ซื้อ "หวยทิพย์"ได้เงินหมื่น บางคนต่อเดือน บางคนต่อปี

ข้อมูลจากศูนย์ศึกษาปัญหาพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า คนไทยราว 25 ล้านคน ซื้อหวยเป็นประจำ เฉลี่ย 19-20 งวดต่อปี เว้นวรรค 3-4 งวด

บางคนชอบซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล บางคนชอบซื้อหวยใต้ดิน เพราะเข้าไม่ถึงหวยรัฐบาล และ 1 ใน 3 ที่เล่นทั้งสองอย่างเพื่อกระจายความเสี่ยง

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยธนาคารทหารไทย เคยสรุปตัวเลขจำนวนเงินที่คนไทยหมดไปกับหวยใน 1 ปี ว่า ถึง 2.5 แสนล้านบาท

“เงินที่คนไทยซื้อหวยทั้งปี เทียบแล้วสามารถเอามาให้รัฐบาลสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินได้ สร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ได้ 1 โครงการ” นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าว

ขณะที่คนไทยเล่นหวยหนัก เล่นหลักพันต่องวด เดือนหนึ่งหมดไปประมาณ 5 พันบาทหรือ 1 หมื่นบาท หรือผู้สูงอายุ เงินเบี้ยผู้สูงอายุไม่เคยเก็บ 600 บาทได้มาก็ไปกับหวยทันที หมดเงินไปกับการพนันจำนวนมาก แต่เป็นเงินกลับมาให้คนถูกหวยไม่กี่คน แต่คนเล่นมีหลายล้าน

ล็อตเตอรี่ศึกษาเปลี่ยนเงินหวยเป็นเงินออม

เงินจากการเล่นหวยสามารถเปลี่ยนมาเป็นเงินออมได้ โดยมูลนิธิรณรงค์หยุดพนันและสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ( สสส.) ได้พัฒนาเครื่องมือสนับสนุนเปลี่ยนเงินหวยเป็นเงินออมขึ้น  2 เครื่องมือ ได้แก่ 

 1. ล็อตเตอรีศึกษา เป็นหลักสูตร 2 ชั่วโมง ให้ความรู้กับครอบครัวและผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของการเล่นหวย มุ่งเน้นให้รู้เท่าทัน 3 เรื่อง คือ

•  รู้เท่าทัน “ความหวัง” ที่หวังว่าสักวันหวยจะทำให้เรารวยเปรี้ยงเปลี่ยนชีวิต
• รู้เท่าทัน “ความเชื่อ” มีความเชื่อบางอย่างที่ยังทำให้เราหลงเล่นหวยไม่เลิก เช่น เชื่อว่าการถูกหวยเป็นเรื่องง่าย เชื่อว่าเฉียดงวดนี้จะดลบันดาลให้เราถูกในงวดหน้า ซึ่งไม่เป็นความจริง
•  รู้เท่าทันและเข้าใจความจริง ว่าโอกาสถูกหวยมีน้อยมาก โอกาสถูกหวยรวยเปรี้ยง มีเพียง 1 ในล้านก็แทบเป็น 0 มีน้อยมาก ทำให้เข้าใจว่า ฝันจะถูกหวยมีโอกาสน้อยมาก เสียเงินเป็น 10 ปี สู้เปลี่ยนเป็นเงินออมดีกว่า

 พี่เลี้ยงการเงิน อุดรูรั่ว ปลดหนี้เร็ว  

2.หลักสูตรพี่เลี้ยงการเงิน  อบรมให้กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ในชุมชน เพื่อเป็นพี่เลี้ยงการเงินให้คำแนะนำชาวบ้าน เกี่ยวกับการอุดรูรั่วทางการเงิน  ระบบดอกเบี้ย และหนี้ต่างๆ ด้วยการนำเครื่องมือ 3 ชิ้นไปแนะนำชาวบ้านให้เกิดความรู้และมีการติดตามผลจะทำให้มีความยั่งยืน คือ

• เครื่องมือตรวจเช็กพฤติกรรมรายจ่ายประจำเดือน คือ การทำบัญชีรายรับรายจ่ายระจำเดือน
• เครื่อมือตรวจเช็กสุขภาพการเงินรายปี ซึ่งชาวบ้านไม่เคยทำ คือ เรื่องการทำบัญชีงบดุล บัญชีสินทรัพย์และหนี้สินแต่ละปีของครัวเรือน
• เครื่องมือรู้จักดอกเบี้ยเงินกู้และหลักการปิดหนี้  เช่น ดอกเบี้ยลอยตัว ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก หรือดอกเบี้ยคงที่ จะได้รู้ควรปิดหนี้ตัวไหนก่อนและจะได้ผลเร็วได้ผลช้า  

ข้อแนะนำในการปลดหนี้ที่พี่เลี้ยงการเงินจะแนะนำ คือ 

1. หยุดก่อหนี้ก่อน หรือหยุดสร้างหนี้ใหม่ อย่าไปคิดว่าการพนันจะช่วยให้เรามีเงินจะมาช่วยให้เรามีเงินมาปลดหนี้ การพนันจะช่วยซ้ำเติมให้เรามีหนี้มากขึ้น

2. มาเช็กว่าเป็นหนี้อะไรบ้าง หนี้จ่ายดอกแบบไหน แบบไหนควรปิดก่อนหรือไว้ทีหลัง

3. เป็นหนี้ไม่ต้องหนีหรืออย่าหนี เพราะไม่ใช่เจ้าหนี้ทุกคนจะมาเอาชีวิตเรา ส่วนใหญ่ต้องการเงินคืน เราตายไปเขาไม่ได้เงิน และกลายเป็นอาชญากรด้วยซ้ำ เขาต้องการเงินคืน อย่าหนีแต่ต้องซื่อสัตย์ที่จะใช้คืน ต้องเคลียร์กับเขาว่าจะใช้คืนเท่าไรในแต่ละเดือน ต้องจัดการหนี้ให้เป็น 

 จากที่ดำเนินการมามีเรื่องความประทับใจเกิดขึ้นหลายจังหวัด เช่น จ.เลย มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง สามีไม่เข้าใจว่าเงินที่ส่งให้ภรรยาทุกเดือน ภรรยาเอาไปไหน ร้อนใจถึงขั้นจะฟ้องหย่า ภรรยามาปรึกษาพี่เลี้ยงการเงินว่าจะทำอย่างไร

พี่เลี้ยงการเงินบอกว่าให้ทำบัญชีรายรับรายจ่ายแจกแจงให้สามีเห็น ปรากฏว่า เครื่องมือนี้มหัศจรรย์ พอสามีเห็นว่าเงินที่ส่งแต่ละเดือนภรรยาเอาไปทำอะไรก็เข้าใจและเห็นใจ ซาบซึ้งในสิ่งที่ภรรยาทำ ก็กลับมาคืนดีกัน

“หวยทิพย์”ซื้อเท่าไหร่ ได้เท่านั้น  

 “หวยทิพย์” เป็นอีกเครื่องมือที่ช่วยเปลี่ยนเงินจากเล่นหวยเป็นเงินออมได้จริง ขณะนี้ขับเคลื่อนแล้วใน 9 จังหวัด คือ ลำปาง น่าน พะเยา เลย สุรินทร์ กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี สระบุรี และพัทลุง

 วิธีการจะให้เขียนตัวเลขลงกระดาษพร้อมติดเงินที่ปกติเราซื้อหวยเข้าไป แล้วเก็บไว้ จากนั้นมาดูว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ ซึ่งจะทำให้เห็นการเปรียบเทียบที่ชัดเจนว่า กว่าจะถูกหวยนั้น ต้องเสียเงินไปมากน้อยเท่าไหร่   

“การซื้อหวยทิพย์แบบนี้ ชาวบ้านก็ยังเก็บเงินไว้กับตัว ไม่ได้เสียไปให้เจ้ามือ ทำให้ชาวบ้านเห็นว่าการที่ซื้อหวยได้ไม่คุ้มเสีย และเห็นเงินที่ลงไปกับหวย สามารถกลายเป็นเงินออมให้ตัวเองได้เป็นก้อน เงินที่ซื้อหวยทิพย์ไปเท่าไหร่ ก็เป็นเงินออมเท่านั้น และไม่ต้องเสียเงิน”ธนากรกล่าว 

ตัวอย่างหนึ่งที่ จ.สระบุรี  ภรรยารายหนึ่งแอบเก็บเงินของสามีที่มาฝากเธอซื้อหวยทุกงวด เพราะรู้ว่าโอกาสถูกหวยน้อยมาก จึงไม่ซื้อและเก็บเงินไว้เองเรื่อยมานานพอสมควร วันหนึ่งครอบครัวเกิดปัญหาเรื่องการเงิน สามีจนปัญญาไม่รู้จะเอาเงินจากไหนมาใช้ ภรรยาจึงนำเงินที่เก็บจากการซื้อหวยของสามีที่ผ่านมากทั้งหมด ซึ่งไม่เคยเสียไปให้กับเจ้ามือ ออกมาให้ได้ใช้จ่ายในครอบครัว คือการเปลี่ยนเงินหวยเป็นเงินออมนำมาแก้วิกฤตการเงินของครอบครัวได้จริง 

เช่นเดียวกับ สุจิตรา ฝาสันเทียะ ผู้จัดการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน เล่าว่า  คุณสิทธิชัย ฤทธิ์สิทธ์ จะซื้อหวยทุกงวด เดือนละ 2 งวด เป็นเงินไม่น้อยกว่า 2,000 บาท ผลหวยออกมาไม่เคยถูกเลยมีเพียงเฉียดไปมา และ ได้ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการตั้งแต่ปี 2562 ช่วงแรกยังมีการซื้อหวยจริงเหมือนเดิม แต่ก็จดบันทึกเงินที่เสียไป ทำให้เห็นว่าที่ซื้อไปนั้นไม่เคยถูกเลย 

จึงลดจำนวนซื้อลงเหลือเดือนละ 400-500 บาท ก็ไม่ถูก  ทดลองอยู่ 4 เดือน เมื่อรวมเงินที่ซื้อและเสียไปกับหวยราว 3,000-4,000 บาท หากรวมทั้งปีหากไม่มีการซื้อหวยจริง  ครอบครัวก็ได้เงินค่าหวยมาเป็นเงินออมไม่น้อยกว่า 10,000 บาท ตอนนี้เลยเลิกซื้อหวยโดยเด็ดขาด

หรืออีกกรณีในชุมชนกทม.คนหนึ่งนำเงินที่ลูกส่งให้แต่ละเดือนไปซื้อหวยเดือนละเป็นหมื่นบาท โดยคิดว่ายังไงก็ถูกเพราะซื้อจำนวนมาก แต่จริงๆเปอร์เซ็นต์ถูกก็น้อยกว่าไม่ถูก และไม่เคยบอกลูกว่านำเงินไปซื้อหวย บอกว่า ไปหาหมอ ไปทำนั่นทำนี้

ที่สำคัญมีการตระเวนหาเลขเพื่อมาซื้อหวยด้วย ซื้อเป็นหมื่น 15,000 หรือบางงวด 20,000 บาท แต่ก็ไม่เคยได้คืนจนเป็นหนี้หลายแสน  ลูกๆก็ปลดหนี้ให้ แล้วมาทดลองด้วยการซื้อหวยทิพย์ ทำให้เห็นว่าแต่ละเดือนได้เงินมาเป็นเงินออม 15,000-20,000 บาท จากที่ซื้อหวยทิพย์เก็บเงินไว้กับตัว เงินที่ซื้อก็ยังอยู่ครบ ไม่ต้องเสียเงินไปให้กับเจ้ามือจากการที่รู้ผลหวยแล้วไม่ถูก ซึ่งตอนนี้ก็เลิกซื้อหวยแล้ว

“หวยทิพย์ทำให้คนที่ซื้อหวย ได้เห็นว่าโอกาสที่จะถูกหวยนั้นมีน้อยมาก เพราะเลขที่เขาเขียนไว้เป็นหวยทิพย์นั้น ไม่ถูกเลย และได้เห็นจำนวนเงินที่ต้องเสียไปจากการซื้อหวยซึ่งไม่ถูกเลย เมื่อซื้อหวยทิพย์ ก็ไม่เสียเงินไป เงินอยู่ครบ เป็นส่วนเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว จากเดิมที่เป็นรายจ่ายแบบสูญเปล่า”สุจิตรากล่าว

โครงการเปลี่ยนเงินหวยเป็นเงินออม หลักสูตรลอตเตอรี่ศึกษา หลักสูตรพี่เลี้ยงการเงิน และเครื่องมือที่เรียกว่าหวยทิพย์ มีการนำเสนอในระหว่างที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี่ เพื่อติดตามงานเรื่อง "ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ สร้างเสริมสุขภาพ" ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับสนับสนุนจากสสส.