับสารเสพติดหรือแอลกอฮอล์แต่กลับได้รับผลกระทบจากสิ่งเหล่านี้ทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลย
ความเจ็บปวดที่ “รุมเร้า” ของวัยรุ่น
เวทีเสวนา Active Youth “Pain to Power” ได้เปิดพื้นที่ให้เยาวชนผู้เคยเผชิญกับบาดแผลทางใจและผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยง ได้ลุกขึ้นเล่าเรื่องราวชีวิตที่ไม่เพียงสะท้อนความทุกข์ แต่ยังตอกย้ำให้เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวสามารถส่งผลต่อเยาวชนได้โดยตรง
หนึ่งในนั้นคือ “น้องบี” (นามสมมุติ) นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่เติบโตมาท่ามกลางบรรยากาศครอบครัวซึ่งพ่อมีพฤติกรรมดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่หนัก กระทั่งพ่อของเธอเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ส่งผลให้เธอต้องกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวตั้งแต่อายุ 16 ปี
นอกจากภาระทางบ้านแล้ว ซ้ำร้ายแม่และพี่สาวต้องเจ็บป่วยเพราะควันบุหรี่มือสองที่ได้รับจากพ่อมานาน อีกทั้งเธอยังถูกบูลลี่และด้อยค่าจากญาติ รวมถึงต้องเผชิญกับความสัมพันธ์ที่ Toxic จากแฟนหนุ่มซึ่งใช้สารเสพติดและดื่มแอลกอฮอล์ จนกลายเป็นการซ้ำเติมความเจ็บปวดทางใจ ส่งผลให้เธอมีภาวะซึมเศร้าและความเสี่ยงที่จะทำร้ายตนเอง
น.ส.เพชรลดา ศรัทธารัตนตรัย แกนนำเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง ได้สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรงจาก “บุหรี่ไฟฟ้า” แม้ว่าภาครัฐจะมีมาตรการควบคุมการจำหน่ายบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเข้มงวด แต่การซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ยังเปิดช่องให้เยาวชนเข้าถึงได้ง่าย
บุหรี่ไฟฟ้าที่มีปริมาณนิโคตินและสารเคมีสูงไม่เพียงก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบทางเดินหายใจ แต่ในกรณีของเธอ ได้ป่วยเป็นโรคปอดอักเสบจากการรับควันบุหรี่มือสองจากคนรอบตัว อยากให้ทุกคนร่วมปกป้องเยาวชนจากปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้
“หนูคือคนที่ได้รับผลกระทบ ควันบุหรี่มือสองจากคนรอบกาย เข้าออกโรงพยาบาลรักษาอยู่หลายปีคำคำถามคือหนูผิดอะไรคะทำไมถึงหยิบยื่นความเจ็บป่วยนี้ให้กับหนู เช่นเดียวกันว่าเด็กและเยาวชนในปัจจุบันนี้ผิดอะไรคะ ถึงหยิบยื่นปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ให้กับพวกเขา หลายคนบอกว่าเยาวชนคืออนาคตของชาติ แต่อย่าหลงลืมว่าเราเองก็เป็นปัจจุบันของชาติเช่นเดียวกัน ถ้าไม่ร่วมกันปกป้องเยาวชนจากปัจจัยเหล่านี้ จะเติบโตไปเป็นอนาคตของชาติได้อย่างไร”น.ส.เพชรลดา กล่าว
เรื่องราวจากทั้งสองกรณีสะท้อนชัดว่า แม้เยาวชนบางคนจะไม่ได้เลือกเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงโดยตรง แต่การอยู่ใกล้ชิดกับบุคคลที่ดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ รวมถึงการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าอย่างง่ายดาย ก็สามารถสร้างบาดแผลทางใจและทางกายได้ไม่ต่างกัน รวมไปถึงความกดดันและบาดแผลทางใจที่เยาวชนจำนวนมากต้องเผชิญ ยังกลายเป็นแรงผลักดันให้บางคนหันไปพึ่งพาปัจจัยเสี่ยงในรูปแบบต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การใช้สารเสพติด การพนัน ไปจนถึงการใช้ความรุนแรง ซึ่งแม้อาจถูกมองว่าเป็น “ทางออกชั่วคราว” ของความเครียดและความเจ็บปวด แต่กลับยิ่งซ้ำเติมปัญหาทั้งต่อตัวเยาวชน ครอบครัว และสังคมโดยรวม
เสียงหัวใจของเราดังพอ…ที่จะกำหนดเส้นทางเอง
ไม่เพียงแค่เยาวชนเท่านั้นที่ได้ลุกขึ้นมาเล่าเรื่องราวของความเจ็บปวดและการต่อสู้ ในเวที “Active Youth: Pain to Power” ยังมีศิลปินที่เข้าร่วมสะท้อนประสบการณ์ด้วย หนึ่งในนั้นคือ คุณรัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย หรือ แพท วง Klear ที่เล่าถึงความกดดันจากเส้นทางการทำงานในวงการเพลง ซึ่งเต็มไปด้วยความคาดหวังการแข่งขันและปัญหารอบตัวที่รุมเร้า ไม่ต่างจากเยาวชนในปัจจุบันที่มักตั้งคำถามว่า ทำไมต้องเป็นเราที่เจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้
และแน่นอนว่า ตลอดเส้นทางจากวัยรุ่นสู่การเป็นศิลปิน ปัจจัยเสี่ยงอย่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือบุหรี่ กลายเป็นสิ่งที่ผ่อนคลายในช่วงสั้น ๆ แต่กลับส่งผลกระทบอย่างหนักเมื่อต้องทำงาน ทำให้ร่างกายอ่อนล้าและเจ็บป่วยถึงขั้นมีอาการเส้นเสียงอักเสบ จนตระหนักว่าไม่คุ้มที่จะเสี่ยงกับสิ่งเหล่านี้จึงค่อย ๆ พัฒนาตัวเองพร้อมกับเปลี่ยนมุมมองในการต่อสู้กับปัญหาต่าง ๆ จนสามารถเลิกดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ มานานกว่า 10 ปี และถือคติว่า ทุกสิ่งอย่าง
เสียงสะท้อนเหล่านี้ ต่างแสดงให้เห็นว่า ความเจ็บปวดและความกดดันที่เยาวชนต้องเผชิญ ไม่ว่าจะจากครอบครัว เพื่อน หรือสภาพแวดล้อมรอบตัว สามารถกลายเป็นแรงผลักดันให้หันไปสู่ปัจจัยเสี่ยงอย่างบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การใช้สารเสพติด หรือการพนัน
สอดคล้องกับสิ่งที่นักจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่นย้ำมาเสมอว่า การมีพื้นที่ให้เยาวชนพูด การได้รับการยอมรับ และการสนับสนุนจากสังคม คือเกราะป้องกันชั้นดีที่จะช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นวิกฤตทางใจและป้องกันพวกเขาจากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ
บทเรียนสำคัญเหล่านี้สอดคล้องกับบทบาทของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ เครือข่ายเยาวชลดปัจจัยเสี่ยง มูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว ที่มุ่งสร้างสภาพแวดล้อมและกิจกรรมเพื่อป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ในกลุ่มเยาวชน ผ่านการให้ความรู้
การสนับสนุนเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเยาวชน ทำให้พวกเขาได้สะท้อนความคิด ความเจ็บปวด และค้นพบทางเลือกในการจัดการกับความเครียด พร้อมเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางใจ เพื่อให้เยาวชนสามารถกำหนดเส้นทางชีวิตของตนเองได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย







